1. IntroductionCarbon has been know

1. IntroductionCarbon has been known as an important element for century. In our atmosphere, one carbon atomattached to two oxygen atoms in a gas called carbon dioxide. Carbon can be represented in many forms.The most well-known forms of carbon include diamond, graphite, and charcoal [1].In the past decade, carbon nanotube, graphite, and graphene have shown a profound effect on various applications due totheir unique properties, including mechanical, optical, and electrical characteristics [2]. In this report,graphite and graphene were studied. Graphene was claimed to be the thinnest 2D material, whosestructure is about one-atom thick of sp2-bonded carbon atoms packing in a honeycomb structure [3].Graphite flake normally consists of several graphene sheets stacked together. Both graphite and graphenehave been investigated for various applications, such as composite material [4], conductive ink [5],electrode [6], coating [7] etc. However, most of the graphite-graphene–based reports are focusing on theirapplication relied on nano-microscale characteristics, but few of them reported on their behavior onmacroscopic behavior. One of an important phenomenon is to study effect of electrical conductivity onbulk graphite under different compression pressures. Sánchez-González et al. reported that theconductivity of carbon black increases when increasing a compression pressure [2]. In general, increasingthe compression pressure mechanically reduces the gaps between carbon particles, directly enhancing theelectrical contact. The information may be related to the contact theory from Mrozowski and Holm [8, 9]proposing that the electrical conductivity of a carbon black depends on the separation distance betweeneach particle [10] and the average size [11].In this work, effect of the volume density of the compressed graphite on its electrical conductivitywas investigated. The compressed graphite was obtained from natural graphite powder of two differentconditions: with and without ultrasonic treatment. The conductivity of the samples was measured by twoprobe technique. Effect of the sample temperature on its conductivity was also reported as thetemperature could affect the bulk density and its electrical conductivity. The optical property of thegraphite suspension was characterized using UV-Vis spectroscopy. Morphology of the graphite wasinvestigated by scanning electron microscopy (SEM).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

1. บทนำ
คาร์บอนได้เป็นที่รู้จักในฐานะที่เป็นองค์ประกอบที่สำคัญสำหรับศตวรรษที่ ในบรรยากาศของเราหนึ่งอะตอมของคาร์บอน
ที่แนบมากับสองอะตอมออกซิเจนในก๊าซเรียกว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ คาร์บอนสามารถแสดงในหลายรูปแบบ
รูปแบบส่วนใหญ่ที่รู้จักกันดีของคาร์บอน ได้แก่ เพชร, กราไฟท์และถ่าน [1] ซึ่งในอดีตที่ผ่านมาทศวรรษท่อนาโนคาร์บอน, กราไฟท์และกราฟีนได้แสดงให้เห็นผลอย่างยิ่งในการใช้งานต่างๆเนื่องจาก
คุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์ของพวกเขารวมทั้งกลแสง และลักษณะไฟฟ้า [2] ในรายงานฉบับนี้
กราไฟท์และ graphene ศึกษา แกรฟีนที่ถูกอ้างว่าเป็นวัสดุ 2D บางที่สุดซึ่งมี
โครงสร้างเป็นเรื่องเกี่ยวกับหนึ่งอะตอมหนา sp2
-bonded อะตอมคาร์บอนบรรจุในโครงสร้างรังผึ้ง [3]
เกล็ดกราไฟท์จะประกอบด้วยแผ่นกราฟีนหลายเรียงซ้อนกัน ทั้งสองไฟท์และกราฟีน
ได้รับการตรวจสอบสำหรับการใช้งานต่างๆเช่นวัสดุคอมโพสิต [4] หมึกนำไฟฟ้า [5],
อิเล็กโทรด [6] เคลือบ [7] ฯลฯ แต่ส่วนใหญ่ของรายงานไฟท์ graphene-based จะมุ่งเน้นไปที่ ของพวกเขา
แอปพลิเคอาศัยในลักษณะนาโนไมโคร แต่กี่ของพวกเขารายงานเกี่ยวกับพฤติกรรมของพวกเขาเกี่ยวกับ
พฤติกรรมเปล่า หนึ่งในปรากฏการณ์ที่สำคัญคือการมีผลการศึกษาของการนำไฟฟ้าใน
ไฟท์กลุ่มภายใต้แรงกดดันบีบอัดที่แตกต่างกัน Sánchezอนซาเลซ, et al รายงานว่า
การนำของคาร์บอนเพิ่มขึ้นเป็นสีดำเมื่อเพิ่มความดันบีบอัด [2] โดยทั่วไปเพิ่มขึ้น
ความดันอัดกลไกช่วยลดช่องว่างระหว่างอนุภาคคาร์บอนโดยตรงการเสริมสร้าง
การติดต่อไฟฟ้า ข้อมูลที่อาจจะเกี่ยวข้องกับทฤษฎีการติดต่อจาก Mrozowski และโฮล์ม [8, 9]
เสนอว่าการนำไฟฟ้าของคาร์บอนสีดำขึ้นอยู่กับระยะห่างระหว่าง
อนุภาคแต่ละ [10] และขนาดเฉลี่ย [11]
ในงานนี้ผลของความหนาแน่นของปริมาณของกราไฟท์บีบอัดในการนำไฟฟ้าของมัน
ได้รับการตรวจสอบ กราไฟท์บีบอัดที่ได้รับจากผงไฟท์ธรรมชาติของทั้งสองแตกต่างกัน
เงื่อนไขที่มีและไม่มีการรักษาอัลตราโซนิก การนำของกลุ่มตัวอย่างโดยวัดจากสอง
เทคนิคการสอบสวน ผลของอุณหภูมิตัวอย่างในการนำไฟฟ้านอกจากนี้ยังมีรายงานว่าเป็น
อุณหภูมิอาจมีผลต่อความหนาแน่นและมีค่าการนำไฟฟ้า สถานที่ให้บริการแสงของ
การระงับไฟท์ก็มีลักษณะการใช้ UV-Vis สเปกโทรสโก ทางสัณฐานวิทยาของกราไฟท์ได้รับการ
ตรวจสอบโดยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน (SEM)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

1. แนะนำ
คาร์บอนได้รับการรู้จักเป็นองค์ประกอบสำคัญสำหรับศตวรรษ. ในบรรยากาศของเราอะตอมคาร์บอนหนึ่ง
ติดอยู่กับอะตอมออกซิเจนสองตัวในก๊าซที่เรียกว่าคาร์บอนไดออกไซด์ คาร์บอนสามารถแสดงในหลายรูปแบบ
รูปแบบที่รู้จักกันดีที่สุดของคาร์บอนได้แก่เพชรแกรไฟต์และถ่าน [1] ในทศวรรษที่ผ่านมา, คาร์บอน nanotube, แกรไฟต์, และ graphene ได้แสดงผลอย่างลึกซึ้งในการใช้งานต่างๆเนื่องจาก
คุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์ของพวกเขารวมถึงเครื่องกล, แสง, และลักษณะทางไฟฟ้า [2] ในรายงานนี้
กราไฟท์และ graphene ได้รับการศึกษา แกรฟีนอ้างว่าเป็นวัสดุ2D ที่บางที่บางซึ่งมี
โครงสร้างเป็นเรื่องเกี่ยวกับหนึ่งอะตอมหนาของ sp2
-ยึดอะตอมคาร์บอนบรรจุในโครงสร้างรังผึ้ง [3]
เกล็ดแกรไฟต์ปกติประกอบด้วยแผ่น graphene หลายซ้อนกัน. ทั้งแกรไฟต์และ graphene
ได้รับการตรวจสอบสำหรับการใช้งานต่างๆเช่นวัสดุคอมโพสิต [4] หมึกนำไฟฟ้า [5],
[6] การเคลือบ [7] เป็นต้น อย่างไรก็ตาม, ส่วนใหญ่ของการรายงานกราไฟท์-กราฟีนจะมุ่งเน้นไปที่
แอพลิเคชันที่อาศัยอยู่ในลักษณะนาโน microscale แต่ไม่กี่ของพวกเขารายงานเกี่ยวกับพฤติกรรมของพวกเขาบน
พฤติกรรม หนึ่งในปรากฏการณ์ที่สำคัญคือการศึกษาผลของการนำไฟฟ้าใน
แกรไฟต์จำนวนมากภายใต้แรงกดดันการบีบอัดที่แตกต่างกัน การแจ้งให้เรารายงานว่า
การนำไฟฟ้าของคาร์บอนสีดำเพิ่มขึ้นเมื่อเพิ่มแรงดันการบีบอัด [2] โดยทั่วไปเพิ่ม
ความดันการบีบอัดจะช่วยลดช่องว่างระหว่างอนุภาคคาร์บอนโดยตรง
การติดต่อทางไฟฟ้า ข้อมูลอาจเกี่ยวข้องกับทฤษฎีการติดต่อจาก Mrozowski และ Holm [8, 9]
เสนอว่าการนำไฟฟ้าของคาร์บอนสีดำขึ้นอยู่กับระยะการแยกระหว่าง
แต่ละอนุภาค [10] และขนาดโดยเฉลี่ย [11]
ในงานนี้ผลของความหนาแน่นของปริมาณของกราไฟท์บีบอัดในการนำไฟฟ้า
ถูกสอบสวน แกรไฟต์ที่บีบอัดได้รับจากผงแกรไฟต์ธรรมชาติของสองที่แตกต่างกัน
เงื่อนไข: มีและไม่มีการรักษาอัลตราโซนิก การนำตัวอย่างที่ถูกวัดโดยสอง
เทคนิคการสอบสวน ผลของอุณหภูมิตัวอย่างในการนำไฟฟ้ายังถูกรายงานเป็น
อุณหภูมิอาจมีผลต่อความหนาแน่นจำนวนมากและการนำไฟฟ้า คุณสมบัติของแสงของ
การระงับแกรไฟต์เป็นลักษณะการใช้สเปกวี Vis สัณฐานวิทยาของแกรไฟต์เป็น
ตรวจสอบโดยการสแกนอิเล็กตรอนกล้องจุลทรรศน์ (SEM)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หนึ่ง แนะนำให้รู้จัก
คาร์บอนได้รับการยอมรับว่าเป็นศตวรรษขององค์ประกอบที่สำคัญ อะตอมของคาร์บอนในชั้นบรรยากาศของเรา
แนบกับสองอะตอมของออกซิเจนในก๊าซที่เรียกว่าคาร์บอนไดออกไซด์ คาร์บอนสามารถแสดงในหลายรูปแบบ
รูปแบบที่รู้จักกันดีที่สุดของคาร์บอนได้แก่เพชรแกรไฟต์และถ่าน
คุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์ของพวกเขารวมถึงเครื่องจักรกลแสงและคุณสมบัติทางไฟฟ้า ในรายงานนี้
แกรไฟต์และกราฟีนที่ศึกษา กราฟีนถือเป็นวัสดุสองมิติที่บางที่สุด
โครงสร้างประมาณความหนาของอะตอม SP2
มันเป็นเรื่องจริงที่ผึ้งผูกพันอะตอมคาร์บอนในโครงสร้าง
กราไฟท์แผ่นมักจะประกอบด้วยหลายแผ่นกราไฟท์ซ้อนกัน กราไฟต์และแกรไฟต์
การประยุกต์ใช้ต่างๆเช่นวัสดุคอมโพสิตเช่นยา 9393 และนำหมึกพิมพ์ได้รับการศึกษา
ส่วนใหญ่ของรายงานบนพื้นฐานของกราฟีนที่มุ่งเน้น
การประยุกต์ใช้ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของนาโนสเกลเล็กแต่น้อยรายงานพฤติกรรมของ
พฤติกรรมมหภาค ปรากฏการณ์ที่สำคัญคือการศึกษาค่าการนำไฟฟ้า
บล็อกขนาดใหญ่ของแกรไฟต์ภายใต้ความกดดันที่แตกต่างกัน ซานเชสกอนซาเลซและคนอื่นๆ รายงานตัว
การนำไฟฟ้าของคาร์บอนสีดำเพิ่มขึ้นตามการเพิ่มขึ้นของความดันการบีบอัด โดยรวมแล้ว
ความดันลดช่องว่างระหว่างอนุภาคคาร์บอนและเพิ่มโดยตรง
ติดต่อไฟฟ้า ข้อมูลนี้อาจจะเกี่ยวข้องกับทฤษฎีการติดต่อจาก mhrozowski และโฮล์ม
การนำไฟฟ้าของคาร์บอนสีดำขึ้นอยู่กับ
สำหรับแต่ละอนุภาค
ในงานวิจัยนี้ได้ศึกษาผลของความหนาแน่นปริมาตรของแกรไฟต์อัดต่อค่าการนำไฟฟ้า
ถูกสอบสวนด้วย แกรไฟต์อัดได้จากสองชนิดที่แตกต่างกันของผงแกรไฟต์ธรรมชาติ
ไม่มีการรักษาด้วยคลื่นอัลตราโซนิก ตัวอย่างการนำไฟฟ้าประกอบด้วยสอง
เทคนิคการสำรวจ อิทธิพลของอุณหภูมิตัวอย่างต่อการนำไฟฟ้าของ
อุณหภูมิมีผลต่อความหนาแน่นของปริมาณและการนำไฟฟ้าของวัสดุ คุณสมบัติทางแสง
ลักษณะของกราไฟท์ระงับโดยวิธียูวี รูปร่างของแกรไฟต์
จากการสังเกตด้วย SEM