By the late 1980s, the technology r

By the late 1980s, the technology required to produce truly commercial digital cameras existed. The first true portable digital camera that recorded images as a computerized file was likely the Fuji DS-1P of 1988, which recorded to a 2 MB SRAM memory card that used a battery to keep the data in memory. This camera was never marketed to the public.

The first digital camera of any kind ever sold commercially was possibly the MegaVision Tessera in 1987 [22] though there is not extensive documentation of its sale known. The first portable digital camera that was actually marketed commercially was sold in December 1989 in Japan, the DS-X by Fuji The first commercially available portable digital camera in the United States was the Dycam Model 1, first shipped in November 1990. It was originally a commercial failure because it was black and white, low in resolution, and cost nearly $1,000 (about $2000 in 2014). It later saw modest success when it was re-sold as the Logitech Fotoman in 1992. It used a CCD image sensor, stored pictures digitally, and connected directly to a computer for download.

In 1991, Kodak brought to market the Kodak DCS (Kodak Digital Camera System), the beginning of a long line of professional Kodak DCS SLR cameras that were based in part on film bodies, often Nikons. It used a 1.3 megapixel sensor, had a bulky external digital storage system and was priced at $13,000. At the arrival of the Kodak DCS-200, the Kodak DCS was dubbed Kodak DCS-100.

The move to digital formats was helped by the formation of the first JPEG and MPEG standards in 1988, which allowed image and video files to be compressed for storage. The first consumer camera with a liquid crystal display on the back was the Casio QV-10 developed by a team led by Hiroyuki Suetaka in 1995. The first camera to use CompactFlash was the Kodak DC-25 in 1996.[citation needed]. The first camera that offered the ability to record video clips may have been the Ricoh RDC-1 in 1995.

In 1995 Minolta introduced the RD-175, which was based on the Minolta 500si SLR with a splitter and three independent CCDs. This combination delivered 1.75M pixels. The benefit of using an SLR base was the ability to use any existing Minolta AF mount lens. 1999 saw the introduction of the Nikon D1, a 2.74 megapixel camera that was the first digital SLR developed entirely from the ground up by a major manufacturer, and at a cost of under $6,000 at introduction was affordable by professional photographers and high-end consumers. This camera also used Nikon F-mount lenses, which meant film photographers could use many of the same lenses they already owned.

Digital camera sales continued to flourish, driven by technology advances. The digital market segmented into different categories, Compact Digital Still Cameras, Bridge Cameras, Mirrorless Compacts and Digital SLRs. One of the major technology advances was the development of CMOS sensors, which helped drive sensor costs low enough to enable the widespread adoption of camera phones.

Since 2003, digital cameras have outsold film cameras and Kodak announced in January 2004 that they would no longer sell Kodak-branded film cameras in the developed world - and 2012 filed for bankruptcy after struggling to adapt to the changing industry.Smartphones now routinely include high resolution digital cameras.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ปลายทศวรรษที่ 1980 เทคโนโลยีการสร้างกล้องดิจิตอลเชิงพาณิชย์อย่างแท้จริงอยู่ แรกจริงพกพากล้องดิจิตอลที่บันทึกภาพเป็นไฟล์คอมพิวเตอร์มีแนวโน้มถูก P DS-1 ฟูจิของ 1988 ซึ่งบันทึกลงในการ์ดหน่วยความจำ SRAM 2 MB ที่ใช้แบตเตอรี่ในการเก็บข้อมูลในหน่วยความจำ กล้องนี้ถูกทำตลาดไม่ให้ประชาชนกล้องแรกใดเคยขายในเชิงพาณิชย์ได้อาจ MegaVision Tessera 1987 [22] แต่ไม่มีเอกสารขายรู้จักกันอย่างละเอียด แบบแรกแบบพกพากล้องดิจิตอลที่ถูกวางตลาดจริงในเชิงพาณิชย์ถูกขายในเดือน 1989 ธันวาคมในญี่ปุ่น X DS โดยฟูจิครั้งแรกใช้ได้ในเชิงพาณิชย์แบบพกพากล้องแบบดิจิทัลในสหรัฐอเมริกามีราคา 1 ของ แบบจำลอง Dycam จัดครั้งแรก ในเดือน 1990 พฤศจิกายน ได้เดิมความล้มเหลวในเชิงพาณิชย์เนื่องจากมีสีขาวดำ ความละเอียด ต่ำ และต้นทุน เกือบ $1000 (ประมาณ $2000 ในปี 2014) ภายหลังเห็นความสำเร็จที่เจียมเนื้อเจียมตัวเมื่อมันถูกขายอีกครั้งเป็น Logitech Fotoman 1992 มันใช้เซนเซอร์ภาพ CCD เก็บรูปภาพดิจิทัล และเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์เพื่อดาวน์โหลดโดยตรงในปีพ.ศ. 2534 โกดักนำตลาดโกดัก DCS (โกดักดิจิตอลกล้องระบบ), จุดเริ่มต้นของกล้องโกดัก DCS SLR มืออาชีพถูกใช้ในส่วนร่างกายฟิล์ม Nikons มัก สัน มันใช้เซนเซอร์ 1.3 ล้านพิกเซล มีระบบจัดเก็บข้อมูลดิจิตอลภายนอกขนาดใหญ่ และมีราคาที่ $13,000 ที่มาของโกดัก DCS-200, DCS โกดักมีฉายาว่าโกดัก DCS-100ช่วยย้ายรูปแบบดิจิทัล โดยการก่อตัวของมาตรฐาน JPEG และ MPEG เป็นครั้งแรกในปี 1988 ซึ่งได้รับอนุญาตภาพและวิดีโอแฟ้มถูกบีบอัดสำหรับการจัดเก็บ แรกผู้บริโภคกล้องกับจอผลึกเหลวหลังถูก 10 QV คาสิโอที่พัฒนา โดยทีมงานที่นำ โดยฮิโระยุกิ Suetaka 1995 กล้องแรกใช้คอมแพ็คแฟลชถูกโกดัก DC-25 ในปี 1996 [อ้างจำเป็น] กล้องตัวแรกที่สามารถบันทึกวิดีโอคลิปอาจได้ Ricoh RDC-1 ในปี 1995ในปี 1995 Minolta แนะนำถนน-175 ซึ่งขึ้นอยู่กับกล้อง SLR 500si Minolta กับตัวแยกและสามใช้อิสระ ชุดนี้ส่ง 1.75M พิกเซล ประโยชน์ของการใช้ฐานกล้อง SLR มีความสามารถในการใช้เลนส์เมาท์ Minolta AF ใด ๆ ที่มีอยู่ 1999 เห็นแนะนำง 1 Nikon กล้อง 2.74 ล้านพิกเซลที่เป็น SLR ดิจิตอลแรกพัฒนาจากพื้นดินขึ้นโดยผู้ผลิตหลักทั้งหมด และมีต้นทุนต่ำกว่า $6000 ที่แนะนำราคาไม่แพง โดยช่างภาพมืออาชีพและผู้บริโภคสูง กล้องตัวนี้ยังใช้เลนส์ Nikon F-ภูเขา ซึ่งหมายถึง ฟิล์มถ่ายภาพสามารถใช้เลนส์เดียวที่พวกเขาได้เป็นเจ้าของมากมายขายกล้องดิจิตอลยังคงงอกงาม ขับเคลื่อน ด้วยเทคโนโลยีความก้าวหน้า ตลาดดิจิทัลแบ่งประเภทต่าง ๆ กล้องดิจิตอลคอมแพคดิจิตอลยังคง สะพานกล้อง กระชับ Mirrorless และ SLRs ดิจิตอล ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่สำคัญอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นการพัฒนาเซ็นเซอร์ CMOS ซึ่งช่วยให้ไดรฟ์เซ็นเซอร์ต้นทุนต่ำพอที่ให้การยอมรับอย่างแพร่หลายของกล้องโทรศัพท์ตั้งแต่ 2003 กล้องดิจิตอลมี outsold กล้องฟิล์ม และโกดักประกาศในเดือน 2004 มกราคมที่ พวกเขาจะไม่ขายกล้องฟิล์มโกดักตราสินค้าในโลกพัฒนา - 2012 ยื่นสำหรับล้มละลายหลังจากการดิ้นรนเพื่อปรับให้เข้ากับอุตสาหกรรมการเปลี่ยนแปลง สมาร์ทโฟนตอนนี้เป็นประจำรวมถึงกล้องดิจิตอลความละเอียดสูง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในช่วงปลายทศวรรษที่ 1980 เทคโนโลยีที่จำเป็นในการผลิตกล้องดิจิตอลในเชิงพาณิชย์อย่างแท้จริงอยู่ ครั้งแรกที่ความจริงแบบพกพากล้องดิจิตอลที่บันทึกภาพเป็นไฟล์คอมพิวเตอร์ก็น่าจะเป็นฟูจิ DS-1P ของปี 1988 ซึ่งบันทึกการ์ดหน่วยความจำแบบ SRAM 2 MB ที่ใช้แบตเตอรี่ในการเก็บข้อมูลในหน่วยความจำ กล้องนี้ก็ไม่เคยทำการตลาดให้กับประชาชน. กล้องดิจิตอลครั้งแรกของชนิดใด ๆ ที่เคยขายในเชิงพาณิชย์อาจจะเป็น Megavision Tessera ใน 1987 [22] แม้ว่าจะมีไม่ได้เป็นเอกสารที่กว้างขวางของการขายที่รู้จักกัน กล้องดิจิตอลแบบพกพาแรกที่วางตลาดจริงในเชิงพาณิชย์ถูกขายในเดือนธันวาคมปี 1989 ในประเทศญี่ปุ่น, DS-X โดยฟูจิครั้งแรกที่ใช้ในเชิงพาณิชย์แบบพกพากล้องดิจิตอลในประเทศสหรัฐอเมริกาเป็น Dycam รุ่นที่ 1 จัดส่งครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายนปี 1990 แต่เดิมมันเป็น ความล้มเหลวในเชิงพาณิชย์เพราะมันเป็นสีดำและสีขาวในระดับต่ำในความละเอียดและค่าใช้จ่ายเกือบ $ 1,000 (ประมาณ $ 2,000 ในปี 2014) หลังจากนั้นมันก็เห็นความสำเร็จเจียมเนื้อเจียมตัวเมื่อมันเป็นอีกครั้งที่ขายเป็นโลจิเทค Fotoman ในปี 1992 มันใช้เซ็นเซอร์รับภาพ CCD จัดเก็บภาพแบบดิจิทัลและการเชื่อมต่อโดยตรงไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์สำหรับการดาวน์โหลด. ในปี 1991 โกดักนำออกสู่ตลาดโกดัก DCS (โกดัก ระบบ Digital Camera) จุดเริ่มต้นของสายยาวของมืออาชีพ Kodak DCS กล้อง SLR ที่มีอยู่ในส่วนที่เกี่ยวกับร่างกายของภาพยนตร์มักจะ Nikons มันใช้เซ็นเซอร์ 1.3 ล้านพิกเซลมีระบบจัดเก็บข้อมูลภายนอกดิจิตอลขนาดใหญ่และเป็นราคาที่ $ 13,000 ในการมาถึงของ Kodak DCS-200 ที่ Kodak DCS ถูกขนานนาม Kodak DCS-100. ย้ายไปรูปแบบดิจิตอลได้รับการช่วยเหลือจากการก่อตัวของ JPEG แรกและมาตรฐาน MPEG ในปี 1988 ซึ่งได้รับอนุญาตไฟล์ภาพและวิดีโอที่ถูกบีบอัดสำหรับ การเก็บรักษา กล้องของผู้บริโภคครั้งแรกกับจอแสดงผลคริสตัลเหลวที่ด้านหลังเป็น Casio QV-10 พัฒนาโดยทีมงานที่นำโดยฮิโรยูกิ Suetaka ในปี 1995 กล้องแรกที่ใช้ CompactFlash เป็น Kodak DC-25 ในปี 1996 [อ้างจำเป็น] กล้องแรกที่นำเสนอความสามารถในการบันทึกวิดีโอคลิปอาจจะเป็น Ricoh RDC-1 ในปี 1995 ในปี 1995 Minolta แนะนำ RD-175 ซึ่งอยู่บนพื้นฐานของ Minolta 500SI SLR กับแยกสาม CCDs อิสระ ชุดนี้ส่ง 1.75m พิกเซล ประโยชน์ของการใช้ฐาน SLR เป็นความสามารถในการใช้ใด ๆ ที่มีอยู่ Minolta AF เลนส์ 1999 เห็นการแนะนำของ Nikon D1 เป็นล้านพิกเซล 2.74 ว่าเป็นกล้องดิจิตอล SLR แรกที่พัฒนาอย่างสิ้นเชิงจากพื้นดินขึ้นโดยผู้ผลิตรายใหญ่และค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่า $ 6,000 ที่แนะนำราคาไม่แพงโดยช่างภาพมืออาชีพและผู้บริโภคระดับไฮเอนด์ กล้องนี้ยังใช้เลนส์ Nikon F-mount ซึ่งหมายความว่าช่างภาพภาพยนตร์สามารถใช้หลายเลนส์เดียวกันพวกเขาเป็นเจ้าของอยู่แล้ว. ยอดขายกล้องดิจิตอลยังคงรุ่งเรืองได้แรงหนุนจากความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี ตลาดดิจิตอลแบ่งเป็นประเภทที่แตกต่างกันขนาดกะทัดรัดกล้องดิจิตอลสะพานกล้อง Mirrorless Compacts และดิจิตอล SLRs หนึ่งในความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีที่สำคัญคือการพัฒนาของเซ็นเซอร์ CMOS ซึ่งช่วยให้ค่าใช้จ่ายเซ็นเซอร์ไดรฟ์ต่ำพอที่จะช่วยให้การยอมรับอย่างกว้างขวางของโทรศัพท์กล้อง. ตั้งแต่ปี 2003, กล้องดิจิตอลมีเขม่ากล้องฟิล์มและโกดักประกาศในเดือนมกราคมปี 2004 ที่พวกเขาจะไม่ขาย Kodak ตรากล้องฟิล์มในประเทศที่พัฒนา - และ 2012 ฟ้องล้มละลายหลังจากที่ดิ้นรนเพื่อปรับให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลง industry.Smartphones ตอนนี้เป็นประจำรวมถึงความละเอียดสูงกล้องดิจิตอล

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โดยปลายทศวรรษที่ 1980 เทคโนโลยีที่จำเป็นในการผลิตกล้องดิจิตอลในเชิงพาณิชย์อย่างแท้จริงมีอยู่ ครั้งแรกจริงแบบพกพากล้องดิจิตอลที่บันทึกภาพเป็น ไฟล์ คอมพิวเตอร์มีแนวโน้ม Fuji ds-1p 1988 ซึ่งบันทึกได้ถึง 2 MB การ์ดหน่วยความจำ SRAM ใช้แบตเตอรี่เพื่อเก็บข้อมูลไว้ในหน่วยความจำ กล้องตัวนี้เคยวางตลาดให้ประชาชน .

กล้องดิจิตอลเป็นครั้งแรกของชนิดใด ๆ ที่เคยขายในเชิงพาณิชย์ก็อาจจะ megavision เตซในปี 1987 [ 22 ] แต่ไม่มีเอกสารที่กว้างขวางของการขายที่รู้จักกัน แรกแบบพกพากล้องดิจิตอลที่กำลังวางตลาดในเชิงพาณิชย์ขายในเดือนธันวาคม 1989 ในญี่ปุ่น ds-x โดยฟูจิครั้งแรกในเชิงพาณิชย์แบบพกพากล้องดิจิตอลในสหรัฐอเมริกาเป็น dycam รุ่น 1ก่อนจัดส่งในเดือนพฤศจิกายน 2533 แต่เดิมความล้มเหลวในเชิงพาณิชย์ เพราะมันขาวดำ ความละเอียดต่ำ และต้นทุนเกือบ $ 1 , 000 ( ประมาณ $ 2 , 000 ใน 2014 ) หลังเห็นความสำเร็จเจียมเนื้อเจียมตัว เมื่อมันเป็นขายเป็นรุ่น fotoman ในปี 1992 มันใช้เซนเซอร์ CCD , การจัดเก็บภาพแบบดิจิทัล และเชื่อมต่อโดยตรงกับคอมพิวเตอร์ดาวน์โหลด

ใน 1991โกดักนำสู่ตลาด Kodak DCS ( ระบบกล้องดิจิตอล Kodak ) , การเริ่มต้นของบรรทัดยาวของมืออาชีพ SLR กล้อง Kodak DCS ที่ขึ้นอยู่ในส่วนที่เกี่ยวกับศพ ภาพยนตร์มักจะ nikons . มันใช้เซ็นเซอร์ 1.3 ล้านพิกเซล มีระบบการจัดเก็บดิจิตอลภายนอกขนาดใหญ่และเป็นราคาที่ $ 13 , 000 . การมาถึงของ Kodak dcs-200 , Kodak DCS ถูกขนานนามว่า Kodak dcs-100 .

การย้ายในรูปแบบดิจิตอลได้ช่วยโดยการสร้างมาตรฐาน MPEG และ JPEG ครั้งแรกในปี 1988 ซึ่งให้ภาพและไฟล์วิดีโอจะถูกบีบอัดสำหรับการจัดเก็บ ผู้บริโภคกล้องครั้งแรกกับแสดงผลคริสตัลเหลวที่ด้านหลังเป็น Casio qv-10 พัฒนาโดยทีมที่นำโดย ฮิโรยูกิ suetaka ในปี 1995 กล้องแรกที่ใช้คอมแพค คือ Kodak dc-25 ใน 1996 . [ อ้างอิงที่จำเป็น ]เป็นกล้องที่ให้ความสามารถในการบันทึกวิดีโอ คลิปอาจได้รับสิทธิ์ rdc-1 ในปี 1995

ใน 1995 Minolta เปิด rd-175 ซึ่งขึ้นอยู่กับ 500si SLR Minolta กับ Splitter และสาม ccds อิสระ ชุดนี้ส่งพิกเซล 1.75m . ประโยชน์ของการใช้ slr ฐานคือความสามารถที่จะใช้ใด ๆที่มีอยู่ Minolta AF เมาท์เลนส์1999 เห็นเบื้องต้นของ Nikon D1 , 2.74 ล้านพิกเซลกล้องที่เป็น SLR ดิจิตอลแรกการพัฒนาทั้งหมดจากพื้นดินขึ้นโดยผู้ผลิตรายใหญ่ , และค่าใช้จ่ายภายใต้ $ 6 , 000 ในเบื้องต้นคือ ราคาไม่แพง โดยช่างภาพมืออาชีพและผู้บริโภคระดับไฮเอนด์ กล้องตัวนี้ยังใช้เลนส์ Nikon ติด f ,ซึ่งหมายถึงช่างภาพภาพยนตร์สามารถใช้หลายที่เหมือนกันที่พวกเขาได้เป็นเจ้าของเลนส์

กล้องดิจิตอลขายยังคงรุ่งเรือง ขับเคลื่อนโดยความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ตลาดดิจิตอลแบ่งออกเป็นหมวดหมู่ที่แตกต่างกัน , ขนาดกะทัดรัดกล้องดิจิตอล , กล้อง mirrorless และสะพาน , ชิ้นงาน SLRs ดิจิตอล หนึ่งในความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่สำคัญคือการพัฒนา CMOS เซ็นเซอร์เซ็นเซอร์ซึ่งช่วยผลักดันต้นทุนต่ำพอที่จะช่วยให้การยอมรับอย่างกว้างขวางของกล้องโทรศัพท์

ตั้งแต่ 2003 , กล้องดิจิตอลขายได้ดีกว่ากล้องฟิล์ม และฟิล์ม Kodak ประกาศในเดือนมกราคม 2004 ที่พวกเขาจะขายกล้องฟิล์ม Kodak ตราสินค้าในประเทศที่พัฒนาแล้วและ 2012 ยื่นล้มละลายหลังจากที่ดิ้นรนเพื่อปรับให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมอีกต่อไปมาร์ทโฟนขณะนี้เป็นประจำ รวมถึงความละเอียดสูงแบบดิจิตอลกล้อง