ความสำคัญของการอ่าน การอ่านมีความสำ

ความสำคัญของการอ่าน

การอ่านมีความสำคัญต่อชีวิตมนุษย์ตั้งแต่เกิดจนโต และจนกระทั่งถึงวัยชรา การอ่านทำให้รู้ข่าวสารข้อมูลต่าง ๆ ทั่วโลก ซึ่งปัจจุบันเป็นโลกของข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ทั่วโลก ทำให้ผู้อ่านมีความสุข มีความหวัง และมีความอยากรู้อยากเห็น อันเป็นความต้องการของมนุษย์ทุกคน การอ่านมีประโยชน์ในการพัฒนาตนเอง คือ พัฒนาการศึกษา พัฒนาอาชีพ พัฒนาคุณภาพชีวิต ทำให้เป็นคนทันสมัย ทันต่อเหตุการณ์ และมีความอยากรู้อยากเห็น การที่จะพัฒนาประเทศให้เจริญรุ่งเรืองก้าวหน้าได้ต้องอาศัยประชาชนที่มีความรู้ความสามารถ ซึ่งความรู้ต่าง ๆ ก็ได้มาจากการอ่านนั่นเอง
........................
ความหมายของการอ่าน

การอ่าน คือ กระบวนการที่ผู้อ่านรับรู้สารซึ่งเป็นความรู้ ความคิด ความรู้สึก และ ความคิดเห็นที่ผู้เขียนถ่ายทอดออกมาเป็นลายลักษณ์อักษร การที่ผู้อ่านจะเข้าใจสารได้มากน้อยเพียงไร ขึ้นอยู่กับประสบการณ์และความสามารถในการใช้ความคิด
.........................
จุดมุ่งหมายของการอ่าน

1. อ่านเพื่อความรู้ ได้แก่ การอ่านจากหนังสือตำราทางวิชาการ สารคดีทางวิชาการ การวิจัยประเภทต่าง ๆ หรือการอ่านผ่านสื่ออีเล็กทรอนิกส์ ควรอ่านอย่างหลากหลาย เพราะความรู้ในวิชาหนึ่ง อาจนำไปช่วยเสริมในอีกวิชาหนึ่งได้
2. อ่านเพื่อความบันเทิงได้แก่ การอ่านจากหนังสือประเภทสารคดีท่องเที่ยว นวนิยาย เรื่องสั้น เรื่องแปล การ์ตูน บทประพันธ์ บทเพลง แม้จะเป็นการอ่านเพื่อความบันเทิง แต่ผู้อ่านจะได้ความรู้ที่สอดแทรกอยู่ในเรื่องด้วย
3. อ่านเพื่อทราบข่าวสารความคิด ได้แก่ การอ่านจากหนังสือประเภทบทความ บทวิจารณ์ ข่าว รายงานการประชุม ถ้าจะให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริงต้องเลือกอ่านให้หลากหลาย ไม่เจาะจงอ่านเฉพาะสื่อ ที่นำเสนอตรงกับความคิดของตน เพราะจะทำให้ได้มุมมอง ที่กว้างขึ้น ช่วยให้มีเหตุผลอื่น ๆ มาประกอบการวิจารณ์ วิเคราะห์ได้หลายมุมมองมากขึ้น
4. อ่านเพื่อจุดประสงค์เฉพาะทางแต่ละครั้ง ได้แก่ การอ่านที่ไม่ได้เจาะจง แต่เป็นการอ่านในเรื่องที่ตนสนใจ หรืออยากรู้ เช่น การอ่านประกาศต่าง ๆ การอ่านโฆษณา แผ่นพับ ประชาสัมพันธ์ สลากยา ข่าวสังคม ข่าวบันเทิง ข่าวกีฬา การอ่านประเภทนี้มักใช้เวลาไม่นาน ส่วนใหญ่เป็นการอ่านเพื่อให้ได้ความรู้และนำไปใช้ หรือนำไปเป็นหัวข้อสนทนา เชื่อมโยงการอ่าน สู่การวิเคราะห์ และคิดวิเคราะห์ บางครั้งก็อ่านเพื่อใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์



ประโยชน์ของการอ่าน

1. เป็นการสนองความต้องการของมนุษย์
2. ทำให้มนุษย์เกิดความรู้ ทักษะต่าง ๆ ตลอดจนความก้าวหน้าทางวิชาชีพ
3. ทำให้มนุษย์เกิดความคิดสร้างสรรค์ ความเพลิดเพลินบันเทิงใจและเกิดความบันดาลใจ
4. เป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์
5. ทำให้มนุษย์ทันต่อเหตุการณ์ความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ของโลก
6. เป็นการส่งเสริมสุขภาพของมนุษย์
7. ช่วยให้มนุษย์แก้ปัญหาสังคม การเมือง เศรษฐกิจและปัญหาส่วนตัว



คุณสมบัติของนักอ่านที่ดี

1. มีนิสัยรักการอ่าน
2. มีจิตใจกว้างขวางพร้อมที่จะอ่านหนังสือที่ดีมีคุณค่าได้ทุกประเภท
3. มีเจตคติที่ดีต่อการอ่านและเรื่องที่อ่าน
4. หมั่นหาเวลาหรือจัดเวลาสำหรับการอ่านให้กับตนเองทุกวันอย่างสม่ำเสมอ
5. เป็นคนรักหนังสือและแสวงหาหนังสือที่ดีอ่านอยู่เสมอ
6. มีความสามารถในการเลือกหนังสือที่ดีอ่าน
7. มีความอดทน มีอารมณ์หรือมีสมาธิในการอ่าน
8. มีสุขภาพกาย สุขภาพจิตที่สมบูรณ์
9. มีความเบิกบาน แจ่มใส และปลอดโปร่งอยู่เสมอ
10. มีนิสัยใฝ่หาความรู้ ความคิด และประสบการณ์ใหม่ ๆ อยู่เสมอ
11. มีทักษะในการอ่านสรุปความ วิเคราะห์ความ และวินิจฉัยความ
12. มีความคิดหรือมีวิจารณญาณที่ดีต่อเรื่องที่อ่านสามารถที่จะแยกแยะข้อเท็จจริง ความถูกต้อง ความเหมาะสมต่าง ๆ และสามารถเลือกนำไปใช้ประโยชน์
13. มีนิสัยชอบจดบันทึกเรื่องราวต่าง ๆ ที่พบในการอ่านและเห็นว่ามีคุณค่า
14. มีความจำดี รู้จักหาวิธีช่วยจำ และเพิ่มประสิทธิภาพของการจำ
15. มีนิสัยชอบเข้าร้านหนังสือและห้องสมุด
16. มีโอกาสหรือหาโอกาสพูดคุยกับผู้รักการอ่านด้วยกันอยู่เสมอ เพื่อแลกเปลี่ยน ทรรศนะในการอ่านให้แตกฉานยิ่งขึ้น
17. มีนิสัยหมั่นทบทวน ติดตาม ค้นคว้าเพิ่มเติม



วิธีอ่านหนังสือที่ดี

วิธีการอ่านหนังสือที่ดี มีขั้นตอน ดังนี้

1. อ่านทั้งย่อหน้า การฝึกอ่านทั้งย่อหน้าควรปฏิบัติ ดังนี้
1.1 พยายามจับจุดสำคัญของเนื้อหาในย่อหน้านั้น
1.2 พยายามถามตัวเองว่าสามารถตั้งชื่อเรื่องแต่ละย่อหน้าได้หรือไม่
1.3 ดูรายละเอียดนั้นว่ามีอะไรบ้างที่สัมพันธ์กับจุดสำคัญ มีอะไรบ้างที่ไม่เกี่ยวข้อง และอะไรบ้างที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวข้องกันอย่างไร
1.4 แต่ละเรื่องติดต่อกันหรือไม่ และทราบได้อย่างไรว่าติดต่อกัน
1.5. วิธีการเขียนของผู้เขียนมีอะไรบ้างที่เสริมจุดสำคัญเข้ากับจุดย่อย

2. สำรวจตำรา หรือหนังสือนั้น ๆ ก่อนที่จะทำการอ่านจริง ดังนี้
2.1 ดูสารบัญ คำนำ เพื่อทราบว่าในเล่มนั้น ๆ มีเนื้อหาอะไรบ้าง
2.2 ตรวจดูบทที่จะอ่านว่ามีหัวข้ออะไรบ้าง
2.3 อ่านคำนำของหนังสือและบทนำในแต่ละบทด้วย
2.4 พยายามตั้งคำถามแล้วค้นหาคำตอบอย่างคร่าว ๆ

3. อ่านเป็นบท ๆ
หลังจากได้ทำการสำรวจหนังสือแล้ว ผู้อ่านจะได้ความรู้เกี่ยวกับผู้แต่ง ภูมิหลัง ตลอดจนความมุ่งหมายในการแต่งหนังสือ แล้วจึงเริ่มอ่านหนังสือเป็นบท ๆ โดยปฏิบัติ ดังนี้
3.1 อ่านทีละบทโดยไม่หยุดจนจบบท อาจจะหยุดเพื่อจดบันทึกใจความสำคัญบ้าง ในบางครั้งก็ได้
3.2 อ่านบทเดิมอีกครั้ง เลือกอ่านเฉพาะหัวข้อและประโยคแรกของแต่ละย่อหน้า ถ้าอ่านแล้วยังไม่เข้าใจ ก็อ่านข้อความในแต่ละย่อหน้าใหม่ ถ้าอ่านประโยคแรกแล้วจำได้ว่าม เนื้อความอะไรบ้างที่ผ่านไปยังย่อหน้าอื่นได้
3.3 จดบันทึก เพื่อตอบคำถามที่ตั้งไว้ตอนแรก

4. การอ่านแบบข้ามหรืออ่านแบบคร่าว ๆ
การอ่านแบบข้ามหรืออ่

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความสำคัญของการอ่าน การอ่านมีความสำคัญต่อชีวิตมนุษย์ตั้งแต่เกิดจนโตและจนกระทั่งถึงวัยชราการอ่านทำให้รู้ข่าวสารข้อมูลต่างๆ ทั่วโลกซึ่งปัจจุบันเป็นโลกของข้อมูลข่าวสารต่างๆ ทั่วโลกทำให้ผู้อ่านมีความสุขมีความหวังและมีความอยากรู้อยากเห็นอันเป็นความต้องการของมนุษย์ทุกคนการอ่านมีประโยชน์ในการพัฒนาตนเองคือพัฒนาการศึกษาพัฒนาอาชีพพัฒนาคุณภาพชีวิตทำให้เป็นคนทันสมัยทันต่อเหตุการณ์และมีความอยากรู้อยากเห็นการที่จะพัฒนาประเทศให้เจริญรุ่งเรืองก้าวหน้าได้ต้องอาศัยประชาชนที่มีความรู้ความสามารถซึ่งความรู้ต่างๆ ก็ได้มาจากการอ่านนั่นเอง........................ความหมายของการอ่าน การอ่านคือกระบวนการที่ผู้อ่านรับรู้สารซึ่งเป็นความรู้ความคิดความรู้สึกและความคิดเห็นที่ผู้เขียนถ่ายทอดออกมาเป็นลายลักษณ์อักษรการที่ผู้อ่านจะเข้าใจสารได้มากน้อยเพียงไรขึ้นอยู่กับประสบการณ์และความสามารถในการใช้ความคิด.........................จุดมุ่งหมายของการอ่าน 1. อ่านเพื่อความรู้ได้แก่การอ่านจากหนังสือตำราทางวิชาการสารคดีทางวิชาการการวิจัยประเภทต่างๆ หรือการอ่านผ่านสื่ออีเล็กทรอนิกส์ควรอ่านอย่างหลากหลายเพราะความรู้ในวิชาหนึ่งอาจนำไปช่วยเสริมในอีกวิชาหนึ่งได้ 2. อ่านเพื่อความบันเทิงได้แก่การอ่านจากหนังสือประเภทสารคดีท่องเที่ยวนวนิยายเรื่องสั้นเรื่องแปลการ์ตูนบทประพันธ์บทเพลงแม้จะเป็นการอ่านเพื่อความบันเทิงแต่ผู้อ่านจะได้ความรู้ที่สอดแทรกอยู่ในเรื่องด้วย 3. อ่านเพื่อทราบข่าวสารความคิดได้แก่การอ่านจากหนังสือประเภทบทความบทวิจารณ์ข่าวรายงานการประชุมถ้าจะให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริงต้องเลือกอ่านให้หลากหลายไม่เจาะจงอ่านเฉพาะสื่อที่นำเสนอตรงกับความคิดของตนเพราะจะทำให้ได้มุมมองที่กว้างขึ้นช่วยให้มีเหตุผลอื่นๆ มาประกอบการวิจารณ์วิเคราะห์ได้หลายมุมมองมากขึ้น 4. อ่านเพื่อจุดประสงค์เฉพาะทางแต่ละครั้งได้แก่การอ่านที่ไม่ได้เจาะจงแต่เป็นการอ่านในเรื่องที่ตนสนใจหรืออยากรู้เช่นการอ่านประกาศต่างๆ การอ่านโฆษณาแผ่นพับประชาสัมพันธ์สลากยาข่าวสังคมข่าวบันเทิงข่าวกีฬาการอ่านประเภทนี้มักใช้เวลาไม่นานส่วนใหญ่เป็นการอ่านเพื่อให้ได้ความรู้และนำไปใช้หรือนำไปเป็นหัวข้อสนทนาเชื่อมโยงการอ่านสู่การวิเคราะห์และคิดวิเคราะห์บางครั้งก็อ่านเพื่อใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ประโยชน์ของการอ่าน 1. เป็นการสนองความต้องการของมนุษย์ 2. ทำให้มนุษย์เกิดความรู้ทักษะต่างๆ ตลอดจนความก้าวหน้าทางวิชาชีพ 3. ทำให้มนุษย์เกิดความคิดสร้างสรรค์ความเพลิดเพลินบันเทิงใจและเกิดความบันดาลใจ 4. เป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ 5. ทำให้มนุษย์ทันต่อเหตุการณ์ความเคลื่อนไหวต่างๆ ของโลก 6. เป็นการส่งเสริมสุขภาพของมนุษย์ 7. ช่วยให้มนุษย์แก้ปัญหาสังคมการเมืองเศรษฐกิจและปัญหาส่วนตัว คุณสมบัติของนักอ่านที่ดี 1. มีนิสัยรักการอ่าน 2. มีจิตใจกว้างขวางพร้อมที่จะอ่านหนังสือที่ดีมีคุณค่าได้ทุกประเภท 3. มีเจตคติที่ดีต่อการอ่านและเรื่องที่อ่าน 4. หมั่นหาเวลาหรือจัดเวลาสำหรับการอ่านให้กับตนเองทุกวันอย่างสม่ำเสมอ 5. เป็นคนรักหนังสือและแสวงหาหนังสือที่ดีอ่านอยู่เสมอ 6. มีความสามารถในการเลือกหนังสือที่ดีอ่าน 7. มีความอดทนมีอารมณ์หรือมีสมาธิในการอ่าน 8. มีสุขภาพกายสุขภาพจิตที่สมบูรณ์ 9. มีความเบิกบานแจ่มใสและปลอดโปร่งอยู่เสมอ 10. มีนิสัยใฝ่หาความรู้ความคิดและประสบการณ์ใหม่ๆ อยู่เสมอ 11. มีทักษะในการอ่านสรุปความวิเคราะห์ความและวินิจฉัยความ 12. มีความคิดหรือมีวิจารณญาณที่ดีต่อเรื่องที่อ่านสามารถที่จะแยกแยะข้อเท็จจริงความถูกต้องความเหมาะสมต่างๆ และสามารถเลือกนำไปใช้ประโยชน์ 13. มีนิสัยชอบจดบันทึกเรื่องราวต่างๆ ที่พบในการอ่านและเห็นว่ามีคุณค่า 14. มีความจำดีรู้จักหาวิธีช่วยจำและเพิ่มประสิทธิภาพของการจำ 15. มีนิสัยชอบเข้าร้านหนังสือและห้องสมุด 16. มีโอกาสหรือหาโอกาสพูดคุยกับผู้รักการอ่านด้วยกันอยู่เสมอเพื่อแลกเปลี่ยนทรรศนะในการอ่านให้แตกฉานยิ่งขึ้น 17. มีนิสัยหมั่นทบทวนติดตามค้นคว้าเพิ่มเติม วิธีอ่านหนังสือที่ดี วิธีการอ่านหนังสือที่ดีมีขั้นตอนดังนี้ 1. อ่านทั้งย่อหน้าการฝึกอ่านทั้งย่อหน้าควรปฏิบัติดังนี้ 1.1 พยายามจับจุดสำคัญของเนื้อหาในย่อหน้านั้น 1.2 พยายามถามตัวเองว่าสามารถตั้งชื่อเรื่องแต่ละย่อหน้าได้หรือไม่ 1.3 ดูรายละเอียดนั้นว่ามีอะไรบ้างที่สัมพันธ์กับจุดสำคัญมีอะไรบ้างที่ไม่เกี่ยวข้องและอะไรบ้างที่เกี่ยวข้องเกี่ยวข้องกันอย่างไร 1.4 แต่ละเรื่องติดต่อกันหรือไม่และทราบได้อย่างไรว่าติดต่อกัน 1.5. วิธีการเขียนของผู้เขียนมีอะไรบ้างที่เสริมจุดสำคัญเข้ากับจุดย่อย 2. สำรวจตำราหรือหนังสือนั้นๆ ก่อนที่จะทำการอ่านจริงดังนี้ 2.1 ดูสารบัญคำนำเพื่อทราบว่าในเล่มนั้นๆ มีเนื้อหาอะไรบ้าง 2.2 ตรวจดูบทที่จะอ่านว่ามีหัวข้ออะไรบ้าง 2.3 อ่านคำนำของหนังสือและบทนำในแต่ละบทด้วย ๆ 2.4 พยายามตั้งคำถามแล้วค้นหาคำตอบอย่างคร่าว 3. อ่านเป็นบทๆ หลังจากได้ทำการสำรวจหนังสือแล้วผู้อ่านจะได้ความรู้เกี่ยวกับผู้แต่งภูมิหลังตลอดจนความมุ่งหมายในการแต่งหนังสือแล้วจึงเริ่มอ่านหนังสือเป็นบทๆ โดยปฏิบัติดังนี้ 3.1 อ่านทีละบทโดยไม่หยุดจนจบบทอาจจะหยุดเพื่อจดบันทึกใจความสำคัญบ้างในบางครั้งก็ได้ 3.2 อ่านบทเดิมอีกครั้งเลือกอ่านเฉพาะหัวข้อและประโยคแรกของแต่ละย่อหน้าถ้าอ่านแล้วยังไม่เข้าใจก็อ่านข้อความในแต่ละย่อหน้าใหม่ถ้าอ่านประโยคแรกแล้วจำได้ว่ามเนื้อความอะไรบ้างที่ผ่านไปยังย่อหน้าอื่นได้ เพื่อตอบคำถามที่ตั้งไว้ตอนแรก 3.3 จดบันทึก 4. ๆ การอ่านแบบข้ามหรืออ่านแบบคร่าว การอ่านแบบข้ามหรืออ่

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

และจนกระทั่งถึงวัยชราการอ่านทำให้รู้ข่าวสารข้อมูลต่าง ๆ ทั่วโลก ๆ ทั่วโลกทำให้ผู้อ่านมีความสุขมีความหวังและมีความอยากรู้อยากเห็นอันเป็นความต้องการของมนุษย์ทุกคนการอ่านมีประโยชน์ในการพัฒนาตนเองคือพัฒนาการศึกษาพัฒนาอาชีพพัฒนาคุณภาพชีวิตทำให้เป็นคนทันสมัยทันต่อเหตุการณ์และ มีความอยากรู้อยากเห็น ซึ่งความรู้ต่าง ๆ คือ ความคิดความรู้สึกและ อ่านเพื่อความรู้ ได้แก่ การอ่านจากหนังสือตำราทางวิชาการสารคดีทางวิชาการการวิจัยประเภทต่าง ๆ หรือการอ่านผ่านสื่ออีเล็กทรอนิกส์ควรอ่านอย่างหลากหลายเพราะความรู้ในวิชาหนึ่ง อ่านเพื่อความบันเทิง ได้แก่ นวนิยายเรื่องสั้นเรื่องแปลการ์ตูนบทประพันธ์บทเพลงแม้จะเป็นการอ่านเพื่อความบันเทิง อ่านเพื่อทราบข่าวสารความคิด ได้แก่ การอ่านจากหนังสือประเภทบทความบทวิจารณ์ข่าวรายงานการประชุม ไม่เจาะจงอ่านเฉพาะสื่อที่นำเสนอตรงกับความคิดของตนเพราะจะทำให้ได้มุมมองที่กว้างขึ้นช่วยให้มีเหตุผลอื่น ๆ มาประกอบการวิจารณ์วิเคราะห์ได้หลายมุมมองมากขึ้น 4 ได้แก่ การอ่านที่ไม่ได้เจาะจง แต่เป็นการอ่านในเรื่องที่ตนสนใจหรืออยากรู้เช่นการอ่านประกาศต่าง ๆ การอ่านโฆษณาแผ่นพับประชาสัมพันธ์สลากยาข่าวสังคมข่าวบันเทิงข่าวกีฬาการอ่านประเภทนี้มักใช้เวลาไม่นาน หรือนำไปเป็นหัวข้อสนทนาเชื่อมโยงการอ่านสู่การวิเคราะห์และคิดวิเคราะห์ เป็นการสนองความต้องการของมนุษย์2 ทำให้มนุษย์เกิดความรู้ทักษะต่าง ๆ ตลอดจนความก้าวหน้าทางวิชาชีพ 3 ทำให้มนุษย์เกิดความคิดสร้างสรรค์ ๆ ของโลก6 เป็นการส่งเสริมสุขภาพของมนุษย์7 ช่วยให้มนุษย์แก้ปัญหาสังคมการเมือง มีนิสัยรักการอ่าน2 มีความอดทนมีอารมณ์หรือมีสมาธิในการอ่าน8 มีสุขภาพกายสุขภาพจิตที่สมบูรณ์9 มีความเบิกบานแจ่มใสและปลอดโปร่งอยู่เสมอ10 มีนิสัยใฝ่หาความรู้ความคิดและประสบการณ์ใหม่ ๆ อยู่เสมอ 11 มีทักษะในการอ่านสรุปความวิเคราะห์ความและวินิจฉัยความ12 ความถูกต้องความเหมาะสมต่าง ๆ และสามารถเลือกนำไปใช้ประโยชน์13 มีนิสัยชอบจดบันทึกเรื่องราวต่าง ๆ ที่พบในการอ่านและเห็นว่ามีคุณค่า 14 มีความจำดีรู้จักหาวิธีช่วยจำและเพิ่มประสิทธิภาพของการจำ15 เพื่อแลกเปลี่ยนทรรศนะในการอ่านให้แตกฉานยิ่งขึ้น17 มีนิสัยหมั่นทบทวนติดตาม มีขั้นตอนดังนี้1 อ่านทั้งย่อหน้าการฝึกอ่านทั้งย่อหน้าควรปฏิบัติดังนี้1.1 มีอะไรบ้างที่ไม่เกี่ยวข้องและอะไรบ้างที่เกี่ยวข้องเกี่ยวข้องกันอย่างไร1.4 แต่ละเรื่องติดต่อกันหรือไม่และทราบได้อย่างไรว่าติดต่อกัน1.5 สำรวจตำราหรือหนังสือนั้น ๆ ก่อนที่จะทำการอ่านจริงดังนี้2.1 ดูสารบัญคำนำเพื่อทราบว่าในเล่มนั้น ๆ มีเนื้อหาอะไรบ้าง 2.2 ๆ3 เป็นบทอ่าน ๆหลังจากได้ทำการสำรวจหนังสือแล้ว ภูมิหลัง แล้วจึงเริ่มอ่านหนังสือเป็นบท ๆ โดยปฏิบัติดังนี้ 3.1 อ่านทีละบทโดยไม่หยุดจนจบบท ในบางครั้งก็ได้3.2 อ่านบทเดิมอีกครั้ง ถ้าอ่านแล้วยังไม่เข้าใจก็อ่านข้อความในแต่ละย่อหน้าใหม่ถ้าอ่านประโยคแรกแล้วจำได้ว่าม จดบันทึกเพื่อตอบคำถามที่ตั้งไว้ตอนแรก4 อ่านแบบหัวเรื่อง: การข้ามหรืออ่านแบบคร่าว ๆหัวเรื่อง: การอ่านแบบข้ามหรืออ่

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความสำคัญของการอ่าน

การอ่านมีความสำคัญต่อชีวิตมนุษย์ตั้งแต่เกิดจนโตและจนกระทั่งถึงวัยชราการอ่านทำให้รู้ข่าวสารข้อมูลต่างจะทั่วโลกซึ่งปัจจุบันเป็นโลกของข้อมูลข่าวสารต่างจะทั่วโลกทำให้ผู้อ่านมีความสุขมีความหวังอันเป็นความต้องการของมนุษย์ทุกคนการอ่านมีประโยชน์ในการพัฒนาตนเองความพัฒนาการศึกษาพัฒนาอาชีพพัฒนาคุณภาพชีวิตทำให้เป็นคนทันสมัยทันต่อเหตุการณ์และมีความอยากรู้อยากเห็นซึ่งความรู้ต่างจะก็ได้มาจากการอ่านนั่นเอง
........................

ความหมายของการอ่านการอ่านความกระบวนการที่ผู้อ่านรับรู้สารซึ่งเป็นความรู้ความคิดความรู้สึกและความคิดเห็นที่ผู้เขียนถ่ายทอดออกมาเป็นลายลักษณ์อักษรการที่ผู้อ่านจะเข้าใจสารได้มากน้อยเพียงไรจุดมุ่งหมายของการอ่าน .........................

1อ่านเพื่อความรู้ได้แก่การอ่านจากหนังสือตำราทางวิชาการสารคดีทางวิชาการการวิจัยประเภทต่างจะหรือการอ่านผ่านสื่ออีเล็กทรอนิกส์ควรอ่านอย่างหลากหลายเพราะความรู้ในวิชาหนึ่ง2 .