The film begins with a profile of K

The film begins with a profile of Kenneth Lay, who founded Enron in 1985. Two years after its founding, the company becomes embroiled in scandal after two traders begin betting on the oil markets, resulting in suspiciously consistent profits. Enron's CEO, Louis Borget, is also discovered to be diverting company money to offshore accounts. After auditors uncover their schemes, Lay encourages them to "keep making us millions". However, the traders are fired after it is revealed that they gambled away Enron's reserves, nearly destroying the company. After these facts are brought to light, Lay denies having any knowledge of wrongdoing.

Lay hires new CEO Jeffrey Skilling, a visionary who joins Enron on the condition that they utilize mark-to-market accounting, allowing the company to record potential profits on certain projects immediately after contracts were signed, regardless of the actual profits that the deal would generate. This gives Enron the ability to subjectively give the appearance of being a profitable company even if it isn't. Skilling imposes his interpretation of Darwinian worldview on Enron by establishing a review committee that grades employees and annually fires the bottom fifteen percent. This creates a highly competitive and brutal working environment.

Skilling hires lieutenants who enforce his directives inside Enron, known as the "guys with spikes." They include J. Clifford Baxter, an intelligent but manic-depressive executive; and Lou Pai, the CEO of Enron Energy Services, who is notorious for using shareholder money to feed his obsessive habit of visiting strip clubs. Pai abruptly resigns from EES with $250 million, soon after selling his stock. Despite the amount of money Pai has made, the divisions he formerly ran lost $1 billion, a fact covered up by Enron. Pai uses his money to buy a large ranch in Colorado, becoming the second-largest landowner in the state.

With its success in the bull market brought on by the dot-com bubble, Enron seeks to beguile stock market analysts by meeting their projections. Executives push up their stock prices and then cash in their multi-million dollar options. Enron also mounts a PR campaign to portray itself as profitable and stable, even though its worldwide operations are performing poorly. Elsewhere, Enron attempts to use broadband technology to deliver movies on demand, and "trade weather" like a commodity; both initiatives fail. However, using mark-to-market accounting, Enron records non-existent profits for these ventures.

Enron's successes continue as it became one of the few Internet-related companies to survive the dot-com bubble burst in 2000, and is named as the "most admired" corporation by Fortune magazine for the sixth year running. However, Jim Chanos, an Enron investor, and Bethany McLean, a Fortune reporter, question irregularities about the company's financial statements and stock value. Skilling responds by calling McLean "unethical", and accusing Fortune of publishing her reporting to counteract a positive BusinessWeek piece on Enron. Three Enron executives, including CFO Andrew Fastow, meet with McLean and her Fortune editor to explain the company's finances.

Fastow creates a network of shell companies designed solely to do business with Enron, for the ostensible dual purposes of sending Enron money and hiding its increasing debt. However, Fastow has a vested financial stake in these ventures, using them to defraud Enron of tens of millions of dollars. Fastow also takes advantage of the greed of Wall Street investment banks, pressuring them into investing in his shell entities and, in effect, conduct business deals with himself.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หนังเริ่มต้นด้วยรายละเอียดของเคนเน็ ธ เลย์ผู้ก่อตั้ง Enron ในปี 1985 สองปีหลังจากการก่อตั้ง บริษัท มาพัวพันในเรื่องอื้อฉาวหลังจากที่สองพ่อค้าเริ่มต้นการพนันในตลาดน้ำมันส่งผลให้ผลกำไรที่สม่ำเสมออย่างมีพิรุธ Enron ซีอีโอของหลุยส์ Borget ยังมีการค้นพบจะได้รับการโอนเงินของ บริษัท ไปยังบัญชีในต่างประเทศ หลังจากที่ผู้สอบบัญชีได้ค้นพบแผนการของพวกเขาเลย์สนับสนุนให้พวกเขา "ให้ทำให้เราประชาชน" อย่างไรก็ตามผู้ค้าถูกยิงหลังจากที่มีการเปิดเผยว่าพวกเขาเล่นการพนันออกไปสำรอง Enron ของเกือบทำลาย บริษัท หลังจากข้อเท็จจริงเหล่านี้จะถูกนำไปแสงเลย์ปฏิเสธการมีความรู้เกี่ยวกับการกระทำผิดกฎหมายใด ๆ . เลย์ได้รับการว่าจ้างใหม่ซีอีโอเจฟฟรีย์ Skilling, วิสัยทัศน์ที่ร่วม Enron บนเงื่อนไขที่ว่าพวกเขาใช้เครื่องหมายในการตลาดการบัญชี, การอนุญาตให้ บริษัท ที่จะบันทึกผลกำไรที่มีศักยภาพในบางอย่าง โครงการทันทีหลังจากที่ได้ลงนามในสัญญาโดยไม่คำนึงถึงผลกำไรที่เกิดขึ้นจริงว่าข้อตกลงจะสร้าง นี้จะช่วยให้ Enron ความสามารถในการกระทำให้ลักษณะของการเป็น บริษัท ที่ทำกำไรถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้ Skilling กำหนดความหมายของมุมมองของดาร์วินใน Enron โดยการจัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบว่าพนักงานเกรดและเป็นประจำทุกปีไฟด้านล่างร้อยละสิบห้า นี้จะสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่มีการแข่งขันสูงและโหดร้าย. Skilling ได้รับการว่าจ้างทหารที่บังคับใช้คำสั่งของเขาภายใน Enron ที่รู้จักในฐานะ "คนด้วยหนามแหลม." พวกเขารวมถึงเจ Clifford แบ็กซ์เตอร์ผู้บริหารที่ชาญฉลาด แต่คลั่งไคล้ซึมเศร้า; และลูปาย, ซีอีโอของ Enron บริการทางด้านพลังงานที่เป็นที่รู้จักสำหรับการใช้เงินของผู้ถือหุ้นที่จะเลี้ยงนิสัยครอบงำของเขาจากการเยี่ยมชมคลับเปลื้องผ้า ปายทันทีลาออกจาก EES กับ $ 250,000,000 ไม่นานหลังจากการขายหุ้นของเขา แม้จะมีจำนวนเงินที่ปายได้ทำให้ฝ่ายเขาก่อนวิ่งหายไป $ 1 พันล้านจริงปกคลุมด้วย Enron ปายใช้เงินของเขาที่จะซื้อฟาร์มปศุสัตว์ขนาดใหญ่ในรัฐโคโลราโดกลายเป็นเจ้าของที่ดินสองที่ใหญ่ที่สุดในรัฐ. ด้วยความสำเร็จในตลาดวัวนำโดยฟองดอทคอม, Enron พยายามที่จะล่อลวงนักวิเคราะห์ตลาดหุ้นโดยการประชุมประมาณการของพวกเขา ผู้บริหารส่งผลต่อราคาหุ้นของพวกเขาแล้วเงินสดในหลายล้านดอลล่าของพวกเขาเลือก Enron ยัง mounts รณรงค์ประชาสัมพันธ์เพื่อให้เห็นภาพตัวเองเป็นผลกำไรและมีเสถียรภาพแม้ว่าการดำเนินงานทั่วโลกของ บริษัท มีประสิทธิภาพต่ำ ที่อื่น Enron พยายามที่จะใช้เทคโนโลยีบรอดแบนด์ที่จะส่งมอบภาพยนตร์ในความต้องการและ "อากาศค้า" เช่นสินค้าโภคภัณฑ์; ทั้งความคิดริเริ่มที่จะล้มเหลว อย่างไรก็ตามการใช้เครื่องหมายในการตลาดการบัญชี Enron บันทึกผลกำไรไม่ได้มีอยู่สำหรับกิจการเหล่านี้. ความสำเร็จ Enron ยังคงมันก็กลายเป็นหนึ่งในไม่กี่ บริษัท ที่เกี่ยวข้องกับอินเทอร์เน็ตเพื่อความอยู่รอดฟองดอทคอมระเบิดในปี 2000 และได้รับการเสนอชื่อเป็น "ได้รับการยกย่องมากที่สุด" บริษัท โดยนิตยสารฟอร์จูนสำหรับปีที่หกทำงาน แต่จิม Chanos นักลงทุน Enron และเบธานีแมคลีน, นักข่าวฟอร์จูน, คำถามผิดปกติเกี่ยวกับงบการเงินของ บริษัท ฯ และมูลค่าหุ้น Skilling ตอบสนองโดยการเรียกแมคลีน "ผิดจรรยาบรรณ" และกล่าวหาฟอร์จูนของการเผยแพร่การรายงานของเธอที่จะรับมือกับบวกชิ้น BusinessWeek ใน Enron สามผู้บริหาร Enron รวมถึงซีอีโอแอนดรู Fastow พบกับแมคลีนและบรรณาธิการฟอร์จูนเธอจะอธิบายทางการเงินของ บริษัท ฯ . Fastow สร้างเครือข่ายของ บริษัท เชลล์ที่ออกแบบมา แต่เพียงผู้เดียวในการทำธุรกิจกับ Enron สำหรับวัตถุประสงค์คู่ที่ชัดเจนในการส่งเงิน Enron และซ่อนที่เพิ่มขึ้นของ หนี้สิน อย่างไรก็ตาม Fastow มีสัดส่วนการลงทุนทางการเงินผลประโยชน์ในกิจการเหล่านี้ใช้พวกเขาที่จะฉ้อโกง Enron ของหลายสิบล้านดอลลาร์ Fastow ยังใช้ประโยชน์จากความโลภของกำแพงธนาคารเพื่อการลงทุนถนนกดดันพวกเขาเข้าไปลงทุนในกิจการที่เปลือกของเขาและในผลการดำเนินการข้อตกลงทางธุรกิจกับตัวเอง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ภาพยนตร์ที่เริ่มต้นด้วยโปรไฟล์ของเคนเนธ เลย์ ผู้ก่อตั้ง Enron ใน 1985 สองปีหลังจากการก่อตั้งของ บริษัท จะกลายเป็นพัวพันในเรื่องอื้อฉาวเมื่อสองผู้ค้าเริ่มต้นการพนันในตลาดน้ำมัน ทำให้ผลกำไรที่สม่ำเสมอมีพิรุธ รอน ( หลุยส์ borget , นอกจากนี้ยังค้นพบจะโอนเงินให้บริษัทบัญชีในต่างประเทศ หลังจากที่ผู้สอบบัญชีเปิดเผยแผนการของพวกเขาวางกระตุ้นให้ " ให้เราเป็นล้าน " อย่างไรก็ตาม ผู้ค้าถูกไล่ออกหลังจากที่มีการเปิดเผยว่าพวกเขา gambled ออกไปเอนฯ เกือบทำลายบริษัท หลังจาก ข้อเท็จจริงเหล่านี้นำแสง วาง ปฏิเสธว่าไม่ได้มีความรู้ของการกระทำผิด

วางว่าจ้างประธานเจฟฟรีย์ skilling ผู้มีวิสัยทัศน์ที่เข้าร่วมเอนบนเงื่อนไขที่ว่าพวกเขาใช้เครื่องหมายการตลาดบัญชีการอนุญาตให้บริษัทบันทึกกำไรที่อาจเกิดขึ้นในบางโครงการทันทีหลังจากสัญญาถูกเซ็น โดยไม่คำนึงถึงผลกำไรที่เกิดขึ้นจริงที่ตกลงจะสร้าง นี้จะช่วยให้ Enron ในจิตใจให้ลักษณะของการเป็น บริษัท ทำกำไร ถ้ามันไม่สกิลลิ่งประเด็นการตีความของเขาโลกทัศน์ของดาร์วินใน Enron โดยจัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบที่เกรดพนักงาน และร้อยละสิบห้าต่อปีไฟด้านล่าง นี้จะสร้างการแข่งขันสูง และสภาพแวดล้อมที่โหดร้าย ที่บังคับ

skilling จ้างทหารของเขาสั่งภายใน Enron , ที่รู้จักกันเป็น " ผู้ชายที่มีหนามแหลม พวกเขารวมถึงเจ คลิฟฟอร์ด แบ็กซ์เตอร์เป็นคนฉลาดแต่ manic เศร้าสลด ผู้บริหาร และ ลู ปาย , ซีอีโอของบริการพลังงาน Enron ที่ฉาวโฉ่สำหรับการใช้เงินผู้ถือหุ้นฟีดนิสัยส่วนตัวของเขาเยี่ยมชมคลับ ปาย เขาลาออกจาก EES กับ $ 250 ล้านบาท หลังจากขายหุ้นของเขา แม้จำนวนเงินที่ปายได้ทำ ส่วนเขาก่อนวิ่งหายไป $ 1 พันล้าน , ความจริงที่ครอบคลุมขึ้นโดยรอน .ปายใช้เงินของเขาที่จะซื้อฟาร์มขนาดใหญ่ในโคโลราโดกลายเป็นเจ้าของที่ดินที่ใหญ่เป็นอันดับสองในรัฐ

กับความสำเร็จในตลาดกระทิงนำโดยดอทคอมฟอง รอนพยายามจะล่อลวงนักวิเคราะห์ตลาดหุ้น โดยการประชุมแผนการของพวกเขา ผู้บริหารผลักดันราคาหุ้นของพวกเขา และเงินสดของพวกเขาหลายล้านดอลลาร์ ตัวเลือกรอนยังเมาท์แคมเปญประชาสัมพันธ์ที่จะวาดภาพตัวเองเป็นกำไร และมีเสถียรภาพ แม้ว่าการดำเนินงานทั่วโลกของการปฏิบัติงาน ที่อื่น รอนพยายามใช้เทคโนโลยีบรอดแบนด์เพื่อให้ภาพยนตร์เกี่ยวกับความต้องการและค้า " อากาศ " เป็นสินค้า ทั้งโครงการล้มเหลว อย่างไรก็ตาม การใช้เครื่องหมาย ตลาด บัญชี สำหรับกิจการเหล่านี้มีบันทึกกำไรรอน

ความสำเร็จของ Enron ต่อไปมันก็กลายเป็นหนึ่งในไม่กี่ บริษัท อินเทอร์เน็ตที่เกี่ยวข้องกับความอยู่รอดดอทคอมฟองระเบิดในปี 2000 และถูกตั้งชื่อเป็น " ชื่นชม " มากที่สุด บริษัท โดยนิตยสาร Fortune สำหรับ 6 ปี วิ่ง อย่างไรก็ตาม จิม chanos นักลงทุน Enron และหมู่บ้านเบธานี แม็กลีน โชคลาภ นักข่าวถามเกี่ยวกับความผิดปกติของงบการเงินของ บริษัท และมูลค่าหุ้นสกิลลิ่งตอบสนองโดยเรียกแมคลีน " จรรยาบรรณ " และกล่าวหาว่าโชคชะตาของการเผยแพร่รายงานเธอแก้ชิ้น BusinessWeek บวกกับรอน . สามรอน ผู้บริหาร รวมทั้ง fastow ) แอนดรูว์ พบกับ แม็คลีนและแก้ไขโชคชะตาให้เธออธิบายการเงินของ บริษัท ฯ

fastow สร้างเครือข่ายของเชลล์ บริษัท ออกแบบ แต่เพียงผู้เดียวที่จะทำธุรกิจกับ Enronสำหรับสองวัตถุประสงค์ที่เห็นได้ชัดของ Enron และส่งเงินซ่อนหนี้เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม fastow มีการเดิมพันการเงินผลประโยชน์ในกิจการเหล่านี้ การฉ้อโกงของ Enron หลายสิบล้านดอลลาร์ fastow ยังใช้ประโยชน์จากความโลภของธนาคารการลงทุนใน Wall Street , กดดันพวกเขาในการลงทุนในนิติบุคคลเปลือกและผล นำข้อตกลงทางธุรกิจกับตัวเอง