IntroductionFormer U.S. Surgeon Gen

Introduction
Former U.S. Surgeon General William H. Stewart said in 1978, “Calling noise a nuisance is like calling smog an inconve- nience. Noise must be considered a haz- ard to the health of people everywhere.”
A number of studies have shown that high noise levels can contribute to sig- nificant cardiovascular effects and even exposure to moderately high noise levels during a single eight-hour period can a statistical rise in blood pressure of five to ten points and an increase in stress[1-4); Vasoconstriction or narrowing of the arteries, and increased incidence of coronary artery disease. In addition, chronic exposure to noise may cause noise-induced hearing loss.
The degree of annoyance from noise produced by multiple sources is not fully understood but has been identified as a problem in environments operating equipment with varied noise levels and frequencies. There is evidence that com- bined sources of noise pollution lead to an increased level of stress and aggrava- tion which can have a negative impact on efficiency, health and quality of work.
Noise levels are typically expressed in decibels (dBA), which is a logarithmic ratio of the observed level compared to a standard. Table 1 includes the decibel level of a few common activities to pro- vide the reader with an understanding of the intensity of typical noise levels.
In the workplace, noise pollution is generally considered to be an issue once the noise level is greater than 55 dBA. Approximately 35 to 40% of workers in office settings find noise levels from 55 to 60 dB (A) to be irritating. To provide a healthy, safe and stress free environ- ment, the laboratory manager should ensure that the noise level should be kept at a suitably low level. While the overall noise level in a laboratory comes from a variety of sources, an important approach for minimizing laboratory noise is the selection of instrumentation and ancil- lary equipment which are designed to minimize the noise generated and meet regulatory guidelines. Two instruments operating at 52 dB produces a noise level of 58 dB; adding a third instrument operating at 58 dB yields a noise level of 62.5 dB.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แนะนำอดีตสหรัฐฯ ศัลยแพทย์ทั่วไป William H. สจ๊วตกล่าวว่า ในปี 1978 "เรียกเสียงรบกวนอยู่เช่นเรียกหมอกควัน inconve-nience เสียงต้องถือว่าสวาปาม haz สุขภาพของทุกคน" จำนวนของการศึกษาได้แสดงให้เห็นว่า ระดับเสียงสูงสามารถนำไปสู่ผลกระทบหัวใจและหลอดเลือด sig nificant และแม้สัมผัสระดับเสียงค่อนข้างสูงในช่วงระยะเวลา 8 ชั่วโมงเดียวสามารถขึ้นสถิติความดันเลือด 5-10 คะแนนและการเพิ่มขึ้นใน stress[1-4) Vasoconstriction หรือจำกัดให้แคบลงของหลอดเลือดแดง และเพิ่มอุบัติการณ์ของโรคหลอดเลือดหัวใจ นอกจากนี้ เสียงสัมผัสเรื้อรังอาจทำให้สูญเสียการได้ยินเกิดเสียงรบกวนระดับของความรำคาญจากเสียงที่ผลิตจากหลายแหล่งคือไม่เข้าใจทั้งหมด แต่ได้ระบุว่าเป็นปัญหาในสภาพแวดล้อมในการทำอุปกรณ์ความถี่และระดับเสียงแตกต่างกัน มีหลักฐานว่า com-bined แหล่งที่มาของมลภาวะทางเสียงทำให้ระดับการเพิ่มขึ้นของความเครียดและ aggrava-สเตรชันซึ่งสามารถมีผลกระทบเชิงลบเกี่ยวกับประสิทธิภาพ สุขภาพ และคุณภาพของงานโดยปกติแล้วจะแสดงระดับเสียงใน decibels (dBA), ซึ่งเป็นอัตราส่วนลอการิทึมของระดับการสังเกตเปรียบเทียบกับมาตรฐาน ตารางที่ 1 มีกิจกรรมทั่วไปกี่โปรระดับเดซิเบล-vide อ่าน ด้วยความเข้าใจของความเข้มของระดับเสียงโดยทั่วไปโดยทั่วไปถือเป็นมลภาวะทางเสียงในสถานทำงาน เป็น ประเด็นเมื่อระดับเสียงมากกว่า 55 dBA ประมาณ 35-40% ของแรงงานในการติดตั้ง office หาระดับเสียงจาก 55 60 dB (A) จะเคือง ปลอดภัย สุขภาพ และความเครียดฟรี environ-ติดขัด ผู้จัดการห้องปฏิบัติควรตรวจสอบว่า ระดับเสียงควรเก็บไว้ในระดับต่ำสุดที่เหมาะสม ในขณะที่ระดับเสียงโดยรวมในห้องปฏิบัติมาจากแหล่งต่าง ๆ วิธีการสำคัญสำหรับการลดเสียงรบกวนของห้องปฏิบัติเป็นการเลือกใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ ancil lary ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อลดเสียงรบกวนสร้างขึ้น และตอบสนองแนวทางการกำกับดูแล ปฏิบัติที่ 52 dB มือสองก่อให้เกิดระดับเสียง 58 dB เพิ่มเครื่องมือที่สามทำที่ 58 dB ทำให้ระดับเสียง 62.5 dB

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทนำอดีตศัลยแพทย์ทั่วไปวิลเลียมเอชสจ๊วตกล่าวว่าในปี 1978 "เรียกเสียงรำคาญเป็นเหมือนหมอกควันเรียก nience inconve-
เสียงรบกวนจะต้องได้รับการพิจารณาอาด haz- ต่อสุขภาพของทุกคน.
"จากการศึกษาได้แสดงให้เห็นว่าระดับเสียงสูงสามารถนำไปสู่ผลกระทบลายเซ็นnificant หัวใจและหลอดเลือดและการสัมผัสแม้กระทั่งระดับเสียงสูงปานกลางในช่วงระยะเวลาแปดชั่วโมงเดียวสามารถ สถิติการเพิ่มขึ้นของความดันโลหิตของ 5-10 คะแนนและการเพิ่มขึ้นของความเครียด [1-4); vasoconstriction หรือตีบของหลอดเลือดแดงและอุบัติการณ์ที่เพิ่มขึ้นของโรคหลอดเลือดหัวใจ นอกจากนี้ยังมีการเปิดรับเรื้อรังเสียงอาจทำให้เกิดการสูญเสียการได้ยินเสียงที่เกิดขึ้น.
ระดับของความน่ารำคาญจากเสียงที่ผลิตโดยหลายแหล่งยังไม่เข้าใจ แต่ได้รับการระบุว่าเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในสภาพแวดล้อมการดำเนินงานอุปกรณ์ที่มีระดับเสียงที่แตกต่างกันและความถี่ มีหลักฐานว่ามีแหล่งที่มาสั่งแบบผสมตะกั่วมลพิษทางเสียงให้อยู่ในระดับที่เพิ่มขึ้นของความเครียดและการ aggrava- ซึ่งจะมีผลกระทบต่อประสิทธิภาพสุขภาพและคุณภาพของงาน.
ระดับเสียงรบกวนจะแสดงโดยทั่วไปในเดซิเบล (dBA) ซึ่งเป็น อัตราส่วนลอการิทึมระดับที่สังเกตเมื่อเทียบกับมาตรฐาน ตารางที่ 1 รวมถึงระดับเดซิเบลของกิจกรรมร่วมกันไม่กี่ที่จะโปรวิเดผู้อ่านที่มีความเข้าใจในความรุนแรงของระดับเสียงปกติที่.
ในสถานที่ทำงาน, มลพิษทางเสียงโดยทั่วไปถือว่าเป็นปัญหาหนึ่งครั้งระดับเสียงมากกว่า 55 dBA . ประมาณ 35-40% ของคนงานในการตั้งสำนักงานพบว่าระดับเสียง 55-60 dB (A) เพื่อเกิดการระคายเคือง เพื่อให้มีสุขภาพที่ปลอดภัยและสภาพแวดล้อมความเครียดฟรีผู้จัดการห้องปฏิบัติการควรให้แน่ใจว่าระดับเสียงที่ควรจะเก็บไว้ในระดับต่ำที่เหมาะสม ในขณะที่ระดับเสียงรบกวนในห้องปฏิบัติการโดยรวมมาจากความหลากหลายของแหล่งที่มาวิธีการที่สำคัญสำหรับการลดเสียงรบกวนในห้องปฏิบัติการคือการเลือกเครื่องมือและอุปกรณ์ Lary ancil- ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อลดเสียงรบกวนที่เกิดขึ้นและเป็นไปตามหลักเกณฑ์การกำกับดูแล เครื่องมือสองการดำเนินงานที่ 52 เดซิเบลเป็นผู้ผลิตระดับเสียง 58 เดซิเบลของหนึ่ง เพิ่มเครื่องมือที่สามการดำเนินงานที่มีอัตราผลตอบแทน 58 เดซิเบลเสียงระดับ 62.5 เดซิเบ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บทนำ
อดีตศัลยแพทย์สหรัฐอเมริกานายพลวิลเลียม เอช. Stewart กล่าวว่าในปี 1978 " เรียกเสียงน่ารำคาญเหมือนหมอกควันที่เรียก inconve - nience . เสียงต้องพิจารณา Haz - รพช. เพื่อสุขภาพของทุกคน "
.จำนวนของการศึกษาได้แสดงให้เห็นว่าระดับเสียงสูงสามารถมีส่วนร่วมกับ Sig - nificant cardiovascular ผลและแม้กระทั่งแสงระดับเสียงสูงปานกลางในช่วงระยะเวลาเดียว แปดชั่วโมง สามารถเพิ่มสถิติในความดันโลหิตของห้าถึงสิบคะแนน และการเพิ่มขึ้นของความเครียด [ 1-4 ) ; ผิวหนังแห้งหรือตีบของหลอดเลือด และเพิ่มอุบัติการณ์ของ โรคหลอดเลือดหัวใจ นอกจากนี้เรื้อรังแสงเสียงอาจทำให้เกิดการสูญเสียการได้ยินเนื่องจากเสียงดัง .
ระดับความรำคาญจากเสียงที่ผลิตโดยหลายแหล่งจะไม่เข้าใจอย่างเต็มที่ แต่ถูกระบุว่าเป็นปัญหาในสภาพแวดล้อมที่ใช้อุปกรณ์ที่มีระดับเสียงที่แตกต่างกันและความถี่มีหลักฐานว่า bined ดอทคอม - แหล่งมลพิษเสียงนำไปสู่ระดับที่เพิ่มขึ้นของความเครียดและ aggrava - tion ซึ่งสามารถมีผลกระทบต่อประสิทธิภาพ สุขภาพ และคุณภาพของงาน .
เสียงระดับมักจะแสดงออกในเดซิเบล ( DBA ) ซึ่งเป็นลอการิทึมของอัตราส่วนจากระดับเมื่อเทียบกับมาตรฐานตารางที่ 1 รวมถึงเดซิเบลระดับไม่กี่ทั่วไปกิจกรรม Pro - Vide ผู้อ่านมีความเข้าใจเกี่ยวกับความเข้มของระดับเสียงทั่วไป .
ในสถานที่ทำงาน มลภาวะทางเสียง โดยทั่วไปถือว่าเป็นปัญหาเมื่อระดับเสียงมากกว่า 55 dBA . ประมาณ 35 ถึง 40 % ของพนักงานในสำนักงาน ค้นหาการตั้งค่าระดับเสียงจาก 55 เป็น 60 dB ( A ) จะน่ารำคาญเพื่อให้สุขภาพแข็งแรง ปลอดภัย และความเครียดฟรี environ ment , ผู้จัดการห้องปฏิบัติการควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าระดับเสียงที่ควรจะเก็บไว้ในระดับพอเหมาะ ในขณะที่ระดับเสียงโดยรวมในห้องปฏิบัติการที่มาจากความหลากหลายของแหล่งที่มาแนวทางที่สำคัญสำหรับการลดเสียงรบกวนในห้องปฏิบัติการคือการเลือกเครื่องมือวัด และอุปกรณ์ ancil - แลรี่ ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อลดเสียงที่เกิดขึ้นตามแนวทางและกฎระเบียบ เครื่องมือผ่าตัดที่ 52 เดซิเบล ก่อให้เกิดเสียงรบกวนระดับ 58 เดซิเบล เพิ่มสามเครื่องมือผ่าตัดที่ 58 เดซิเบล เพิ่มระดับเสียง 62.5 dB .