From the Chulalongkorn period onwar

From the Chulalongkorn period onwards, members of the Thai royal family liked to ship their children off to be educated in the West. The goals were determinedly to catch up with Western modernity and to flaunt their own civilised veneer in front of their Western counterparts.

King Vajiravudh and King Prajadhipok were sent to Eton College in England. Prajadhipok also graduated from the Woolwich Military Academy and thus became familiar with British society. This could have explained why he chose to retire in Surrey after his abdication in 1935.

Prince Chakkrabongse Bhuvanath graduated from the Page Corps in St Petersburg, representing King Chulalongkorn at the Tsarist Court. Prince Mahidol Adulyadej pursued his medical study in Massachusetts, where the current king, Bhumibol Adulyadej, was born. Bhumibol himself was raised in a picturesque Lausanne, attending French-speaking schools and eventually enrolling at the University of Lausanne. But he never graduated.

Crown Prince Vajiralongkorn was neither academic nor intellectual. King Bhumibol sent his son to private colleges in Great Britain and Australia. Reckoning that a career in the army would suit his personality, Vajiralongkorn undertook military training at the Royal Military College, Duntroon in Canberra. In my interviews with some of his classmates in Australia, they referred to him fondly. Vajiralongkorn still keeps in touch with his old colleagues there and welcomes them with a royal treatment when they visit him in Thailand.

But it is the love of Germany’s Bavaria that ultimately drew Vajiralongkorn back time and again over the years. While the primary reason for Vajiralongkorn making Munich his second home are his regular medical check-ups, the Crown Prince found the region relatively tranquil and far enough away from the sophisticated atmosphere he normally encounters elsewhere. In particular, withdrawing from maddening crowds provides him privacy.

When King Frederick of Prussia yearned for a private residence where he could strip away royal ceremonies and customs, he ordered a construction of a palace called Sans Souci (Without Worries) in Potsdam, near Berlin, in 1745. At Sans Souci, Frederick was living a secret life in an all-male society away from the public eye, similar to what was seen within the royal court of King Vajiravudh.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จากจุฬาลงกรณ์เป็นต้นไป สมาชิกของพระราชวงศ์ไทยชอบที่จะจัดส่งเด็กออกศึกษาตะวันตก เป้าหมายที่ถูกไอดีลวัน ให้ทันกับความทันสมัยแบบตะวันตก และ จะโอ้อวดตัวเองวีเนียร์อารยะหน้าตะวันตกพระวชิราวุธและเกล้าถูกส่งไป Eton วิทยาลัยในอังกฤษ ปกเกล้ายัง จบศึกษาจากโรงเรียนทหารอุจ และจึง กลายเป็นความคุ้นเคยกับสังคมอังกฤษ นี้ไม่ได้อธิบายว่า ทำไมเขาเลือกที่จะออกในเซอร์เรย์หลังจากสละราชสมบัติของเขาในปี 1935เจ้า Chakkrabongse กับจบจากโยธินหน้าในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เป็นตัวแทนของกษัตริย์จุฬาลงกรณ์ที่คอร์ท Tsarist เจ้าฟ้ามหิดลภูมิพลอดุลยเดชติดตามศึกษาแพทย์แมซซา ที่เกิดกษัตริย์ปัจจุบัน ภูมิพลอดุลยเดช พระองค์เองถูกยกขึ้นในโลซานที่งดงาม เข้าร่วมโรงเรียนพูดภาษาฝรั่งเศส และในที่สุดการลงทะเบียนที่มหาวิทยาลัยเมืองโลซานน์ แต่ไม่เคยจบฟิลิปปินส์ไม่ใช่วิชาการ หรือทางปัญญา พระองค์ส่งบุตรไปวิทยาลัยเอกชนในสหราชอาณาจักรและออสเตรเลีย ถูกสอบสวนว่า อาชีพในกองทัพจะเหมาะกับบุคลิกของเขา สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช undertook การฝึกทหารที่ทหารราชวิทยาลัย Duntroon ในแคนเบอร์รา ในการสัมภาษณ์ของฉันกับเพื่อนร่วมชั้นของเขาในออสเตรเลียบาง พวกเขาเรียกเขาด้วยความรัก วชิราลงกรณ์ยังคงช่วยให้ติดต่อกับเพื่อนร่วมงานเก่ามี และต้อนรับ ด้วยการรักษาเมื่อเข้าเยี่ยมชมเขาในประเทศไทยแต่มันเป็นความรักของบาวาเรียของเยอรมนีที่สุด ดึงวชิราลงกรณ์กลับมาครั้งแล้วครั้งเล่าปี ในขณะที่เหตุผลหลักสำหรับสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชที่มิวนิคเป็นบ้านหลังที่สองของเขาทำให้เขาปกติตรวจสุขภาพ ยุพราชพบในภูมิภาคค่อนข้างเงียบสงบ และห่างพอจากบรรยากาศมีความซับซ้อนที่ปกติเจออื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถอนจากฝูงชนที่น่าคลั่งให้เขาเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อเฟรเดอริกกษัตริย์แห่งปรัสเซียวันเวลาพักอาศัยส่วนตัวที่เขาสามารถถอดเก็บพระราชพิธีและประเพณี เขาสั่งการสร้างพระราชวังเรียกว่าซอง (โดยไม่ต้องกังวล) ในพอตสดัม ใกล้เบอร์ลิน 1745 ที่ซอง เฟรเดริกถูกใช้ชีวิตชีวิตลับในสังคมเพศชายทั้งหมดออกจากตาประชาชน คล้ายกับสิ่งที่ได้เห็นภายในศาลพระราชของกษัตริย์วชิราวุธ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

จากจุฬาลงกรณ์ระยะเวลาเป็นต้นไป สมาชิกของพระราชวงศ์ไทยชอบที่จะจัดส่งเด็กให้มีการศึกษาในประเทศตะวันตก เป้าหมายกำลังเขม้นขะมักทันตะวันตกสมัยใหม่และ flaunt บางศิวิไลซ์ของตัวเองในด้านหน้าของ counterparts ตะวันตกของพวกเขาสมเด็จพระมหาวชิราวุธ และพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวถูกส่งไปที่วิทยาลัยอีตัน ที่อังกฤษ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ยังจบการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยวูลวิชและจึงกลายเป็นที่คุ้นเคยกับสังคมอังกฤษ นี้จะอธิบายว่าทำไมเขาถึงเลือกที่จะเกษียณใน Surrey หลังจากการสละราชบัลลังก์ในปี 1935 .เจ้าชาย chakkrabongse bhuvanath จบจากหน้าคณะในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กแทน กษัตริย์จุฬาลงกรณ์ ที่ศาลซาร์ . สมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล เพื่อติดตามการศึกษาทางการแพทย์ของเขาในรัฐแมสซาชูเซตส์ ซึ่งปัจจุบันพระราชา , พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช , เกิด พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเองก็เติบโตงดงาม โลซาน เรียนพูดภาษาฝรั่งเศสโรงเรียน และในที่สุดความที่มหาวิทยาลัยโลซาน . แต่เขาไม่เคยจบเลยองค์รัชทายาทไม่วชิรวิชาการและปัญญา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงใช้พระบุตรของวิทยาลัยเอกชนในอังกฤษและออสเตรเลีย การคำนวณว่าอาชีพในกองทัพ จะเหมาะกับบุคลิกของเขา วชิร undertook การฝึกอบรมทางทหารที่วิทยาลัยทหารหลวง duntroon ในแคนเบอร์รา ในการสัมภาษณ์กับเพื่อนร่วมชั้นของเขาในออสเตรเลีย พวกเขาเรียกเขาอย่างเอ็นดู ซียังคงเก็บในการติดต่อกับเพื่อนร่วมงานเก่าของเขาและมีการต้อนรับด้วยการรักษาพระเมื่อพวกเขาเข้าเยี่ยมชมเขาในประเทศไทยแต่มันก็คือความรักของเยอรมันบาวาเรียที่สุด วาดส่งกลับเวลาและอีกครั้งในช่วงปี ในขณะที่เหตุผลหลักสำหรับการทำบ้านหลังที่สองของเขา มิวนิคส่งแพทย์ตรวจสุขภาพเป็นประจำของเขา เจ้าชายพบพื้นที่ที่ค่อนข้างเงียบสงบและห่างไกลพอห่างจากที่ทันสมัยบรรยากาศปกติเขาพบในที่อื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถอนตัวจากฝูงชนคลั่ง ให้เขา ความเป็นส่วนตัวเมื่อกษัตริย์เฟรดเดอริคแห่งปรัสเซียเป็นของส่วนตัวที่เขาจะถอดไปพิธีหลวงและศุลกากร เขาสั่งให้สร้างพระราชวังเรียกว่า Sans Souci ( ไม่ต้องกังวล ) ใน พอทสดัม ใกล้กรุงเบอร์ลิน ใน 1745 . ใน Sans Souci เฟรดเดอริก มีชีวิตชีวิตลับในทุกสังคมผู้ชายออกไปจากสายตาประชาชน ที่เคยเห็นในราชสำนักของกษัตริย์วชิราวุธ .