The patients had a mean age of 66.9

The patients had a mean age of 66.94 years (SD = 11.62), 74%
were male, 73.2% were married, 69.3% had education up to
the “4th grade”, 57.1% lived in the village, 70.1% were
retired, 49.6% had an income below “one minimum wage” and
51.6% reported having some economic difÀ culties (Table 1).
The majority of patients (50,4%) did not adhere to treatment
and men adhered less than women (53.2% vs. 57.6%;
P = .132).
We have found that the value relative to patients’ beliefs
about the speciÀ c needs of the prescribed medication varies
between 15 and 25, corresponding to a mean of 20.78
(SD = 2.31). The speciÀ c concerns dimension evaluates the
beliefs related to the dangers of dependence and toxicity or
long-term side effects. This ranged between 5 and 24, which
corresponds to a mean of 14.37 (SD = 3.42).
Women had a strong belief in the speciÀ c needs of the
prescribed medication, while men expressed greater belief
in concerns, but without statistical signiÀ cance
To check the effect of beliefs about medicines in
adherence to treatment, we found a very low correlation
in the speciÀ c needs (r = î0.014; P = .830) and moderate in
speciÀ c concerns (r = î0.367; P = .000). Moreover, we noted
that the beliefs establish inverse relationships, being only
signiÀ cant for the speciÀ c concerns dimension.
Through multiple linear regression by stepwise method,
we identiÀ ed a prediction model in which only the speciÀ c

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผู้ป่วยที่มีอายุเฉลี่ย 66.94 ปี (SD = 11.62), 74%มีชาย 73.2% ได้แต่งงานกัน 69.3% มีการศึกษาสูงสุด"เกรด 4", 57.1% อาศัยอยู่ในหมู่บ้าน 70.1%ปลดเกษียณ 49.6% มีรายได้ด้านล่าง "ค่าจ้างขั้นต่ำหนึ่ง" และ51.6% รายงานมีบาง culties difÀ เศรษฐกิจ (ตารางที่ 1)ส่วนใหญ่ของผู้ป่วย (50,4%) ไม่ยึดติดการรักษาและปฏิบัติตามผู้ชายน้อยกว่าผู้หญิง (53.2% เทียบกับ 57.6%P =.132).เราได้พบว่าค่าสัมพันธ์กับความเชื่อของผู้ป่วยเกี่ยวกับความ speciÀ c ยาที่แตกต่างกันไประหว่าง 15 และ 25 ที่สอดคล้องกับความหมายของ 20.78(SD = 2.31) มิติเรื่อง c speciÀ ประเมินการความเชื่อที่เกี่ยวข้องกับอันตรายของการพึ่งพาและความเป็นพิษ หรือผลข้างเคียงระยะยาว นี้อยู่ในช่วงระหว่าง 5 และ 24 ซึ่งสอดคล้องกับความหมายของ 14.37 (SD = 3.42)ผู้หญิงมีใน speciÀ c ความการยารักษา ในขณะที่ผู้ชายแสดงความเชื่อมากขึ้นในความกังวล แต่ โดยสถิติ signiÀ canceการตรวจสอบผลของความเชื่อเกี่ยวกับยาในยึดมั่นในการรักษา เราพบความสัมพันธ์ที่ต่ำมากใน speciÀ c ความต้องการ (r = î0.014 P =.830) และปานกลางในspeciÀ c ความกังวล (r = î0.367 P =.000). นอกจากนี้ เรากล่าวว่า ความเชื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ผกผัน การเท่านั้นไม่สามารถ signiÀ สำหรับมิติเรื่อง c speciÀผ่านหลายถดถอยเชิงเส้นโดยวิธียังคงเรา identiÀ ed คาดการณ์รูปแบบที่เฉพาะ c speciÀ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผู้ป่วยมีอายุเฉลี่ย 66.94 ปี (SD = 11.62) 74%
เป็นเพศชาย 73.2% แต่งงานกัน 69.3% มีการศึกษาถึง
ว่า "เกรด 4" 57.1% อาศัยอยู่ในหมู่บ้านที่ 70.1% กำลัง
เกษียณ 49.6 % มีรายได้ต่ำกว่า "หนึ่งในค่าจ้างขั้นต่ำ" และ
51.6% มีรายงานว่าบาง culties DIFA เศรษฐกิจ (ตารางที่ 1).
ส่วนใหญ่ของผู้ป่วย (50,4%) ไม่ได้เป็นไปตามการรักษา
และปฏิบัติตามผู้ชายน้อยกว่าผู้หญิง (53.2% เมื่อเทียบกับ 57.6%;
. p = 0.132)
เราพบว่าค่าเมื่อเทียบกับความเชื่อของผู้ป่วย
เกี่ยวกับ C ความต้องการพิเศษของยาที่กำหนดแตกต่างกัน
ระหว่างวันที่ 15 และ 25 ซึ่งสอดคล้องกับค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 20.78
(SD = 2.31) Specia กังวล C มิติประเมิน
ความเชื่อที่เกี่ยวข้องกับอันตรายของการพึ่งพาอาศัยและความเป็นพิษหรือ
ระยะยาวผลข้างเคียง นี้อยู่ในช่วงระหว่างวันที่ 5 และ 24 ซึ่ง
สอดคล้องกับค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 14.37 (SD = 3.42).
ผู้หญิงมีความเชื่อมั่นในคความต้องการพิเศษของ
ยาที่กำหนดในขณะที่คนแสดงความเชื่อมากขึ้น
ในความกังวล แต่ไม่มีนัย Signia สถิติ
ในการตรวจสอบ ผลของความเชื่อเกี่ยวกับยาใน
การยึดมั่นในการรักษาเราพบความสัมพันธ์ที่ต่ำมาก
ใน C ความต้องการพิเศษ (r = î0.014; p = 0.830) และในระดับปานกลางใน
specia กังวล C (r = î0.367; P = 000) นอกจากนี้เรายังตั้งข้อสังเกต
ว่าความเชื่อสร้างความสัมพันธ์ผกผันเป็นเพียง
ลาดเท Signia สำหรับ Specia กังวล C มิติ.
ผ่านการถดถอยเชิงเส้นหลายคนโดยวิธีการแบบขั้นตอน
ที่เราidentiÀ ed รูปแบบการคาดคะเนซึ่งมีเพียงคพิเศษ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อายุเฉลี่ยของผู้ป่วยมีจังหวะปี ( SD = 11.62 ) 74% ,เป็นเพศชาย ร้อยละ 69.3 % ความสามารถ แต่งงาน จบการศึกษาขึ้น" เกรด " 4 57.1% อยู่ในหมู่บ้าน ร้อยละ 70.1เกษียณ ร้อยละ 49.6 มีรายได้ต่ำกว่า " ค่าจ้างขั้นต่ำ " และ51.6 % รายงานว่ามีบางระดับเศรษฐกิจÀ culties ( ตารางที่ 1 )ส่วนใหญ่ของผู้ป่วย ( 50,4 % ) ไม่ยึดติดกับการรักษาและคนยึดติดน้อยกว่าผู้หญิง ( 53.2 % กับ เพียร์สัน ;P = . 132 )เราได้พบว่า ค่าสัมพันธ์กับความเชื่อของผู้ป่วยเกี่ยวกับประเภทÀ C ความต้องการของยาแตกต่างกันไป ตามที่กำหนดระหว่าง 15 และ 25 , ตามค่าเฉลี่ยของเมื่อเปรียบเทียบ( SD = 2.31 ) ส่วนประเภทÀ C ประเมินเกี่ยวกับมิติความเชื่อเกี่ยวกับอันตรายของการพึ่งพาและความเป็นพิษหรือผลข้างเคียงระยะยาว นี้อยู่ระหว่าง 5 และ 24 ซึ่งสอดคล้องกับค่าเฉลี่ยของนัก ( SD = 3.42 )ผู้หญิงมีความเชื่อมั่นในกาÀ C ความต้องการของสั่งยา ในขณะที่ผู้ชายมีความเชื่อมากขึ้นในข้อสงสัย แต่ไม่มีสถิติ signi Àแคนส์เพื่อตรวจสอบผลของความเชื่อเกี่ยวกับยาในความร่วมมือในการรักษา เราพบความสัมพันธ์ที่ต่ำมากในประเภทÀ C ต้องการ ( r = î 0.014 ; p = . 830 ) และในระดับปานกลางประเภทÀ C ความกังวล ( r = î 0.367 , p = . 000 ) นอกจากนี้ เรากล่าวที่ความเชื่อสร้างความสัมพันธ์ผกผัน , เป็น เพียงsigni ÀลาดเทสำหรับกาÀ C เกี่ยวกับมิติผ่านการถดถอยเชิงเส้นแบบหลายวิธี ,เรา identi Àเอ็ดการทำนายรูปแบบที่เฉพาะประเภทÀ c