Fatty acid supplementation of cattl

Fatty acid supplementation of cattle diets were observed
to improve rumen fermentation in term of reduces methane
emission. Fatty acids, especially those of medium chain length
(C8–C16) (e.g., coconut oil, canola oil, kernel oil etc.) have
been found to decrease methane production (Machmuller
and Kreuzer 1999; Dohme et al. 2000) and a in study a 22%
reduction was achieved by addition of sunflower oil to the
diet (McGinn et al., 2004). Fatty acids in the diet provide an
alternative hydrogen sink and also inhibit protozoa (Johnson
and Johnson, 1995). However, Beauchemin and McGinn
(2006) found that whilst use of canola oil as a feed additive
did reduce methane emission, animal performance was
reduced, due to lower feed intake and decreased fiber
digestibility. Moreover, Soliva et al. (2003) and Machmüller
et al. (2003), reported the effect of medium chain fatty acid
and coconut oil on inhibition of methanogenesis, and
significantly reduced daily methane release without negatively
affecting the total tract nutrient digestion. Therefore,
the objective of this study was to study the effects of coconut
oil, garlic powder and their mixtures on improving ruminal
fermentation in swamp buffalo.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การเสริมกรดไขมันวัวอาหารถูกตั้งข้อสังเกตการปรับปรุงต่อการหมักในระยะเวลาการลดก๊าซมีเทนปล่อย กรดไขมัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งความยาวห่วงโซ่(C8 – C16) (เช่น น้ำมันมะพร้าว น้ำมันคาโนลา น้ำมันเมล็ดฯลฯ) มีพบว่าลดการผลิตมีเทน (Machmullerและ Kreuzer 1999 Dohme et al. 2000) และการศึกษาในที่ 22%สำเร็จ โดยนอกจากนี้น้ำมันดอกทานตะวันเพื่อลดการอาหาร (McGinn et al. 2004) กรดไขมันในอาหารให้มีทางเลือกไฮโดรเจนยัง ยับยั้งโพรโทซัว (จอห์นสัน และอ่างล้างจานและ จอห์นสัน 1995) อย่างไรก็ตาม Beauchemin และ McGinn(2006) พบว่าในขณะที่ใช้น้ำมันคาโนลาเป็นอาหารเสริมไม่ลดมีเทน สัตว์ลดลง เนื่องจากการลดอาหารบริโภค และเส้นใยลดลงย่อย นอกจากนี้ Machmüller และ Soliva et al. (2003)et al. (2003), รายงานผลของกรดไขมันและน้ำมันมะพร้าวในการยับยั้ง methanogenesis และลดทุกวันปล่อยมีเทนโดยไม่ส่งผลเสียส่งผลกระทบต่อการรวมระบบทางเดินย่อยอาหารสารอาหาร ดังนั้นวัตถุประสงค์ของการศึกษานี้ได้ศึกษาผลของมะพร้าวน้ำมัน กระเทียมผง และส่วนผสมของพวกเขาในการปรับปรุง ruminalหมักใน swamp buffalo

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ไขมันเสริมกรดของอาหารวัวถูกตั้งข้อสังเกต
ในการปรับปรุงการหมักในกระเพาะรูเมนในระยะเวลาของการลดก๊าซมีเทน
ปล่อยก๊าซเรือนกระจก กรดไขมันโดยเฉพาะอย่างยิ่งของกลางห่วงโซ่ความยาว
(C8-C16) (เช่นน้ำมันมะพร้าวน้ำมันคาโนลาน้ำมันเมล็ด ฯลฯ ) ได้
รับการค้นพบการลดลงของการผลิตก๊าซมีเทน (Machmuller
และ Kreuzer ปี 1999. Dohme et al, 2000) และใน การศึกษา 22%
ลดลงก็ประสบความสำเร็จโดยการเติมน้ำมันดอกทานตะวันกับ
อาหาร (McGinn et al., 2004) กรดไขมันในอาหารให้
อ่างไฮโดรเจนทดแทนและยังยับยั้งโปรโตซัว (จอห์นสัน
และจอห์นสัน, 1995) อย่างไรก็ตาม Beauchemin และ McGinn
(2006) พบว่าในขณะที่การใช้น้ำมันคาโนลาเป็นสารเติมแต่งฟีด
ได้ลดการปล่อยก๊าซมีเทนประสิทธิภาพสัตว์ถูก
ลดลงเนื่องจากการกินอาหารลดลงและลดลงเส้นใย
ย่อย นอกจากนี้ Soliva et al, (2003) และMachmüller
et al, (2003) รายงานผลของกรดไขมันสายกลาง
และน้ำมันมะพร้าวในการยับยั้งการปล่อยก๊าซมีเทนและ
ลดลงอย่างมีนัยสำคัญที่ปล่อยก๊าซมีเทนในชีวิตประจำวันโดยไม่ต้องในเชิงลบ
ที่มีผลต่อระบบทางเดินย่อยอาหารสารอาหารทั้งหมด ดังนั้น
วัตถุประสงค์ของการศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลกระทบของมะพร้าว
น้ำมันกระเทียมผงและสารผสมของพวกเขาในการปรับปรุงในกระเพาะรูเมน
หมักในกระบือปลัก