The Role of Vegetative CoverLand ar

The Role of Vegetative Cover
Land areas covered by plant biomass, living or dead, are more resistant to wind and water soil erosion
and experience relatively little erosion because rain drop and wind energy are dissipated by the biomass
layer and the topsoil is held together by the biomass [17]. For example, in Utah and Montana, as the
amount of ground cover decreased from 100% to less than 1%, erosion rates increased approximately
200-fold [18]. In forested areas, a minimum of 60% forest cover is necessary to prevent serious soil
erosion and landslides [19–21]. The extensive removal of forests for cropland and pasture is followed by
intensive soil erosion.
Loss of vegetative soil cover is especially widespread in developing countries where populations are
large and growing, and agricultural practices are often inadequate to protect topsoils. In addition,
cooking and heating in these countries frequently depend on the use of crop residues for fuel. For
example, in the 1990s about 60% of crop residues in China and 90% in Bangladesh routinely were
removed from the land and burned as fuel [22]. More recent estimates of the amount of crop residues in
Bangladesh that could be harvested for biomass energy conversion without negatively impacting future
crop yields amount to 50% of all rice crop residues and 80% of non-rice crop residues [23]. More
recently crop residues in China are being used less as a domestic fuel source [24] due to the increased
availability of fossil fuels. However China has plans to burn about half of the 600 billion tons of straw
(from grains) crop residues produced annually to generate electricity [25]. In areas where fuelwood and
other biomass are scarce, even the roots of grasses and shrubs are collected and burned [26,27]. All these
practices leave the soil barren and fully exposed to rain and wind erosion forces.
2

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทบาทของพืชปกที่ดินพื้นที่ปกคลุม ด้วยพืชชีวมวล ชีวิต หรือตาย แล้ว จะต้านการพังทลายของดินลมและน้ำและประสบการณ์ค่อนข้างน้อยพังทลายเนื่องจากฝนตก และพลังงานลมเป็น dissipated โดยชีวมวลชั้นและชั้นดินถูกจัดขึ้นร่วมกัน โดยชีวมวล [17] ตัวอย่าง ในยูทาห์และมอนตานา เป็นการจำนวนลดลงจาก 100% เป็นน้อยกว่า 1% อัตราการกัดเซาะเพิ่มขึ้นประมาณคลุมดิน200-fold [18] จะจำเป็นต้องป้องกันดินร้ายแรงในพื้นที่ป่า อย่างน้อย 60% ป่าปกกัดเซาะและแผ่นดินถล่ม [19-21] ตามด้วยการกำจัดป่า cropland และทุ่งหญ้ากว้างขวางพังทลายของดินแบบเร่งรัดสูญเสียของพืชดินปกเป็นอย่างแพร่หลายโดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศกำลังพัฒนาที่ประชากรมีขนาดใหญ่ และเติบโต และการเกษตรมักไม่เพียงพอเพื่อป้องกันปรอท นอกจากนี้อาหาร และเครื่องทำความร้อนในประเทศเหล่านี้บ่อยขึ้นกับการใช้ตกค้างพืชเชื้อเพลิง สำหรับตัวอย่าง ในปี 1990 พืชตกค้างในจีนประมาณ 60% และ 90% ในบังกลาเทศเป็นประจำได้ออกจากที่ดิน และเผาเป็นเชื้อเพลิง [22] ประเมินล่าสุดของยอดพืชตกค้างในบังกลาเทศที่สามารถเก็บเกี่ยวสำหรับแปลงพลังงานชีวมวลโดยไม่ส่งผลกระทบต่ออนาคตตัดยอดเงินอัตราผลตอบแทน 50% ตกค้างพืชข้าวทั้งหมดและ 80% ตกค้างพืชข้าว [23] เพิ่มเติมเพิ่ง ตกค้างพืชในประเทศจีนมีการใช้น้อยเป็นแหล่งเชื้อเพลิงในประเทศ [24] เนื่องจากการเพิ่มขึ้นพร้อมของเชื้อเพลิงฟอสซิล อย่างไรก็ตาม จีนมีแผนจะเขียนครึ่งตันฟาง 600 พันล้าน(จากธัญพืช) พืชตกค้างผลิตเป็นรายปีเพื่อสร้างกระแสไฟฟ้า [25] ในพื้นที่ที่ fuelwood และชีวมวลอื่น ๆ ขาดแคลน แม้แต่รากของหญ้าและพุ่มไม้รวบรวม และเขียน [26, 27] ทั้งหมดเหล่านี้ปฏิบัติปล่อยดินแห้งแล้ง และสัมผัสทั้งฝนและลมกัดเซาะกอง2

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทบาทของพืชปกคลุม
พื้นที่ที่ดินปกคลุมด้วยชีวมวลพืชที่อาศัยอยู่หรือตายจะทนต่อลมและดินน้ำกัดเซาะ
และประสบการณ์การกัดเซาะค่อนข้างน้อยเพราะฝนหล่นและพลังงานลมจะเหือดหายไปจากชีวมวล
และชั้นดินที่มีการจัดขึ้นร่วมกันโดย ชีวมวล [17] ยกตัวอย่างเช่นในยูทาห์และมอนแทนาเป็น
จำนวนเงินของการคลุมดินลดลงจาก 100% เพื่อน้อยกว่า 1% อัตราการกัดเซาะเพิ่มขึ้นประมาณ
200 เท่า [18] ในพื้นที่ป่าอย่างน้อยป่าปกคลุม 60% เป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อป้องกันไม่ให้ดินอย่างรุนแรง
กัดเซาะและดินถล่ม [19-21] การกำจัดที่กว้างขวางของป่าเพื่อ cropland และทุ่งหญ้าตามด้วยการ
พังทลายของดินอย่างเข้มข้น.
การสูญเสียดินพืชเป็นที่แพร่หลายโดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศกำลังพัฒนาที่มีประชากรที่มี
ขนาดใหญ่และมีการเจริญเติบโตและการปฏิบัติทางการเกษตรที่มักจะไม่เพียงพอที่จะปกป้องดินบน นอกจากนี้
การปรุงอาหารและเครื่องทำความร้อนในประเทศเหล่านี้บ่อยครั้งขึ้นอยู่กับการใช้งานของเศษซากพืชสำหรับน้ำมันเชื้อเพลิง สำหรับ
ตัวอย่างเช่นในปี 1990 ประมาณ 60% ของเศษซากพืชในประเทศจีนและ 90% ในบังคลาเทศประจำถูก
ลบออกจากที่ดินและเผาเป็นเชื้อเพลิง [22] ประมาณการล่าสุดของจำนวนเงินของเศษซากพืชใน
บังคลาเทศที่สามารถเก็บเกี่ยวสำหรับการแปลงพลังงานชีวมวลโดยไม่ส่งผลกระทบในเชิงลบในอนาคต
ผลผลิตพืชเป็นจำนวนเงินถึง 50% ของทั้งหมดเศษซากพืชข้าวและ 80% ของเศษซากพืชที่ไม่ใช่ข้าว [23] มากขึ้น
เมื่อเร็ว ๆ นี้เศษซากพืชในประเทศจีนมีการใช้น้อยเป็นแหล่งเชื้อเพลิงในประเทศ [24] เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของ
ความพร้อมของเชื้อเพลิงฟอสซิล อย่างไรก็ตามจีนมีแผนการที่จะเผาไหม้ประมาณครึ่งหนึ่งของ 600 พันล้านตันจากฟาง
(จากธัญพืช) เศษซากพืชที่ผลิตเป็นประจำทุกปีเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า [25] ในพื้นที่ที่มีไม้ฟืนและ
ชีวมวลอื่น ๆ จะหายากแม้รากของหญ้าและพุ่มไม้จะถูกเก็บรวบรวมและเผา [26,27] ทั้งหมดเหล่านี้
การปฏิบัติออกจากดินแดนที่แห้งแล้งและสัมผัสอย่างเต็มที่เพื่อให้ฝนตกและลมกัดเซาะกองกำลัง.
2

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บทบาทของพืชคลุมที่ดิน พื้นที่ที่ครอบคลุมจากชีวมวลพืช อยู่ หรือตาย จะทนต่อลมและน้ำในดินและประสบการณ์การลดลงค่อนข้างน้อยเพราะฝนตกและลมพลังงานจะกระจายโดยชีวมวลชั้นและดินจะจัดขึ้นร่วมกันโดยชีวมวล [ 17 ] ตัวอย่างเช่นในยูทาห์และ Montana , เป็นจำนวนปกพื้นดินลดลงจาก 100% เหลือน้อยกว่าร้อยละ 1 อัตราการเพิ่มประมาณ200 พับ [ 18 ] ในพื้นที่ป่า อย่างน้อยครอบคลุมพื้นที่ป่า 60 % เป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อป้องกันไม่ให้ดินอย่างจริงจังการกัดกร่อนและดินถล่ม [ 19 – 21 ] เอาที่กว้างขวางของป่าและ cropland ทุ่งหญ้าตามด้วยการพังทลายของดินที่เข้มข้นการสูญเสียดินและครอบคลุมโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่แพร่หลายในประเทศกำลังพัฒนาที่ประชากรขนาดใหญ่และเติบโต และการปฏิบัติทางการเกษตรมักจะไม่เพียงพอที่จะปกป้องดินชั้นบน . นอกจากนี้อาหาร และความร้อนในประเทศเหล่านี้มักขึ้นอยู่กับการใช้เศษพืชตกค้างสำหรับเชื้อเพลิง สำหรับเช่น ในปี 1990 ประมาณ 60% ของพืชตกค้างในประเทศจีนและ 90% เป็นประจำในบังคลาเทศลบออกจากแผ่นดินและเผาเป็นเชื้อเพลิง [ 22 ] ล่าสุดประมาณการปริมาณสารตกค้างในพืชบังคลาเทศที่สามารถเก็บเกี่ยวสำหรับการแปลงพลังงานชีวมวลโดยไม่ส่งผลเสียต่ออนาคตผลผลิตพืช ปริมาณ 50% ของทั้งหมดข้าวพืชตกค้างและ 80% ของการเพาะปลูกข้าวไม่ตกค้าง [ 23 ] เพิ่มเติมเมื่อเร็ว ๆนี้ตกค้างพืชในประเทศจีนมีการใช้น้อยลง เป็นแหล่งเชื้อเพลิงภายในประเทศ [ 24 ] เนื่องจากการเพิ่มขึ้นห้องพักของเชื้อเพลิงฟอสซิล อย่างไรก็ตาม จีนได้วางแผนที่จะเขียนเกี่ยวกับครึ่งหนึ่งของ 600 ล้านตันของหลอด( จากธัญพืช ) ตกค้างพืชที่ผลิตเป็นรายปี เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า [ 25 ] ในพื้นที่ที่มีเชื้อ และชีวมวลอื่นๆได้ยาก แม้รากของหญ้าและพุ่มไม้ที่ถูกรวบรวมและเผา [ 26,27 ] ทั้งหมดเหล่านี้การปล่อยให้ดินแห้งแล้งและเต็มสัมผัสกับฝนและลมกัดเซาะกําลัง2