Polypropylene films were treated wi

Polypropylene films were treated with corona and a primer based on polyethyleneimine was applied to improve adherence. EVOH coating was applied on the PP films, keeping an area uncoated to maintain sealability for the manufacture of the salad bags. Specifically, of the 1140 cm2 of film that was used to manufacture a bag, only 750 cm2 of surface was coated. Control films were obtained without active agents (CONTROL). Thicknesses of the films were measured at 10 points of samples. The thickness of the coating was calculated from the difference in thickness between coated and uncoated areas.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ฟิล์มโพรพิลีนได้รับการรักษากับโคโรน่า และใช้รองพื้นอิง polyethyleneimine เพื่อปรับปรุงการยึดมั่น มีใช้ EVOH เคลือบบนฟิล์ม PP รักษาพื้นที่เคลือบผิวเพื่อรักษา sealability สำหรับการผลิตของถุงสลัด เฉพาะ ของ cm2 1140 ของฟิล์มที่ใช้ในการผลิตเป็นกระเป๋า cm2 เพียง 750 ผิวถูกเคลือบ ควบคุมภาพยนตร์ได้รับ โดยไม่มีตัวแทนที่ใช้งานอยู่ (ตัวควบคุม) ความหนาของฟิล์มถูกวัดที่ 10 จุดตัวอย่าง ความหนาของการเคลือบที่คำนวณจากส่วนต่างของความหนาเคลือบ และไม่เคลือบพื้นที่

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ฟิล์มโพรพิลีนได้รับการรักษาด้วยโคโรนาและไพรเมอร์ขึ้นอยู่กับ polyethyleneimine ถูกนำมาใช้ในการปรับปรุงการยึดมั่น เคลือบ EVOH ถูกนำมาใช้ในภาพยนตร์ PP, การรักษาพื้นที่สารเคลือบเพื่อรักษา sealability สำหรับการผลิตถุงสลัด โดยเฉพาะของ 1,140 cm2 ของฟิล์มที่ใช้ในการผลิตกระเป๋าเพียง 750 cm2 ของพื้นผิวเคลือบ ภาพยนตร์ควบคุมที่ได้รับโดยไม่ต้องตัวแทนที่ใช้งาน (Control) ความหนาของภาพยนตร์ถูกวัดที่ 10 จุดของกลุ่มตัวอย่าง ความหนาของสารเคลือบผิวที่คำนวณได้จากความแตกต่างในความหนาระหว่างพื้นที่เคลือบและไม่เคลือบผิว

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ฟิล์มพอลิโพรพิลีนที่ได้รับการรักษาด้วย Corona และไพรเมอร์จากโพลีเอทธิลีนไอมีนถูกนำมาใช้เพื่อปรับปรุงการยึดมั่น evoh เคลือบถูกใช้ใน PP ภาพยนตร์ รักษาพื้นที่เคลือบผิวเพื่อรักษา sealability สําหรับผลิตสลัดถุง โดยเฉพาะ ของ 140 cm2 ของฟิล์มที่ใช้ในการผลิตถุง เพียง 750 cm2 ของพื้นผิวที่ถูกเคลือบ ภาพยนตร์ที่ควบคุมได้โดยไม่ต้องใช้ตัวแทน ( ควบคุม ) ความหนาของฟิล์มชนิดของตัวอย่าง 10 คะแนน ความหนาของสารเคลือบผิวคำนวณได้จากความแตกต่างในความหนาระหว่างพื้นที่ที่เคลือบผิวและไม่ได้เคลือบ