The effects of coating papaya fruit

The effects of coating papaya fruit (Carica papaya) with cassava starch were studied to determine the
best concentration and mode of action of this material in postharvest control of anthracnose. The concentrations
of starch tested were 1%, 2%, 3% and 4%. These were prepared to give gel consistency. Surface sterilized papaya
fruits were inoculated with conidia of Colletotrichum gloeosporioides and incubated for 48 h in a moisture chamber.
The fruits were then treated with cassava gels and dried. During the following 14 d storage period, fruit maturation
and anthracnose on the fruits were assessed, and electron microscopy was used to examine fruit epicarps. All
cassava starch coating concentrations reduced fruit maturation and anthracnose, with the 2%, 3% and 4% coatings
giving 100% disease control. The 2% starch coating is likely to be optimum, considering the lower cost efficiency of
disease control. The mechanism of disease control provided by the coating is likely to be related to delay of ripening
and the formation of a protective layer over the fruit.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผลของการเคลือบผลไม้มะละกอ (มะละกอสกุลมะละกอ) กับแป้งมันสำปะหลังที่มีศึกษาการตรวจสอบการความเข้มข้นที่ดีที่สุดและโหมดของการดำเนินการของวัสดุนี้ anthracnose ควบคุมหลังการเก็บเกี่ยว ความเข้มข้นแป้งที่ทดสอบมี 1%, 2%, 3% และ 4% เหล่านี้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อให้สอดคล้องเจ มะละกอผิวฆ่าเชื้อผลไม้ inoculated กับ conidia ของ Colletotrichum gloeosporioides และรับการกก 48 ชั่วโมงในห้องความชื้นผลไม้ได้รับการรักษา ด้วยเจมันสำปะหลัง แล้วแห้ง ช่วงต่อไปนี้ 14 d เก็บ ผลไม้เจริญเติบโตและถูกประเมิน anthracnose บนผลไม้ และชาวดัตช์ใช้ในการตรวจสอบผลไม้ epicarps ทั้งหมดลดความเข้มข้นของสีแป้งมันสำปะหลังเจริญเติบโตของผลไม้และ anthracnose กับเคลือบ 2%, 3% และ 4%ให้ควบคุมโรค 100% การเคลือบแป้ง 2% มีแนวโน้มที่ดีที่สุด พิจารณาประสิทธิภาพต้นทุนต่ำการควบคุมโรค กลไกของการควบคุมโรคโดยการเคลือบมีแนวโน้มที่จะเกี่ยวข้องกับความล่าช้าในการสุกและการก่อตัวของชั้นป้องกันไปผลไม้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผลของผลไม้เคลือบมะละกอ (มะละกอ) กับแป้งมันสำปะหลังมีการศึกษาเพื่อตรวจสอบ
ความเข้มข้นที่ดีที่สุดและโหมดของการกระทำของสารนี้ในการควบคุมหลังการเก็บเกี่ยวของแอนแทรกโน ความเข้มข้น
ของแป้งที่ผ่านการทดสอบเป็น 1%, 2%, 3% และ 4% เหล่านี้ได้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อให้สอดคล้องเจล พื้นผิวที่ผ่านการฆ่าเชื้อมะละกอ
ผลไม้ถูกเชื้อกับสปอร์ของเชื้อรา Colletotrichum และบ่มเป็นเวลา 48 ชั่วโมงในห้องความชื้น.
ผลไม้ที่ได้รับการรักษาแล้วด้วยเจลมันสำปะหลังและแห้ง ในช่วงระยะเวลาการจัดเก็บ 14 D ต่อไปนี้การเจริญเติบโตของผลไม้
และผลไม้แอนแทรกโนได้รับการประเมินและกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนถูกใช้ในการตรวจสอบ epicarps ผลไม้ ทุก
ความเข้มข้นของสารเคลือบผิวแป้งมันสำปะหลังลดการเจริญเติบโตของผลไม้และแอนแทรกโนกับ 2%, 3% และ 4% เคลือบ
ให้การควบคุมโรค 100% เคลือบแป้ง 2% มีแนวโน้มที่จะดีที่สุดเมื่อพิจารณาประสิทธิภาพลดค่าใช้จ่ายของ
การควบคุมโรค กลไกของการควบคุมโรคให้โดยการเคลือบผิวมีแนวโน้มที่จะเกี่ยวข้องกับความล่าช้าของการสุก
และการก่อตัวของชั้นป้องกันมากกว่าผลไม้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผลของผลไม้มะละกอ ( มะละกอ ) เคลือบด้วยแป้งมันสำปะหลัง ศึกษากำหนดของที่ดีที่สุดและโหมดของการกระทําของวัสดุนี้ ในการควบคุมโรคหลังการเก็บเกี่ยวของ . ความเข้มข้นแป้งทดสอบคือ 1% , 2% , 3% และ 4% ตามลำดับ เหล่านี้ถูกเตรียมไว้เพื่อให้เจลความสอดคล้อง ฆ่าเชื้อที่ผิวมะละกอผลไม้ที่ใส่โคนิเดียของ Colletotrichum gloeosporioides บ่ม 48 ชั่วโมงในความชื้น .แล้วได้รับการรักษาด้วยเจลผลไม้ มันสำปะหลัง และอบแห้ง ในช่วง 14 D กระเป๋าระยะเวลาต่อไปนี้ บ่มผลไม้โรคแอนแทรคโนสบนผล และประเมิน และจุลทรรศน์อิเล็กตรอนถูกใช้ในการตรวจสอบ epicarps ผลไม้ ทั้งหมดแป้งมันสำปะหลังความเข้มข้นลดลง การเคลือบผลไม้และโรคแอนแทรคโนสกับ 2% , 3% และ 4% เคลือบให้ควบคุมโรค 100% 2 % แป้งเคลือบน่าจะเหมาะสม พิจารณาลดต้นทุน ประสิทธิภาพของการควบคุมโรค กลไกของการควบคุมโรค โดยการเคลือบผิวมีแนวโน้มที่จะเกี่ยวข้องกับการสุกและการสะสมของชั้นป้องกันมากกว่าผลไม้