วิธีการปรับสภาพวัสดุจำพวก lignocell

วิธีการปรับสภาพวัสดุจำพวก lignocellulose ด้วยเบส มีการอธิบายและการศึกษาอย่างกว้างขวางเพื่อปรับปรุงกระบวนการการผลิตเอทานอล โดยการปรับสภาพด้วยโซเดียมไฮดรอกไซด์เป็นวิธีที่เหมาะสมสำหรับการปรับภาพสภาพชีวมวลประเภทหญ้า (ซึ่งรวมถึงชีวมวลของพืชจำพวกข้าว) เนื่องจากมีปริมาณลิกนินต่ำเมื่อเทียบกับเนื้อไม้ ดันนั้นการคัดเลือกประสิทธิภาพเบื้องต้นของการปรับสภาพฟางข้าวพันธุ์ กข 41 ด้วย 5% w/v NaOH ที่อุณหภูมิ 50, 60, 70, 80 และ 100 ͦ C ประเมินได้จาก % total solid recovery และเวลาที่ใช้ในการปรับสภาพที่เหมาะสม
จากรูปที่ 1 จะเห็นได้ว่า อุณหภูมิที่ใช้ในการปรับสภาพส่งผลต่อ % total solid recovery โดยอุณหภูมิที่ใช้จะแปรผกผันกับ % total solid recovery เมื่อพิจารณารูปที่ 2 ในแต่ละอุณหภูมิที่ใช้ในการปรับสภาพ พบว่าที่อุณหภูมิ 60, 70, 80 และ 100 ͦ C ที่เวลา 3 ชั่วโมงมี % total solid recovery เหมาะสมอย่างมีนัยสำคัญ และได้คัดเลือกสภาวะที่อุณหภูมิ 50 ͦ C เวลา 5 ชั่วโมงเพื่อนำไปเปรียบเทียบกับงานวิจับการปรับสภาพฟางข้าวสาลีของ Sophonputtanaphoca et al. (2012) จากสภาวะที่ได้รับการคัดเลือกข้างต้น จะนำไปศึกษาการผลิตน้ำตาลที่หมักได้จากฟางข้าวที่ผ่านการปรับสภาพด้วย NaOH ต่อไป

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วิธีการปรับสภาพวัสดุจำพวก lignocellulose ด้วยเบสมีการอธิบายและการศึกษาอย่างกว้างขวางเพื่อปรับปรุงกระบวนการการผลิตเอทานอลโดยการปรับสภาพด้วยโซเดียมไฮดรอกไซด์เป็นวิธีที่เหมาะสมสำหรับการปรับภาพสภาพชีวมวลประเภทหญ้า (ซึ่งรวมถึงชีวมวลของพืชจำพวกข้าว) เนื่องจากมีปริมาณลิกนินต่ำเมื่อเทียบกับเนื้อไม้ดันนั้นการคัดเลือกประสิทธิภาพเบื้องต้นของการปรับสภาพฟางข้าวพันธุ์กข 41 ด้วย 5% w/v NaOH ที่อุณหภูมิ 50, 60, 70, 80 และ 100 ͦ C ประเมินได้จาก%กู้รวมทึบและเวลาที่ใช้ในการปรับสภาพที่เหมาะสมจากรูปที่ 1 จะเห็นได้ว่าอุณหภูมิที่ใช้ในการปรับสภาพส่งผลต่อ%กู้คืนแข็งรวมโดยอุณหภูมิที่ใช้จะแปรผกผันกับ%กู้คืนแข็งรวมเมื่อพิจารณารูปที่ 2 ในแต่ละอุณหภูมิที่ใช้ในการปรับสภาพพบว่าที่อุณหภูมิ 60, 70, 80 และ 100 ͦ C ที่เวลา 3 ชั่วโมงมี%กู้คืนแข็งรวมเหมาะสมอย่างมีนัยสำคัญและได้คัดเลือกสภาวะที่อุณหภูมิ 50 ͦ C เวลา 5 ชั่วโมงเพื่อนำไปเปรียบเทียบกับงานวิจับการปรับสภาพฟางข้าวสาลีของ Sophonputtanaphoca et al. (2012) จากสภาวะที่ได้รับการคัดเลือกข้างต้นจะนำไปศึกษาการผลิตน้ำตาลที่หมักได้จากฟางข้าวที่ผ่านการปรับสภาพด้วย NaOH ต่อไป

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วิธีการปรับสภาพวัสดุจำพวกลิกโนเซลลูโลสด้วยเบส (ซึ่งรวมถึงชีวมวลของพืชจำพวกข้าว) กข 41 ด้วย 5% w / v NaOH ที่อุณหภูมิ 50, 60, 70, 80 และ 100 ͦ C ประเมินได้จากการกู้คืน% ของแข็งทั้งหมด
1 จะเห็นได้ว่า % การฟื้นตัวของของแข็งทั้งหมดโดยอุณหภูมิที่ใช้จะแปรผกผันกับการกู้คืน% ของแข็งทั้งหมดเมื่อพิจารณารูปที่ 2 พบว่าที่อุณหภูมิ 60, 70, 80 และ 100 ͦ C ที่เวลา 3 ชั่วโมงมี% การฟื้นตัวของของแข็งทั้งหมดเหมาะสมอย่างมีนัยสำคัญและได้คัดเลือกสภาวะที่อุณหภูมิ 50 องศาเซลเซียสเวลาͦ 5 Sophonputtanaphoca et al, (2012) NaOH ต่อไป

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วิธีการปรับสภาพวัสดุจำพวกด้วยเบสมีการอธิบายและการศึกษาอย่างกว้างขวางเพื่อปรับปรุงกระบวนการการผลิตเอทานอลลิกโนเซลลูโลส( ซึ่งรวมถึงชีวมวลของพืชจำพวกข้าว ) เนื่องจากมีปริมาณลิกนินต่ำเมื่อเทียบกับเนื้อไม้ดันนั้นการคัดเลือกประสิทธิภาพเบื้องต้นของการปรับสภาพฟางข้าวพันธุ์พูดถึงกันเมื่อกี๊ 41 ด้วย 5% w / v NaOH ที่อุณหภูมิ 5060 , 70 , 80 และ 100 ͦ C ประเมินได้จากของแข็งทั้งหมดในการกู้คืนและเวลาที่ใช้ในการปรับสภาพที่เหมาะสม
%จากรูปที่ 1% อุณหภูมิที่ใช้ในการปรับสภาพส่งผลต่อจะเห็นได้ว่าของแข็งของแข็งทั้งหมดในการกู้คืนการกู้คืนโดยอุณหภูมิที่ใช้จะแปรผกผันกับ % เมื่อพิจารณารูปที่ 2 ในแต่ละอุณหภูมิที่ใช้ในการปรับสภาพพบว่าที่อุณหภูมิ 60 , 70 ,80 และ 100 ͦ C ที่เวลา 3 ชั่วโมงมี % ของแข็งทั้งหมดในการกู้คืนเหมาะสมอย่างมีนัยสำคัญและได้คัดเลือกสภาวะที่อุณหภูมิ 50 ͦ C เวลา 5 ชั่วโมงเพื่อนำไปเปรียบเทียบกับงานวิจับการปรับสภาพฟางข้าวสาลีของ sophonputtanaphoca et al .( 2012 ) จากสภาวะที่ได้รับการคัดเลือกข้างต้นจะนำไปศึกษาการผลิตน้ำตาลที่หมักได้จากฟางข้าวที่ผ่านการปรับสภาพด้วย NaOH ต่อไป