Statistical analysesAll data obtain

Statistical analyses
All data obtained from the in vitro and in vivo experiments were
subjected to analysis of variance according to parametric and non
parametric approaches (Statistica 10; Statsoft Inc., Tulsa, OK, USA).
All percentage data were transformed using arcsine (sin-1 square
root x) prior to statistical analysis. The untransformed means
(±standard error of the mean) are presented in the tables and
separated by Fisher’s least significant difference test or Kruskal–
Wallis followed by Mann–Whitney test for parametric and non
parametric approaches, respectively.
Limpel’s formula, as described by Richter (1987), was applied to
determine if synergism was present in the effectiveness of mixtures.
Limpel’s formula is Ee = X + Y(XY/100), in which Ee is the
expected effect from additive responses of two treatments and X
and Y are the percentages of decay reduction relative to each agent
used alone. Thus, if the combination of the two agents produces any
value of decay reduction greater than Ee, then synergism exists.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วิเคราะห์ทางสถิติข้อมูลทั้งหมดที่ได้จากการทดลองในหลอดทดลอง และในสัตว์ทดลองได้การวิเคราะห์ผลต่างของตามพาราเมตริก และไม่แนวทางพาราเมตริก (Statistica 10 Statsoft Inc., Tulsa ตกลง สหรัฐอเมริกา)ข้อมูลเปอร์เซ็นต์ทั้งหมดถูกแปลงใช้ arcsine (สแควร์ 1 บาปราก x) ก่อนการวิเคราะห์ทางสถิติ หมายถึง untransformed(±standard ข้อผิดพลาดของค่าเฉลี่ย) จะแสดงในตาราง และโดยของ Fisher สำคัญน้อยทดสอบความแตกต่างหรือ Kruskal –วาลลิตามมานน์ – วิทนีย์ทดสอบพาราเมตริก และไม่พาราเมตริกยื่น ตามลำดับสูตรของ Limpel ตามที่อธิบายไว้ โดยถือ (1987), ถูกประยุกต์ใช้กำหนดถ้า synergism มีในประสิทธิภาพของน้ำยาผสมสูตรของ Limpel คือ Ee = X + Y (XY/100), ซึ่งเป็นแบบผลที่คาดไว้จากการตอบสนองสามารถ 2 และ Xและ Y เปอร์เซ็นต์ผุลดสัมพันธ์กับตัวแทนแต่ละใช้คนเดียว ดังนั้น ถ้าการรวมกันของตัวแทนสองผลิตใด ๆค่ามากกว่าแบบ แล้ว synergism ลดผุแล้ว

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สถิติวิเคราะห์ข้อมูลทั้งหมดที่ได้จากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อในร่างกายและในการทดลองภายใต้การวิเคราะห์ความแปรปรวนตามตัวแปรและไม่ใช่วิธีการที่ตัวแปร(Statistica 10; Statsoft อิงค์ทูลซา, USA). ข้อมูลร้อยละทั้งหมดถูกเปลี่ยนโดยใช้ arcsine (บาป -1 ตารางรากx) ก่อนที่จะมีการวิเคราะห์ทางสถิติ วิธี untransformed (±ข้อผิดพลาดมาตรฐานของค่าเฉลี่ย) ถูกแสดงไว้ในตารางและแยกจากกันโดยอย่างน้อยฟิชเชอร์การทดสอบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญหรือKruskal- วาลลิสตามด้วยการทดสอบ Mann-Whitney สำหรับตัวแปรและไม่ใช่วิธีการที่ตัวแปรตามลำดับ. สูตร Limpel ของตามที่อธิบายริกเตอร์ (1987) ถูกนำไปใช้ตรวจสอบว่าเสริมฤทธิ์ในปัจจุบันคือประสิทธิภาพของสารผสม. สูตร Limpel เป็นเเ = X + Y (XY / 100) ซึ่งเเเป็นผลที่คาดว่าจากการตอบสนองสารเติมแต่งของทั้งสองวิธีการรักษาและX และ Y มีร้อยละของการลดการสลายตัวเมื่อเทียบกับแต่ละตัวแทนใช้เพียงอย่างเดียว ดังนั้นหากการรวมกันของสองตัวแทนผลิตใด ๆค่าของการลดการสลายตัวมากกว่าเเแล้วมีอยู่เสริมฤทธิ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์
ข้อมูลต่างๆ จากในหลอดทดลองและในสัตว์ทดลอง
ภายใต้การวิเคราะห์ความแปรปรวนตามพารามิเตอร์และไม่ใช้พารามิเตอร์ (
statistica 10 ; StatSoft อิงค์ ทัลซ่า โอเค , USA ) .
ข้อมูลเปอร์เซ็นต์ทั้งหมดถูกเปลี่ยนใช้ arcsine ( sin-1 สแควร์รูทก่อน
x ) สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล
หมายถึง untransformed( ±ความคลาดเคลื่อนมาตรฐานของค่าเฉลี่ย ) นำเสนอตารางและ
โดยแยกปลาน้อยแตกต่างกันทดสอบหรือ Kruskal –
ลิสตาม Mann Whitney และทดสอบพารามิเตอร์และวิธีการที่ไม่ใช่

สูตรเชิงตามลำดับ limpel , ตามที่อธิบายไว้โดย Richter ( 1987 ) ถูกนำมาใช้เพื่อ
ระบุว่า การเกื้อกูล อยู่ในประสิทธิภาพของส่วนผสม .
สูตร limpel มี EE = x y  ( XY / 100 ) ซึ่งใน อี คาดว่าผลจากการบวก
x
2 และการตอบสนองของการรักษา และ y เป็นร้อยละของการลดเมื่อเทียบกับแต่ละตัวแทน
ใช้คนเดียว ดังนั้น หากการรวมกันของเอเยนต์ที่ผลิตใด ๆมูลค่าของการสลาย
กว่า เอ แล้วการมีอยู่