นิโคลัส โคเปอร์นิคัส (Nicolaus Cope

นิโคลัส โคเปอร์นิคัส (Nicolaus Copernicus)
เกิด 19 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1473 เมืองตูรัน โปแลนด์
เสียชีวิต 24 พฤษภาคม ค.ศ.1543 เมือง ฟร้อนบูร์ก โปแลนด์

เป็นนักดาราศาสตร์ยุคหลังอริสโตเติล ผู้โด่งดังกับทฤษฎี “โลกเป็นเป็นศูนย์กลางของระบบสุริยจักรวาล” โคเปอร์นิคัส เป็นชาวโปแลนด์ เกิดมาในฐานะร่ำรวยแต่กำพร้าบิดาตั้งแต่ยังเด็ก เขาอยู่ในการปกครองของ ลุง ซึ่งเป็นพระนักบวช ซึ่งมีบทบาทต่อเขาอย่างมาก และมุ่งหวังอยากให้เขาเป็นแพทย์ เขาจึงได้มาศึกษาด้านเตรียมการแพทย์ เช่น คณิตศาสตร์ ภูมิศาสตร์ ดาราศาสตร์ จนเบนเข็มให้เขาหันมาสนใจด้านดาราศาสตร์มากกว่า แต่ท้ายที่สุดเขาก็หันไปเรียนด้านกฎหมายแทน จนถึงระดับ ปริญญาเอก ที่มหาวิทยาลัย เฟอร์รารา อิตาลี แต่ลุงเขากลับไม่ชอบใจ เขาจึงกลับมาศึกษาต่อด้านแพทย์อีกทีที่ มหาวิทาลัยปาดัว จนสำเร็จการศึกษา ทำให้เขาเชี่ยวชาญหลายด้าน ทั้งกฎหมาย แพทย์ และปรัชญา ศาสนา ละติน และดาราศาสตร์ ซึ่งหลังจากลุงเขาเสียชีวิต เขาก็หันมาสนใจด้านดาราศาสตร์อย่างจริงจัง ทำการศึกษาค้นคว้า โดยยึดหลักทฤษฎีของนักดาราศาสตร์ท่านอื่นศึกษาไว้มาเป็นแนวทางเกี่ยวกับการหมุนรอบตัวของอาทิตย์ จนทำให้เขาได้ค้นพบทฤษฎีใหม่ แต่ขัดแย้งกับคนอื่นๆและหลักศาสนา จนเขาเสียชีวิตผลงานหนังสือและการค้นพบของเขาจึงได้รับการเผยแพร่ออกสู่สายตาสาธารณะชนชื่อว่า “ การปฏิวัติทางโคจรแห่งดาวบนฟากฟ้า” (De Revolutionibus Orbrium Codestium) กับทฤษฎีที่พบ 3 ข้อคือ
ดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางของระบบสุริยจักรวาล โดยโลกและดาวเคราะห์อื่นๆต้องหมุนรอบดวงอาทิตย์ใช้เวลา 365 วัน หรือ 1 ปี และทำให้เกิดฤดูกาลขึ้น
โลกมีสัณฐานกลมไม่ใช่แบนอย่างที่เข้าใจ โดยโลกใช้เวลาหมุนรอบตัวเอง 1 วัน หรือ 24 ชม. และทำให้เกิดกลางวัน และ กลางคืน
ดาวเคราะห์ต่างๆที่โคจรรอบดวงอาทิตย์เป็นไปในลักษณะเป็นวงกลม แต่นักดาราศาสตร์รุ่นหลังบอกว่าเป็นวงรี
โคเปอร์นิคัส นับว่าเป็นนักดาราศาสตร์ที่ตั้งทฤษฎีได้ถูกต้องที่สุด และเป็นแนวทางกับการปฏิวัติความเชื่อแบบเก่าต่อในการศึกษาในปัจุบันนี้ เขาอุทิศทำงานอย่างหนัก ทั้งดาราศาสตร์ การแพทย์ และด้านเศรษฐกิจในฐานะบุคคลหนึ่งในคณะรัฐบาลสมัยนั้น ในการยึดนโยบายเงินตราที่มีหลักการ สามารถแก้ไขปัญหาเงินฝืดในบ้านเมืองประเทศโปแลนด์ได้


ผลงานการค้นพบ ของ นิโคลัส โคเปอร์นิคัส (Nicolaus Copernicus)
ตั้งทฤษฎีโลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ (Copernicus Theory) โดยทฤษฎีนี้กล่าวว่า ดวงอาทิตย์ศูนย์กลางสุริยะจักรวาล โลก ดาวเคราะห์อื่นๆต้องหมุนรอบดวงอาทิตย์ และโลกมีสัณฐานเป็นทรงกลม

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นิโคลัสโคเปอร์นิคัส (โคเปอร์นิคัส Nicolaus)เกิด 19 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1473 เมืองตูรันโปแลนด์เสียชีวิต 24 พฤษภาคม ค.ศ.1543 เมืองฟร้อนบูร์กโปแลนด์ เป็นนักดาราศาสตร์ยุคหลังอริสโตเติลผู้โด่งดังกับทฤษฎี "โลกเป็นเป็นศูนย์กลางของระบบสุริยจักรวาล" โคเปอร์นิคัสเป็นชาวโปแลนด์เกิดมาในฐานะร่ำรวยแต่กำพร้าบิดาตั้งแต่ยังเด็กเขาอยู่ในการปกครองของลุงซึ่งเป็นพระนักบวชซึ่งมีบทบาทต่อเขาอย่างมากและมุ่งหวังอยากให้เขาเป็นแพทย์เขาจึงได้มาศึกษาด้านเตรียมการแพทย์เช่นคณิตศาสตร์ภูมิศาสตร์ดาราศาสตร์จนเบนเข็มให้เขาหันมาสนใจด้านดาราศาสตร์มากกว่าแต่ท้ายที่สุดเขาก็หันไปเรียนด้านกฎหมายแทนจนถึงระดับปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยเฟอร์ราราอิตาลีแต่ลุงเขากลับไม่ชอบใจเขาจึงกลับมาศึกษาต่อด้านแพทย์อีกทีที่มหาวิทาลัยปาดัวจนสำเร็จการศึกษาทำให้เขาเชี่ยวชาญหลายด้านทั้งกฎหมายแพทย์และปรัชญาศาสนาละตินและดาราศาสตร์ซึ่งหลังจากลุงเขาเสียชีวิตเขาก็หันมาสนใจด้านดาราศาสตร์อย่างจริงจังทำการศึกษาค้นคว้า ข้อคือกับทฤษฎีที่พบ 3 จนทำให้เขาได้ค้นพบทฤษฎีใหม่แต่ขัดแย้งกับคนอื่นๆและหลักศาสนาจนเขาเสียชีวิตผลงานหนังสือและการค้นพบของเขาจึงได้รับการเผยแพร่ออกสู่สายตาสาธารณะชนชื่อว่า "การปฏิวัติทางโคจรแห่งดาวบนฟากฟ้า" (De Revolutionibus Orbrium Codestium) โดยยึดหลักทฤษฎีของนักดาราศาสตร์ท่านอื่นศึกษาไว้มาเป็นแนวทางเกี่ยวกับการหมุนรอบตัวของอาทิตย์ดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางของระบบสุริยจักรวาลโดยโลกและดาวเคราะห์อื่นๆต้องหมุนรอบดวงอาทิตย์ใช้เวลา 365 วันหรือ 1 ปีและทำให้เกิดฤดูกาลขึ้นโลกมีสัณฐานกลมไม่ใช่แบนอย่างที่เข้าใจโดยโลกใช้เวลาหมุนรอบตัวเอง 1 วันหรือ 24 ชม และทำให้เกิดกลางวันและกลางคืนดาวเคราะห์ต่างๆที่โคจรรอบดวงอาทิตย์เป็นไปในลักษณะเป็นวงกลมแต่นักดาราศาสตร์รุ่นหลังบอกว่าเป็นวงรี โคเปอร์นิคัสนับว่าเป็นนักดาราศาสตร์ที่ตั้งทฤษฎีได้ถูกต้องที่สุดและเป็นแนวทางกับการปฏิวัติความเชื่อแบบเก่าต่อในการศึกษาในปัจุบันนี้เขาอุทิศทำงานอย่างหนักทั้งดาราศาสตร์การแพทย์และด้านเศรษฐกิจในฐานะบุคคลหนึ่งในคณะรัฐบาลสมัยนั้นในการยึดนโยบายเงินตราที่มีหลักการสามารถแก้ไขปัญหาเงินฝืดในบ้านเมืองประเทศโปแลนด์ได้ผลงานการค้นพบนั้น ๆ นิโคลัสโคเปอร์นิคัส (โคเปอร์นิคัส Nicolaus)ตั้งทฤษฎีโลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ (ทฤษฎีโคเปอร์นิคัส) โดยทฤษฎีนี้กล่าวว่าดวงอาทิตย์ศูนย์กลางสุริยะจักรวาลโลกดาวเคราะห์อื่นๆต้องหมุนรอบดวงอาทิตย์และโลกมีสัณฐานเป็นทรงกลม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นิโคลัสโคเปอร์นิคัส (Nicolaus Copernicus)
เกิด 19 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1473
ตูรันเมืองโปแลนด์เสียชีวิต24 พฤษภาคม ค.ศ. 1543 เมืองฟร้อนบูร์ก ผู้โด่งดังกับทฤษฎี โคเปอร์นิคัสเป็นชาวโปแลนด์ เขาอยู่ในการปกครองของลุงซึ่งเป็นพระนักบวชซึ่งมีบทบาทต่อเขาอย่างมากและมุ่งหวังอยากให้เขาเป็นแพทย์ เช่นคณิตศาสตร์ภูมิศาสตร์ดาราศาสตร์ จนถึงระดับปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยเฟอร์ราราอิตาลี แต่ลุงเขากลับไม่ชอบใจ มหาวิทาลัยปาดัวจนสำเร็จการศึกษาทำให้เขาเชี่ยวชาญหลายด้านทั้งกฎหมายแพทย์และปรัชญาศาสนาละตินและดาราศาสตร์ซึ่งหลังจากลุงเขาเสียชีวิต ทำการศึกษาค้นคว้า จนทำให้เขาได้ค้นพบทฤษฎีใหม่ แต่ขัดแย้งกับคนอื่น ๆ และหลักศาสนา "การปฏิวัติทางโคจรแห่งดาวบนฟากฟ้า" (De Revolutionibus Orbrium Codestium) กับทฤษฎีที่พบ 3 365 วันหรือ 1 ปี โดยโลกใช้เวลาหมุนรอบตัวเอง 1 วันหรือ 24 ชม และทำให้เกิดกลางวันและ เขาอุทิศทำงานอย่างหนักทั้งดาราศาสตร์การแพทย์ ในการยึดนโยบายเงินตราที่มีหลักการ ของนิโคลัสโคเปอร์นิคัส (Nicolaus Copernicus) ตั้งทฤษฎีโลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ (โคเปอร์นิคัทฤษฎี) โดยทฤษฎีนี้กล่าวว่าดวงอาทิตย์ศูนย์กลางสุริยะจักรวาลโลก และโลกมีสัณฐานเป็นทรงกลม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นิโคลัสโคเปอร์นิคัส ( ตั้งโอ๋ )
เกิด 19 กุมภาพันธ์ค . ศ . ทําเมืองตูรันโปแลนด์
24 เสียชีวิตพฤษภาคมค . ศ . 1 เมืองฟร้อนบูร์กโปแลนด์

เป็นนักดาราศาสตร์ยุคหลังอริสโตเติลผู้โด่งดังกับทฤษฎี " โลกเป็นเป็นศูนย์กลางของระบบสุริยจักรวาล " โคเปอร์นิคัสเป็นชาวโปแลนด์เกิดมาในฐานะร่ำรวยแต่กำพร้าบิดาตั้งแต่ยังเด็กเขาอยู่ในการปกครองของลุงซึ่งมีบทบาทต่อเขาอย่างมากและมุ่งหวังอยากให้เขาเป็นแพทย์เขาจึงได้มาศึกษาด้านเตรียมการแพทย์เช่นคณิตศาสตร์ภูมิศาสตร์ดาราศาสตร์จนเบนเข็มให้เขาหันมาสนใจด้านดาราศาสตร์มากกว่าจนถึงระดับปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยเฟอร์ราราอิตาลีแต่ลุงเขากลับไม่ชอบใจเขาจึงกลับมาศึกษาต่อด้านแพทย์อีกทีที่มหาวิทาลัยปาดัวจนสำเร็จการศึกษาทำให้เขาเชี่ยวชาญหลายด้านทั้งกฎหมายแพทย์และปรัชญาศาสนาและดาราศาสตร์ซึ่งหลังจากลุงเขาเสียชีวิตเขาก็หันมาสนใจด้านดาราศาสตร์อย่างจริงจังทำการศึกษาค้นคว้าโดยยึดหลักทฤษฎีของนักดาราศาสตร์ท่านอื่นศึกษาไว้มาเป็นแนวทางเกี่ยวกับการหมุนรอบตัวของอาทิตย์แต่ขัดแย้งกับคนอื่นๆและหลักศาสนาจนเขาเสียชีวิตผลงานหนังสือและการค้นพบของเขาจึงได้รับการเผยแพร่ออกสู่สายตาสาธารณะชนชื่อว่า " การปฏิวัติทางโคจรแห่งดาวบนฟากฟ้า” ( de revolutionibus orbrium codestium ) กับทฤษฎีที่พบข้อคือ
3ดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางของระบบสุริยจักรวาลโดยโลกและดาวเคราะห์อื่นๆต้องหมุนรอบดวงอาทิตย์ใช้เวลา 365 ได้รับเลือกตั้งผ่านกระบวนการประชาธิปไตยของพม่าค็อค 1 และทำให้เกิดฤดูกาลขึ้น
.โลกมีสัณฐานกลมไม่ใช่แบนอย่างที่เข้าใจโดยโลกใช้เวลาหมุนรอบตัวเอง 1 ได้รับเลือกตั้งผ่านกระบวนการประชาธิปไตยของพม่าค็อค 24 ชม . และทำให้เกิดกลางวันและกลางคืน
ดาวเคราะห์ต่างๆที่โคจรรอบดวงอาทิตย์เป็นไปในลักษณะเป็นวงกลมแต่นักดาราศาสตร์รุ่นหลังบอกว่าเป็นวงรี
โคเปอร์นิคัสนับว่าเป็นนักดาราศาสตร์ที่ตั้งทฤษฎีได้ถูกต้องที่สุดและเป็นแนวทางกับการปฏิวัติความเชื่อแบบเก่าต่อในการศึกษาในปัจุบันนี้เขาอุทิศทำงานอย่างหนักทั้งดาราศาสตร์การแพทย์ในการยึดนโยบายเงินตราที่มีหลักการสามารถแก้ไขปัญหาเงินฝืดในบ้านเมืองประเทศโปแลนด์ได้


ผลงานการค้นพบของนิโคลัสโคเปอร์นิคัส ( ตั้งโอ๋ )
ตั้งทฤษฎีโลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ ( ทฤษฎีโคเปอร์นิคัส ) โดยทฤษฎีนี้กล่าวว่าดวงอาทิตย์ศูนย์กลางสุริยะจักรวาลโลกดาวเคราะห์อื่นๆต้องหมุนรอบดวงอาทิตย์และโลกมีสัณฐานเป็นทรงกลม