This research aims to study the rel

This research aims to study the relationship between air quality and open burning behavior of local people in Chiang Rai Province. In the analyzing process, concentrations of Particle Matter or PM10 levels data documented by Pollution Control Department and the results from a field survey in 2012 were used as key parts. In addition, hotspot data obtained from MODIS Satellite System was used to represent fire occurrence. Satellite images from Landsat 5 TM 2007 was also brought in to be compared with the satellite images of the year 2010, the most critical year, in order to discover burned areas. Statistics of monthly average of PM10 and average number of hotspot occurrences from January - April in 2008 – 2012 were employed to compare the relationship between them. As a consequence, their pattern relationship was found to have a relatively similar trend. Moreover, by using supervised classification, the satellite images showed that in 2007 and 2010 the burned areas in Chiang Rai were 4,340 km2 or 37.46% and 4,386 km2 or 37.86% of the total provincial area respectively. From the field survey, it was found that most of these areas were repeated burning sites, mainly located in the forest where agricultural burning was normally conducted. Therefore, changing land use to minimize open burning is most likely another possible option to solve the smoke haze problem in Chiang Rai.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างอากาศ และเปิดเขียนพฤติกรรมของคนในท้องถิ่นในจังหวัดเชียงราย ในการวิเคราะห์ ความเข้มข้นของอนุภาคสสารหรือ PM10 ระดับข้อมูลจัด โดยกรมควบคุมมลพิษและผลจากการสำรวจในปี 2012 ได้ใช้เป็นส่วนสำคัญ การเชื่อมโยงข้อมูลที่ได้จากระบบดาวเทียม MODIS ถูกใช้เพื่อแสดงเหตุการณ์ไฟไหม้ ยังดาวเทียมภาพจาก Landsat 5 TM 2007 ถูกนำในการเปรียบเทียบกับภาพดาวเทียมของปี 2553 ปีที่สำคัญที่สุด การค้นพบพื้นที่เขียน สถิติของค่าเฉลี่ยรายเดือนของ PM10 และจำนวนเฉลี่ยของการเกิดจุดจากเดือนมกราคม - 2008 เมษายน-2012 ถูกจ้างเพื่อเปรียบเทียบความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา ผล ความสัมพันธ์ของรูปแบบพบมีแนวโน้มที่ค่อนข้างคล้ายกัน ยิ่งไปกว่านั้น โดยมีประเภท ภาพดาวเทียมพบว่าในปี 2007 และ 2010 พื้นที่เขียนในเชียงรายได้ 4,340 km2 หรือ 37.46% และ 4,386 km2 หรือ 37.86% ของพื้นที่จังหวัดตามลำดับ จากการสำรวจ พบว่า พื้นที่เหล่านี้ส่วนใหญ่ถูกซ้ำเขียนเว็บไซต์ ส่วนใหญ่อยู่ในป่าที่เขียนเกษตรถูกปกติดำเนินการ ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดินเพื่อลดการเขียนเปิดมักจะเลือกอื่นสามารถแก้ปัญหาควันเมฆหมอกในจังหวัดเชียงราย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างคุณภาพอากาศและพฤติกรรมการเผาของคนในท้องถิ่นในจังหวัดเชียงราย ในขั้นตอนการวิเคราะห์ความเข้มข้นของอนุภาคสสารหรือ PM10 ข้อมูลระดับรับรองโดยกรมควบคุมมลพิษและผลที่ได้จากการสำรวจภาคสนามในปี 2012 ถูกนำมาใช้เป็นส่วนสำคัญ นอกจากนี้ข้อมูลที่ได้รับจากสปอต MODIS ระบบดาวเทียมถูกใช้ในการเป็นตัวแทนของการเกิดไฟไหม้ ภาพจากดาวเทียม Landsat 5 TM 2007 ก็ยังนำไปเปรียบเทียบกับภาพถ่ายจากดาวเทียมของปี 2010 ซึ่งเป็นปีที่สำคัญที่สุดในการที่จะค้นพบพื้นที่ที่ถูกเผา สถิติของค่าเฉลี่ยรายเดือนของ PM10 และค่าเฉลี่ยของจำนวนการเกิดสปอตจากมกราคม-เมษายนใน 2008-2012 ถูกว่าจ้างเพื่อเปรียบเทียบความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา เป็นผลให้ความสัมพันธ์รูปแบบของพวกเขาถูกพบว่ามีแนวโน้มที่คล้ายกันค่อนข้าง นอกจากนี้โดยใช้การจัดหมวดหมู่ภายใต้การดูแลภาพดาวเทียมแสดงให้เห็นว่าในปี 2007 และ 2010 ในพื้นที่ที่ถูกเผาในจังหวัดเชียงรายเป็น 4,340 กิโลเมตร 2 หรือ 37.46% และ 4,386 กิโลเมตร 2 หรือ 37.86% ของพื้นที่จังหวัดรวมตามลำดับ จากการสำรวจข้อมูลพบว่าส่วนใหญ่ของพื้นที่เหล่านี้ถูกทำซ้ำเว็บไซต์การเผาไหม้ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในป่าที่เผาไหม้การเกษตรได้ดำเนินการตามปกติ ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อลดการเผาไหม้ที่เปิดเป็นส่วนใหญ่มักเลือกที่เป็นไปได้อีกครั้งเพื่อแก้ปัญหาหมอกควันควันในจังหวัดเชียงราย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างคุณภาพอากาศและพฤติกรรมการเผาไหม้เปิดของประชาชนท้องถิ่นในจังหวัด เชียงราย ในการวิเคราะห์กระบวนการ ความเข้มข้นของอนุภาค PM10 ระดับเอกสารหรือข้อมูลสำคัญ โดยกรมควบคุมมลพิษ และผลจากการสำรวจในปี 2012 ที่ถูกใช้เป็นส่วนประกอบที่สำคัญ นอกจากนี้ข้อมูลที่ได้จากดาวเทียมโมดิส hotspot ระบบถูกใช้เป็นตัวแทนของการเกิดไฟ ภาพถ่ายดาวเทียมจากดาวเทียม 5 TM 2007 ยังนำไปเปรียบเทียบกับภาพดาวเทียมของปี 2010 , ปี ที่สำคัญที่สุด ในการค้นพบที่เผาพื้นที่สถิติเฉลี่ยรายเดือนของ PM10 เฉลี่ยจำนวน hotspot เกิดขึ้นตั้งแต่เดือนมกราคม - เมษายน 2551 – 2555 นำมาเปรียบเทียบความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา อย่างไรก็ดี ความสัมพันธ์ของพวกเขาก็พบว่ามีแนวโน้มที่คล้ายกันค่อนข้าง นอกจากนี้ การดูแลข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียม พบว่า ในปี 2007 และ 2010 เผาในพื้นที่เชียงรายจำนวน 4340 ตารางกิโลเมตร หรือร้อยละ 37.46 ตารางกิโลเมตร หรือ เรื่อง ตายโหง 37.86 % ของพื้นที่จังหวัดทั้งหมด ตามลำดับ จากการสำรวจภาคสนามพบว่า ส่วนใหญ่ของพื้นที่เหล่านี้เป็นเว็บไซต์ที่เขียนซ้ำ ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในป่าที่ไหม้การเกษตรเป็นปกติในการ ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อลดการเผาในที่โล่ง น่าจะเป็นอีกตัวเลือกที่เป็นไปได้ที่จะแก้ควันปัญหาหมอกควันในเชียงราย