ความผิดปกติของร่างกายไม่ใช่อุปสรรคที่จะขัดขวางการสร้างความก้าวหน้าให้ช การแปล - ความผิดปกติของร่างกายไม่ใช่อุปสรรคที่จะขัดขวางการสร้างความก้าวหน้าให้ช ไทย วิธีการพูด

ความผิดปกติของร่างกายไม่ใช่อุปสรรคท

ความผิดปกติของร่างกายไม่ใช่อุปสรรคที่จะขัดขวางการสร้างความก้าวหน้าให้ชีวิต อย่างเช่นเรื่องราวของ เอกชัย วรรณแก้ว หนุ่มไร้แขนทั้งสองข้าง แต่เขากลับสามารถสร้างสรรค์ผลงานทางศิลปะได้อย่างยอดเยี่ยม และเมื่อวันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา ชายหนุ่มคนนี้เพิ่งจะคว้าปริญญาตรีจากคณะจิตรกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ วิทยาเขตเพาะช่าง มาครอบครองได้สำเร็จ ทางรายการเจาะข่าวเด่น ซึ่งดำเนินรายการโดยสรยุทธ สุทัศนะจินดา จึงขอพาทุกคนไปร่วมแสดงความยินดีกับเขา

โดยเอกชัย เล่าว่า อาจารย์ที่มหาวิทยาลัยและเพื่อน ๆ เรียกเขาว่า มนุษย์เพนกวิน ซึ่งเขารู้สึกว่าเป็นคำที่น่ารักดี ไม่ได้คิดว่าเป็นปมด้อยอะไร ส่วนครอบครัวก็เลี้ยงมาอย่างปกติ คือพยายามให้เขาหัดดิ้นรนช่วยเหลือตัวเองก่อน ถ้าเห็นว่าเขาทำไม่ได้ก็จะเข้ามาช่วยทีหลัง ซึ่งก็ทำให้เขาดิ้นรนมาตั้งแต่เด็ก โดยเฉพาะช่วงพยายามหัดเดินที่เจ็บตัวมาก เวลาล้มไม่มีมือค้ำพื้นไว้เหมือนคนอื่น หน้าก็ฟาดพื้น ปากแตก หัวแตกทุกวัน

ด้านคุณแม่นพ วรรณแก้ว คุณแม่ของเอกชัย เล่าว่า ตอนลูกชายเกิดมาตัวเล็กนิดเดียว หนักไม่ถึงหนึ่งกิโลกรัม ไม่มีแขนทั้งสองข้าง ส่วนขาก็มีงอกมานิดเดียว ใคร ๆ ก็พูดว่าไม่น่าเลี้ยงรอด แต่สุดท้ายก็รอดมาได้ ตอนเล็ก ๆ ลูกชายคนนี้เลี้ยงยากมาก เพราะมีโรคภัยไข้เจ็บรุมเร้า แต่โชคดีพอโตขึ้นมาหน่อยก็ไม่ป่วยแล้ว

"สมัยก่อนเคยคิดว่าถ้าเราตายไปก่อน เขาจะดูแลตัวเองอย่างไร แต่พอมาตอนนี้เขากลับใช้ความสามารถของเขา ออกไปวาดรูปตามงานต่าง ๆ ได้รายได้มาช่วยปลดหนี้ ธ.ก.ส.ให้แม่ และยังปลูกบ้านหลังใหม่ให้ครอบครัวด้วย แถมยังส่งเสียเงินให้แม่ทุกเดือนจนใคร ๆ หลายคนพูดกันว่า นี่แหละคนดีไม่ได้พึ่ง พึ่งคนพิการ" คุณแม่บอก







กลับมาถามเอกชัยเรื่องการวาดภาพบ้าง เขาเล่าว่า ได้ฝึกวาดภาพด้วยตัวเอง โดยใช้เท้าคีบกิ่งไม้บ้าง ไม้เสียบลูกชิ้นบ้าง ลองขีด ๆ เขียน ๆ บนพื้นดินดู จากนั้นก็ได้มีโอกาสเข้าเรียนหนังสือเหมือนเด็กคนอื่น ๆ แต่ก็เกือบจะไม่ได้เรียนเหมือนกัน เพราะผู้อำนวยการโรงเรียนไม่รับเขาเข้าเรียน เนื่องจากเห็นว่าเป็นคนพิการ แต่สุดท้าย เขาก็ได้เข้าเรียนในโรงเรียนเพราะพ่อและแม่ไปติดต่อเจ้าหน้าที่ระดับจังหวัด จนได้เข้าเรียนในที่สุด

หลังจากเรียนจบอนุปริญญาตรี ที่วิทยาลัยอาชีวศึกษานครสวรรค์แล้ว เอกชัย ก็ได้รับคำแนะนำจากอาจารย์ท่านหนึ่งให้ไปเรียนต่อที่โรงเรียนเพาะช่าง เพื่อจะได้เรียนศิลปะตามที่เขาชื่นชอบ เอกชัย จึงลองไปสอบที่โรงเรียนเพาะช่าง แต่เขาสอบไม่ติด โชคดีที่เจออาจารย์ท่านหนึ่งให้ความเมตตากรุณา เสนอเรื่องต่อโรงเรียน เขาจึงได้เรียนต่อที่โรงเรียนเพาะช่าง


เอกชัย วรรณแก้ว



เอกชัย วรรณแก้ว



เมื่อถามว่าการเรียนเพาะช่างยากไหม จิตรกรไร้แขน ยอมรับว่า ยากมากแต่ก็ต้องเรียน เพราะอยากลบคำสบประมาทของหลาย ๆ คนที่เคยพูดกับพ่อแม่ไว้ว่า จะส่งเขามาเรียนทำไม เรียนไปก็ไม่จบ จบไปก็ไม่มีงานทำ คนอย่างนี้ใครเขาจะเอาไปทำอะไร แต่แม่ก็พยายามให้กำลังใจ บอกให้เราพยายามมาโดยตลอด ซึ่งเป็นแรงกระตุ้นให้เราสามารถทำได้สำเร็จ

"เราต้องทำมากกว่าคนอื่น เช่นคนอื่นทำสองชั่วโมงเราต้องทำมากกว่านั้น เพราะศักยภาพเรามีจำกัด" เอกชัย บอก

เทคนิคส่วนตัวในการวาดภาพของเอกชัย ก็คือการพลิกภาพเขียนกลับฟ้ากลับดิน เพราะบางครั้งภาพมีขนาดใหญ่เกินความสูงของเขา เขาก็ต้องวาดภาพช่วงล่างให้เสร็จเสียก่อน จึงค่อยหมุนพลิกภาพด้านบนกลับลงมาวาดภาพในลักษณะกลับหัว ซึ่งถือว่ายาก เพราะต้องจำเฉดสี จำทุกอย่างให้ได้ ภาพจึงจะปะติดปะต่อเป็นภาพเดียวกัน และจากประสบการณ์รวมทั้งการฝึกฝน ก็ทำให้เขาสามารถเขียนภาพได้ด้วยการใช้ทั้งเท้า ปาก คอ และยังนำเทคนิคเหล่านี้ไปสอนเด็ก ๆ พิการ ที่มีใจรักการวาดภาพอีกด้วย

เอกชัย บอกว่า บางครั้งเขาก็ท้อ ซึ่งถ้าท้อก็หยุด แต่พอหายเหนื่อยแล้วก็กลับมาเขียนใหม่ คือเหนื่อยได้แต่ไม่หยุด มีแรงต้องเขียนต่อ ทุกคนต้องมีวันที่หมดกำลังใจ แต่เราต้องคิดว่าจะเอากำลังใจของเรากลับคืนมาได้อย่างไร ที่ผ่านมา เขาไม่เคยต่อว่าต่อขานโชคชะตาฟ้าดิน เพราะเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เราเลือกทำได้

ในอนาคต เอกชัย วาดฝันไว้ว่า อยากเปิดโรงเรียนสอนศิลปะ แต่ตอนนี้คงขอให้ตัวเองมีงานทำเป็นหลักเป็นแหล่งเสียก่อน ซึ่งเขาอยากทำอะไรก็ได้ที่เขาสามารถทำให้ได้อย่างเต็มที่ เช่น สอนศิลปะ เป็นครูศิลปะ ไม่อยากให้ใครจ้างเขาเพราะความสงสาร อยากให้จ้างด้วยความสามารถมากกว่า เพราะอยากให้คนเห็นคุณค่าในตัวของเขาจริง ๆ อย่างเช่นหากใครจ้างให้เขาวาดภาพ เขาจะไม่เก็บเงินก่อน แต่จะวาดภาพให้เสร็จแล้วส่งไปให้ดู ถ้าพอใจก็ซื้อ ถ้าไม่พอใจไม่ซื้อก็ไม่เป็นไร เขาก็จะเก็บภาพไว้เอง นั่นเพราะไม่อยากให้ใครซื้อภาพเพราะสงสารตัวเขา

ด้านคุณแม่ ก็บอกว่ารักลูกชายคนนี้มากที่สุด และไม่เคยนึกไม่เคยฝันมาก่อนเลยว่าจะมีวันนี้ คือวันที่เขาสามารถเรียนจบปริญญาตรีได้สำเร็จ คุณแม่พูดจบ เอกชัยก็ได้เดินมาก้มลงกราบคุณแม่เป็นครั้งแรก และกล่าวขอบคุณแม่ที่ทำให้เขามีวันนี้ และเป็นกำลังใจให้มาโดยตลอด

สุดท้าย เอกชัย ยังได้ฝากถึงทุกคนที่อาจจะกำลังหมดแรง และท้อถอยอยู่ว่า "ผมคงเป็นตัวอย่างให้คนอีกหลายคน ผมคิดว่าโอกาสของคนมันมีอยู่ แล้วแต่ว่าเราจะไขว่คว้ามันยังไง ผมว่าปีหนึ่ง 365 วัน วันหนึ่งมันต้องมีวันของเรา ถ้าเราไม่ท้อไม่ถอยไปเสียก่อน"
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
ความผิดปกติของร่างกายไม่ใช่อุปสรรคที่จะขัดขวางการสร้างความก้าวหน้าให้ชีวิตอย่างเช่นเรื่องราวของเอกชัยวรรณแก้วหนุ่มไร้แขนทั้งสองข้างแต่เขากลับสามารถสร้างสรรค์ผลงานทางศิลปะได้อย่างยอดเยี่ยมและเมื่อวันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมาชายหนุ่มคนนี้เพิ่งจะคว้าปริญญาตรีจากคณะจิตรกรรมมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์วิทยาเขตเพาะช่างมาครอบครองได้สำเร็จทางรายการเจาะข่าวเด่นซึ่งดำเนินรายการโดยสรยุทธสุทัศนะจินดาจึงขอพาทุกคนไปร่วมแสดงความยินดีกับเขา โดยเอกชัยเล่าว่าอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยและเพื่อนๆ เรียกเขาว่ามนุษย์เพนกวินซึ่งเขารู้สึกว่าเป็นคำที่น่ารักดีไม่ได้คิดว่าเป็นปมด้อยอะไรส่วนครอบครัวก็เลี้ยงมาอย่างปกติคือพยายามให้เขาหัดดิ้นรนช่วยเหลือตัวเองก่อนถ้าเห็นว่าเขาทำไม่ได้ก็จะเข้ามาช่วยทีหลังซึ่งก็ทำให้เขาดิ้นรนมาตั้งแต่เด็กโดยเฉพาะช่วงพยายามหัดเดินที่เจ็บตัวมากเวลาล้มไม่มีมือค้ำพื้นไว้เหมือนคนอื่นหน้าก็ฟาดพื้นปากแตกหัวแตกทุกวัน ด้านคุณแม่นพวรรณแก้วคุณแม่ของเอกชัยเล่าว่าตอนลูกชายเกิดมาตัวเล็กนิดเดียวหนักไม่ถึงหนึ่งกิโลกรัมไม่มีแขนทั้งสองข้างส่วนขาก็มีงอกมานิดเดียวใครๆ ก็พูดว่าไม่น่าเลี้ยงรอดแต่สุดท้ายก็รอดมาได้ตอนเล็กๆ ลูกชายคนนี้เลี้ยงยากมากเพราะมีโรคภัยไข้เจ็บรุมเร้าแต่โชคดีพอโตขึ้นมาหน่อยก็ไม่ป่วยแล้ว คุณแม่บอก "สมัยก่อนเคยคิดว่าถ้าเราตายไปก่อนเขาจะดูแลตัวเองอย่างไรแต่พอมาตอนนี้เขากลับใช้ความสามารถของเขาออกไปวาดรูปตามงานต่างๆ ได้รายได้มาช่วยปลดหนี้ธ.ก.ส.ให้แม่และยังปลูกบ้านหลังใหม่ให้ครอบครัวด้วยแถมยังส่งเสียเงินให้แม่ทุกเดือนจนใครๆ หลายคนพูดกันว่านี่แหละคนดีไม่ได้พึ่งพึ่งคนพิการ" กลับมาถามเอกชัยเรื่องการวาดภาพบ้างเขาเล่าว่าได้ฝึกวาดภาพด้วยตัวเองโดยใช้เท้าคีบกิ่งไม้บ้างไม้เสียบลูกชิ้นบ้างลองขีดๆ เขียนๆ บนพื้นดินดูจากนั้นก็ได้มีโอกาสเข้าเรียนหนังสือเหมือนเด็กคนอื่นๆ แต่ก็เกือบจะไม่ได้เรียนเหมือนกันเพราะผู้อำนวยการโรงเรียนไม่รับเขาเข้าเรียนเนื่องจากเห็นว่าเป็นคนพิการแต่สุดท้ายเขาก็ได้เข้าเรียนในโรงเรียนเพราะพ่อและแม่ไปติดต่อเจ้าหน้าที่ระดับจังหวัดจนได้เข้าเรียนในที่สุด หลังจากเรียนจบอนุปริญญาตรี ที่วิทยาลัยอาชีวศึกษานครสวรรค์แล้ว เอกชัย ก็ได้รับคำแนะนำจากอาจารย์ท่านหนึ่งให้ไปเรียนต่อที่โรงเรียนเพาะช่าง เพื่อจะได้เรียนศิลปะตามที่เขาชื่นชอบ เอกชัย จึงลองไปสอบที่โรงเรียนเพาะช่าง แต่เขาสอบไม่ติด โชคดีที่เจออาจารย์ท่านหนึ่งให้ความเมตตากรุณา เสนอเรื่องต่อโรงเรียน เขาจึงได้เรียนต่อที่โรงเรียนเพาะช่างเอกชัย วรรณแก้ว เอกชัย วรรณแก้ว เมื่อถามว่าการเรียนเพาะช่างยากไหม จิตรกรไร้แขน ยอมรับว่า ยากมากแต่ก็ต้องเรียน เพราะอยากลบคำสบประมาทของหลาย ๆ คนที่เคยพูดกับพ่อแม่ไว้ว่า จะส่งเขามาเรียนทำไม เรียนไปก็ไม่จบ จบไปก็ไม่มีงานทำ คนอย่างนี้ใครเขาจะเอาไปทำอะไร แต่แม่ก็พยายามให้กำลังใจ บอกให้เราพยายามมาโดยตลอด ซึ่งเป็นแรงกระตุ้นให้เราสามารถทำได้สำเร็จ "เราต้องทำมากกว่าคนอื่น เช่นคนอื่นทำสองชั่วโมงเราต้องทำมากกว่านั้น เพราะศักยภาพเรามีจำกัด" เอกชัย บอก เทคนิคส่วนตัวในการวาดภาพของเอกชัย ก็คือการพลิกภาพเขียนกลับฟ้ากลับดิน เพราะบางครั้งภาพมีขนาดใหญ่เกินความสูงของเขา เขาก็ต้องวาดภาพช่วงล่างให้เสร็จเสียก่อน จึงค่อยหมุนพลิกภาพด้านบนกลับลงมาวาดภาพในลักษณะกลับหัว ซึ่งถือว่ายาก เพราะต้องจำเฉดสี จำทุกอย่างให้ได้ ภาพจึงจะปะติดปะต่อเป็นภาพเดียวกัน และจากประสบการณ์รวมทั้งการฝึกฝน ก็ทำให้เขาสามารถเขียนภาพได้ด้วยการใช้ทั้งเท้า ปาก คอ และยังนำเทคนิคเหล่านี้ไปสอนเด็ก ๆ พิการ ที่มีใจรักการวาดภาพอีกด้วย เอกชัย บอกว่า บางครั้งเขาก็ท้อ ซึ่งถ้าท้อก็หยุด แต่พอหายเหนื่อยแล้วก็กลับมาเขียนใหม่ คือเหนื่อยได้แต่ไม่หยุด มีแรงต้องเขียนต่อ ทุกคนต้องมีวันที่หมดกำลังใจ แต่เราต้องคิดว่าจะเอากำลังใจของเรากลับคืนมาได้อย่างไร ที่ผ่านมา เขาไม่เคยต่อว่าต่อขานโชคชะตาฟ้าดิน เพราะเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เราเลือกทำได้
ในอนาคต เอกชัย วาดฝันไว้ว่า อยากเปิดโรงเรียนสอนศิลปะ แต่ตอนนี้คงขอให้ตัวเองมีงานทำเป็นหลักเป็นแหล่งเสียก่อน ซึ่งเขาอยากทำอะไรก็ได้ที่เขาสามารถทำให้ได้อย่างเต็มที่ เช่น สอนศิลปะ เป็นครูศิลปะ ไม่อยากให้ใครจ้างเขาเพราะความสงสาร อยากให้จ้างด้วยความสามารถมากกว่า เพราะอยากให้คนเห็นคุณค่าในตัวของเขาจริง ๆ อย่างเช่นหากใครจ้างให้เขาวาดภาพ เขาจะไม่เก็บเงินก่อน แต่จะวาดภาพให้เสร็จแล้วส่งไปให้ดู ถ้าพอใจก็ซื้อ ถ้าไม่พอใจไม่ซื้อก็ไม่เป็นไร เขาก็จะเก็บภาพไว้เอง นั่นเพราะไม่อยากให้ใครซื้อภาพเพราะสงสารตัวเขา

ด้านคุณแม่ ก็บอกว่ารักลูกชายคนนี้มากที่สุด และไม่เคยนึกไม่เคยฝันมาก่อนเลยว่าจะมีวันนี้ คือวันที่เขาสามารถเรียนจบปริญญาตรีได้สำเร็จ คุณแม่พูดจบ เอกชัยก็ได้เดินมาก้มลงกราบคุณแม่เป็นครั้งแรก และกล่าวขอบคุณแม่ที่ทำให้เขามีวันนี้ และเป็นกำลังใจให้มาโดยตลอด

สุดท้าย เอกชัย ยังได้ฝากถึงทุกคนที่อาจจะกำลังหมดแรง และท้อถอยอยู่ว่า "ผมคงเป็นตัวอย่างให้คนอีกหลายคน ผมคิดว่าโอกาสของคนมันมีอยู่ แล้วแต่ว่าเราจะไขว่คว้ามันยังไง ผมว่าปีหนึ่ง 365 วัน วันหนึ่งมันต้องมีวันของเรา ถ้าเราไม่ท้อไม่ถอยไปเสียก่อน"
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
อย่างเช่นเรื่องราวของเอกชัยวรรณแก้วหนุ่มไร้แขนทั้งสองข้าง และเมื่อวันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา วิทยาเขตเพาะช่างมาครอบครองได้สำเร็จทางรายการเจาะข่าวเด่นซึ่งดำเนินรายการโดยสรยุทธสุทัศนะจินดา เล่าว่าอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยและเพื่อน ๆ เรียกเขาว่ามนุษย์เพนกวินซึ่งเขารู้สึกว่าเป็นคำที่น่ารักดีไม่ได้คิดว่าเป็นปมด้อยอะไรส่วนครอบครัวก็เลี้ยงมาอย่างปกติ ซึ่งก็ทำให้เขาดิ้นรนมาตั้งแต่เด็ก หน้าก็ฟาดพื้นปากแตกหัวแตกทุกการธนาคารวันด้านคุณคุณแม่นพวรรณแก้วคุณคุณแม่ของเอกชัยเล่าว่าได้ตอนลูกชายเกิดมาตัวเล็กนิดเดียวหนักไม่ถึงหนึ่งกิโลกรัมไม่มีแขนทั้งสองข้างส่วนขาก็มีงอกมานิดเดียวใคร ๆ ก็พูด ว่าไม่น่าเลี้ยงรอด แต่สุดท้ายก็รอดมาได้ตอนเล็ก ๆ ลูกชายคนนี้เลี้ยงยากมากเพราะมีโรคภัยไข้เจ็บรุมเร้า เขาจะดูแลตัวเองอย่างไร ออกไปวาดรูปตามงานต่าง ๆ ได้รายได้มาช่วยปลดหนี้ ธ . ก. ส. ให้แม่ ๆ หลายคนพูดกันว่านี่แหละคนดีไม่ได้พึ่งพึ่งคนพิการ " เขาเล่าว่าได้ฝึกวาดภาพด้วยตัวเองโดยใช้เท้าคีบกิ่งไม้บ้างไม้เสียบลูกชิ้นบ้างลองขีด ๆ เขียน ๆ บนพื้นดินดู ๆ แต่ก็เกือบจะไม่ได้เรียนเหมือนกัน เนื่องจากเห็นว่าเป็นคนพิการ แต่สุดท้าย เอกชัย เอกชัยจึงลองไปสอบที่โรงเรียนเพาะช่าง แต่เขาสอบไม่ติด เสนอเรื่องต่อโรงเรียน แก้ววรรณเอกชัย จิตรกรไร้แขนยอมรับว่ายากมาก แต่ก็ต้องเรียนเพราะอยากลบคำสบประมาทของหลาย ๆ คนที่เคยพูดกับพ่อแม่ไว้ว่าจะส่งเขามาเรียนทำไมเรียนไปก็ไม่จบจบไปก็ไม่มีงานทำคนอย่างนี้ใครเขา จะเอาไปทำอะไร แต่แม่ก็พยายามให้กำลังใจบอกให้เราพยายามมาโดยตลอด เพราะศักยภาพเรามี จำกัด "เอกชัย ซึ่งถือว่ายากเพราะต้องจำเฉดสีจำทุกอย่างให้ได้ภาพจึงจะปะติดปะต่อเป็นภาพเดียวกันและจากประสบการณ์รวมทั้งการฝึกฝน คอและปากยังนำเทคนิคเหล่านี้ไปสอนที่คุณเด็ก ๆ พิการที่มีใจรักหัวเรื่อง: การวาดภาพอีกด้วยเอกชัยบอกว่าได้บางครั้งเขาก็ท้อซึ่งถ้าท้อก็หยุด คือเหนื่อยได้ แต่ไม่หยุดมีแรงต้องเขียนต่อทุกคนต้องมีวันที่หมดกำลังใจ ที่ผ่านมา เราเลือกเพราะเกิดไม่ได้ แต่เราเลือกทำได้ในอนาคตเอกชัยวาดฝันไว้ว่าได้อยากเปิดตำแหน่งที่เคยสอนศิลปะ เช่นสอนศิลปะเป็นครูศิลปะ อยากให้จ้างด้วยความสามารถมากกว่า ๆ อย่างเช่นหากใครจ้างให้เขาวาดภาพเขาจะไม่เก็บเงินก่อน แต่จะวาดภาพให้เสร็จแล้วส่งไปให้ดูถ้าพอใจก็ซื้อถ้าไม่พอใจไม่ซื้อก็ไม่เป็นไรเขาก็จะเก็บภาพไว้เอง ก็บอกว่ารักลูกชายคนนี้มากที่สุด คุณแม่พูดจบ เป็นกำลังใจและให้มาโดยตลอดสุดท้ายเอกชัย และท้อถอยอยู่ว่า "ผมคงเป็นตัวอย่างให้คนอีกหลายคนผมคิดว่าโอกาสของคนมันมีอยู่แล้วแต่ว่าเราจะไขว่คว้ามันยังไงผมว่าปีหนึ่ง 365 วันวันหนึ่งมันต้องมีวันของเราถ้าเราไม่ท้อไม่ ถอยไปเสียก่อน "







































การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
ความผิดปกติของร่างกายไม่ใช่อุปสรรคที่จะขัดขวางการสร้างความก้าวหน้าให้ชีวิตอย่างเช่นเรื่องราวของเอกชัยวรรณแก้วหนุ่มไร้แขนทั้งสองข้างแต่เขากลับสามารถสร้างสรรค์ผลงานทางศิลปะได้อย่างยอดเยี่ยม25 เมษายนที่ผ่านมาชายหนุ่มคนนี้เพิ่งจะคว้าปริญญาตรีจากคณะจิตรกรรมมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์วิทยาเขตเพาะช่างมาครอบครองได้สำเร็จทางรายการเจาะข่าวเด่นซึ่งดำเนินรายการโดยสรยุทธสุทัศนะจินดา
โดยเอกชัยเล่าว่าอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยและเพื่อนจะเรียกเขาว่ามนุษย์เพนกวินซึ่งเขารู้สึกว่าเป็นคำที่น่ารักดีไม่ได้คิดว่าเป็นปมด้อยอะไรส่วนครอบครัวก็เลี้ยงมาอย่างปกติถ้าเห็นว่าเขาทำไม่ได้ก็จะเข้ามาช่วยทีหลังซึ่งก็ทำให้เขาดิ้นรนมาตั้งแต่เด็กโดยเฉพาะช่วงพยายามหัดเดินที่เจ็บตัวมากเวลาล้มไม่มีมือค้ำพื้นไว้เหมือนคนอื่นหน้าก็ฟาดพื้นปากแตกหัวแตกทุกวัน

ด้านคุณแม่นพวรรณแก้วคุณแม่ของเอกชัยเล่าว่าตอนลูกชายเกิดมาตัวเล็กนิดเดียวหนักไม่ถึงหนึ่งกิโลกรัมไม่มีแขนทั้งสองข้างส่วนขาก็มีงอกมานิดเดียวใครจะก็พูดว่าไม่น่าเลี้ยงรอดแต่สุดท้ายก็รอดมาได้ตอนเล็กไม่มีเพราะมีโรคภัยไข้เจ็บรุมเร้าแต่โชคดีพอโตขึ้นมาหน่อยก็ไม่ป่วยแล้ว

" สมัยก่อนเคยคิดว่าถ้าเราตายไปก่อนเขาจะดูแลตัวเองอย่างไรแต่พอมาตอนนี้เขากลับใช้ความสามารถของเขาออกไปวาดรูปตามงานต่างจะได้รายได้มาช่วยปลดหนี้โดย . . . ส .ให้แม่และยังปลูกบ้านหลังใหม่ให้ครอบครัวด้วยแถมยังส่งเสียเงินให้แม่ทุกเดือนจนใครจะหลายคนพูดกันว่านี่แหละคนดีไม่ได้พึ่งพึ่งคนพิการ " คุณแม่บอก







กลับมาถามเอกชัยเรื่องการวาดภาพบ้างเขาเล่าว่าได้ฝึกวาดภาพด้วยตัวเองโดยใช้เท้าคีบกิ่งไม้บ้างไม้เสียบลูกชิ้นบ้างลองขีดจะไม่มีเขียนบนพื้นดินดูจากนั้นก็ได้มีโอกาสเข้าเรียนหนังสือเหมือนเด็กคนอื่นไม่มี
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: