Lactic acid is a chemical compound

Lactic acid is a chemical compound that plays a role in various biochemical processes. It was first isolated in 1780 by the Swedish chemist Carl Wilhelm Scheele. Lactic acid is a carboxylic acid with the chemical formula C2H4OHCOOH. It has a hydroxyl group adjacent to the carboxyl group, making it an alpha hydroxy acid (AHA).

In solution, it can lose a proton from the carboxyl group, producing the lactate ion CH3CH(OH)COO−. Compared to acetic acid, its pKa is 1 unit less, meaning lactic acid deprotonates ten times more easily than acetic acid does. This higher acidity is the consequence of the intramolecular hydrogen bridge between the α-hydroxyl and the carboxylate group, making the latter less capable of strongly attracting its proton.

Lactic acid is chiral and has two optical isomers. One is known as L-(+)-lactic acid or (S)-lactic acid and the other, its mirror image, is D-(−)-lactic acid or (R)-lactic acid. A mixture of the two in equal amounts is called DL-lactic acid.

Lactic acid is hygroscopic. DL-lactic acid is miscible with water and with ethanol above its melting point which is around 17 or 18 °C. D-lactic acid and L-lactic acid have a higher melting point.

In animals, L-lactate is constantly produced from pyruvate via the enzyme lactate dehydrogenase (LDH) in a process of fermentation during normal metabolism and exercise. It does not increase in concentration until the rate of lactate production exceeds the rate of lactate removal, which is governed by a number of factors, including monocarboxylate transporters, concentration and isoform of LDH, and oxidative capacity of tissues. The concentration of blood lactate is usually 1–2 mmol/L at rest, but can rise to over 20 mmol/L during intense exertion.[citation needed]

In industry, lactic acid fermentation is performed by lactic acid bacteria, which convert simple carbohydrates such as glucose, sucrose, or galactose to lactic acid. These bacteria can also grow in the mouth; the acid they produce is responsible for the tooth decay known as caries.[3][4][5][6]

In medicine, lactate is one of the main components of lactated Ringer's solution and Hartmann's solution. These intravenous fluids consist of sodium and potassium cations along with lactate and chloride anions in solution with distilled water, generally in concentrations isotonic with human blood. It is most commonly used for fluid resuscitation after blood loss due to trauma, surgery, or burn injury.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กรดแลคติกเป็นสารเคมีที่มีบทบาทในกระบวนการทางชีวเคมีต่างๆ มันถูกแยกออกเป็นครั้งแรกใน 1780 โดยนักเคมีชาวสวีเดนคาร์ลวิลเฮล์ Scheele กรดแลคติกเป็นกรดคาร์บอกซิที่มีสูตรทางเคมี C2H4OHCOOH แต่ก็มีกลุ่มไฮดรอกซิติดกับกลุ่ม carboxyl ทำให้กรดอัลฟาไฮดรอกซี (AHA). ในการแก้ปัญหาก็จะสูญเสียโปรตอนจากกลุ่ม carboxyl ผลิตไอออนแลคเตท CH3CH (OH) COO- เมื่อเทียบกับกรดอะซิติก pKa ของ 1 หน่วยน้อยลงหมายถึงกรดแลคติก deprotonates สิบครั้งได้ง่ายกว่ากรดอะซิติกไม่ นี้เป็นกรดที่สูงขึ้นเป็นผลมาจากสะพานไฮโดรเจนภายในโมเลกุลระหว่างα-มักซ์พลังค์และกลุ่ม carboxylate ทำให้หลังที่มีความสามารถน้อยอย่างยิ่งดึงดูดของโปรตอน. กรดแลคติกเป็น chiral และมีสองไอโซเมอแสง หนึ่งเป็นที่รู้จักกันเป็น L - (+) - กรดแลคติกหรือ (S) กรด -lactic และอื่น ๆ ภาพสะท้อนของมันคือ D - (-) - กรดแลคติกหรือ (R) กรด -lactic ส่วนผสมของทั้งสองในปริมาณเท่ากับที่เรียกว่ากรดแลคติก DL. กรดแลคติกเป็นอุ้มน้ำ กรดแลคติก DL-เป็นละลายด้วยน้ำและเอทานอลสูงกว่าจุดหลอมเหลวของตนซึ่งเป็นรอบ 17 หรือ 18 องศาเซลเซียส D-กรดแลคติกและกรดแลคติก L-มีจุดหลอมเหลวที่สูงขึ้น. ในสัตว์, L-ให้น้ำนมที่ผลิตอย่างต่อเนื่องจากไพรูผ่านทางนม dehydrogenase เอนไซม์ (LDH) ในกระบวนการของการหมักในระหว่างการเผาผลาญอาหารและการออกกำลังกายตามปกติ มันไม่ได้เพิ่มความเข้มข้นจนอัตราการผลิตให้น้ำนมสูงกว่าอัตราการกำจัดแลคเตทซึ่งถูกควบคุมโดยปัจจัยหลายประการรวมทั้งรถบรรทุกขน monocarboxylate เข้มข้นและไอโซฟอร์มของ LDH และความสามารถในการเกิดออกซิเดชันของเนื้อเยื่อ ความเข้มข้นของแลคเตทในเลือดเป็นปกติ 1-2 mmol / L ที่เหลือ แต่สามารถขึ้นไปกว่า 20 mmol / L ในระหว่างการออกแรงรุนแรง. [อ้างจำเป็น] ในอุตสาหกรรมการหมักกรดแลคติกจะดำเนินการโดยแบคทีเรียกรดแลคติกที่แปลงคาร์โบไฮเดรตที่เรียบง่าย เช่นกลูโคสซูโครสหรือกาแลคกรดแลคติก แบคทีเรียเหล่านี้ยังสามารถเจริญเติบโตได้ในปาก; กรดที่พวกเขาผลิตเป็นผู้รับผิดชอบต่อฟันผุที่รู้จักกันเป็นโรคฟันผุ. [3] [4] [5] [6] ในยาแลคเตทเป็นหนึ่งในองค์ประกอบหลักของการแก้ปัญหาของ lactated Ringer และการแก้ไขปัญหาอาร์ตมันน์ ของเหลวในเส้นเลือดเหล่านี้ประกอบด้วยไพเพโซเดียมและโพแทสเซียมพร้อมกับแลคเตทและแอนไอออนคลอไรด์ในการแก้ปัญหาด้วยน้ำกลั่นโดยทั่วไปในความเข้มข้น isotonic กับเลือดของมนุษย์ มันถูกใช้กันมากที่สุดสำหรับการกู้ชีพของเหลวหลังจากการสูญเสียเลือดเนื่องจากการบาดเจ็บการผ่าตัดหรือการเผาไหม้ได้รับบาดเจ็บ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กรดแลคติกเป็นสารที่มีบทบาทในกระบวนการทางชีวเคมีต่าง ๆ มันเป็นครั้งแรกที่แยกได้ใน 1780 โดยนักเคมีชาวสวีเดน คาร์ล วิลเฮล์ม ชิล . กรดแลคติกเป็นกรดอินทรีย์ที่มีสูตรทางเคมี c2h4ohcooh . มีหมู่ไฮดรอกซิลติดกับกลุ่มคาร์บอกซิล ทำให้มีกรดผลไม้ ( AHA ) .

ในสารละลาย สามารถสูญเสีย โปรตอน จากกลุ่มคาร์บอกซิล ,การผลิตกรดแลคติก ch3ch ไอออน ( OH ) − 1 . เมื่อเทียบกับกรดของความเป็น 1 หน่วยน้อย หมายถึง กรดแลคติก deprotonates สิบครั้งได้ง่ายกว่า กรดมี นี้สูงกว่าเมเป็นผลพวงของ intramolecular สะพานระหว่างไฮโดรเจนแอลฟาไฮดรอกและกลุ่มคาร์บอกซิเลต ทำให้หลังน้อยสามารถขอจรุง

ของโปรตอนกรดแลคติกเป็น chiral และมีสองแสงคือ หนึ่งเรียกว่า L - ( ) - ( S ) - กรดแลคติกหรือกรดแลคติก และ อื่น ๆ , กระจก , D - ( − ) - กรดแลคติกหรือ ( R ) - กรดแลกติก ส่วนผสมของทั้งสองในปริมาณที่เท่ากันเรียกว่า DL กรดแลกติก

กรดแลคติกเป็น hygroscopic . กรดแลคติกเป็น DL ได้ด้วยน้ำและเอทานอลสูงกว่าจุดหลอมเหลวของซึ่งเป็นประมาณ 17 หรือ 18 ° Cและกรด d-lactic Name มีจุดหลอมเหลวสูงกว่า

ในสัตว์ l-lactate ตลอดเวลาผลิตจากไพรูเวตผ่านเอนไซม์ lactate dehydrogenase ( LDH ) ในกระบวนการหมักในช่วงปกติ เมแทบอลิซึม และการออกกำลังกาย มันไม่เพิ่มความเข้มข้นจนอัตราการผลิตกรดแลคติกสูงกว่าอัตราการกำจัดกรดแลคติก ซึ่งถูกควบคุมโดยจำนวนของปัจจัยรวม monocarboxylate ขนส่ง , ความเข้มข้นและไอโซฟอร์มของ LDH และความจุออกซิเดชันของเนื้อเยื่อ ความเข้มข้นของกรดแล็กติกในเลือดมัก 1 – 2 mmol / l ที่พัก แต่สามารถเพิ่มขึ้นมากกว่า 20 mmol / L ในระหว่างการออกแรงรุนแรง . อ้างอิง [ จำเป็น ]

ในอุตสาหกรรมการหมักกรดแลคติกจะถูกดำเนินการโดยแบคทีเรียกรดแลกติก ซึ่งแปลงคาร์โบไฮเดรตอย่างง่าย เช่น กลูโคส ซูโครสหรือแกแลคโตสกรดแลกติก แบคทีเรียเหล่านี้ยังสามารถเติบโตในปาก ; กรดที่พวกเขาผลิตเป็นผู้รับผิดชอบฟันผุเรียกว่าฟันผุ [ 3 ] [ 4 ] [ 5 ] [ 6 ]

ในการแพทย์ และเป็นหนึ่งในองค์ประกอบหลักของ lactated สั่นเป็นโซลูชั่น และ Admin ของโซลูชั่นฉีดของเหลวเหล่านี้ประกอบด้วยโซเดียมและโพแทสเซียมและคลอไรด์ไอออนและไอออนพร้อมกับในสารละลายที่มีน้ำ โดยทั่วไป ในระดับความเข้มข้น isotonic กับเลือดมนุษย์ มันถูกใช้มากที่สุดสำหรับการช่วยชีวิตของเหลวหลังจากเลือดจากอุบัติเหตุ การผ่าตัดหรือได้รับบาดเจ็บเผา .