EBVma is expressed as deviation fro

EBVma is expressed as deviation from the population mean (population mean is a number between 0 and 100). From a study carried out by Knol et al. (2002), it was concluded that the sow's EBVma, rather than her piglets’ genetic merit for vitality, is related to the litter average time interval between piglet expulsion and first colostrum intake. A short interval is essential for survival of piglets. Piglets born from a group of sows with a high EBVma had a shorter mean interval from birth until first colostrum intake than piglets born from sows with lower EBVma (±40 min versus ±100 min). The difference in EBVma between both groups of sows was 9.18% (minimum: −4.92%, maximum: +4.26; overall mean = 0.79). Knol et al. (2002) also showed that the difference in interval from birth until first colostrum intake between sows with different EBVma is not related to differences in udder and teat morphology. Possibly, differences in maternal behaviour during parturition between sows with different EBVma may explain the difference in length of this interval (Fig. 1).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

EBVma แสดงเป็นความเบี่ยงเบนจากค่าเฉลี่ยของประชากร (ค่าเฉลี่ยประชากรเป็นจำนวนระหว่าง 0 ถึง 100) จากการศึกษาที่ดำเนินการโดย Knol et al. (2002), มันถูกสรุปว่า EBVma ของเสา มากกว่าบุญทางพันธุกรรมของทรูดของเธอสำหรับพลัง เกี่ยวข้องกับการขับไล่ลูกสุกรและบริโภค colostrum แรกช่วงครอกเวลาเฉลี่ย ช่วงสั้น ๆ เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับความอยู่รอดของทรูด เกิดจากกลุ่มของลักษณะที่ มี EBVma สูงทรูดมีหมายถึงช่วงเวลาสั้นตั้งแต่แรกเกิดจนถึงบริโภค colostrum แรกกว่าทรูดที่เกิดจากลักษณะที่ มี EBVma ต่ำ (เมื่อเทียบกับนาทีบวกหมูระดับ± 40 นาที) EBVma ความแตกต่างระหว่างกลุ่มของลักษณะเป็น 9.18% (ขั้นต่ำ: −4.92% สูงสุด: +4.26 ความหมายโดยรวม = 0.79) Knol et al. (2002) ยังแสดงให้เห็นว่าความแตกต่างในช่วงแรกเกิดจนแรก colostrum บริโภคระหว่างลักษณะกับ EBVma แตกต่างกันไม่เกี่ยวข้องกับความแตกต่างของเต้านมและจุกนมต่างกัน อาจจะ ความแตกต่างในพฤติกรรมมารดาในระหว่าง parturition ระหว่างลักษณะกับ EBVma แตกต่างกันอาจอธิบายความแตกต่างของความยาวของช่วงเวลานี้ (รูปที่ 1)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

EBVma จะแสดงเป็นการเบี่ยงเบนจากค่าเฉลี่ยประชากร (ประชากรหมายถึงเป็นตัวเลขระหว่าง 0 และ 100) จากการศึกษาที่ดำเนินการโดย Knol et al, (2002) มันก็สรุปว่าสุกรที่ EBVma มากกว่าบุญพันธุกรรมลูกสุกรของเธอสำหรับพลังมีความเกี่ยวข้องกับช่วงเวลาครอกเฉลี่ยระหว่างการขับไล่ลูกสุกรและการบริโภคนมน้ำเหลืองแรก ช่วงเวลาที่สั้นเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการอยู่รอดของลูกสุกร ลูกสุกรเกิดจากกลุ่มของแม่สุกรที่มี EBVma สูงมีช่วงเวลาที่สั้นกว่าค่าเฉลี่ยตั้งแต่แรกเกิดจนถึงการบริโภคนมน้ำเหลืองแรกกว่าลูกสุกรเกิดจากแม่สุกรต่ำ EBVma (± 40 นาทีเมื่อเทียบกับ± 100 นาที) ความแตกต่างใน EBVma ระหว่างทั้งสองกลุ่มของแม่สุกรเป็น 9.18% (ขั้นต่ำ: -4.92% สูงสุด: 4.26; โดยรวมเฉลี่ย = 0.79) Knol et al, (2002) นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นว่าแตกต่างในช่วงเวลาตั้งแต่แรกเกิดจนถึงการบริโภคนมน้ำเหลืองครั้งแรกระหว่างแม่สุกรที่มี EBVma ที่แตกต่างกันไม่ได้เกี่ยวข้องกับความแตกต่างในเต้านมและจุกนมสัณฐาน อาจจะเป็นความแตกต่างในพฤติกรรมของมารดาในระหว่างการคลอดแม่สุกรที่มี EBVma แตกต่างกันอาจอธิบายความแตกต่างในความยาวของช่วงนี้ (รูปที่ 1).

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ebvma แสดงเป็นเบี่ยงเบนจากค่าเฉลี่ยประชากร ( หมายถึงประชากรที่เป็นตัวเลขระหว่าง 0 และ 100 ) จากการศึกษาดำเนินการโดยแคน et al . ( 2002 ) พบว่า หมู ebvma มากกว่าตัวเธอ " พันธุกรรมบุญให้พลังที่เกี่ยวข้องกับขยะเฉลี่ยช่วงเวลาระหว่างการไล่ออกลูกบริโภคน้ำนมแรก ช่วงเวลาสั้น ๆเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อความอยู่รอดของลูกสุกร . ลูกสุกรที่เกิดจากกลุ่มของสุกรด้วย ebvma สูงมีสั้นหมายถึงช่วงตั้งแต่เกิดจนถึงก่อนการบริโภคสุกรที่เกิดจากน้ำเหลืองมากกว่าแม่สุกรที่มี ebvma ล่าง ( ± 40 นาทีเมื่อเทียบกับ± 100 นาที ) ความแตกต่างระหว่างทั้งสองกลุ่มของสุกรที่ถูก ebvma 9.18 % ( ขั้นต่ำ : − 4.92 % สูงสุด : + 4.26 ; โดยรวมค่าเฉลี่ย = 0.79 ) แคน et al . ( 2002 ) นอกจากนี้ยังพบว่า ความแตกต่างในช่วงตั้งแต่แรกเกิดจนถึงก่อนบริโภค colostrum ระหว่างสุกรที่มี ebvma ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความแตกต่างในสัณฐาน เต้า นม . อาจจะเป็นความแตกต่างในพฤติกรรมของมารดาในระหว่างการตั้งครรภ์ระหว่างสุกรที่มี ebvma อาจอธิบายถึงความแตกต่างในความยาวของช่วงเวลานี้ ( รูปที่ 1 )