Each scale is an approximately circ

Each scale is an approximately circular sheet of extracellular matrix material. An
outer osseous layer covers a more interiorly situated fibrillary plate (Fig. 1). This
plate mainly consists of layers of collagen fibres stacked in an ‘orthogonal cross-ply’
configuration (Fig. 4). Cells that form a layer covering the outer osseous surface of a
scale will be referred to as osteoblasts (Van Oosten, 1957) in this account, and cells in
the layer that is situated against a scale’s inner fibrillary surface will be called
fibroblasts (Onozato & Watabe, 1979) (Fig. 1). Osteoblasts and fibroblasts have also
been termed scleroblasts (e.g. see Byers & Fujiwara, 1982) or described as
episquamal and hyposquamal cells (Waterman, 1970), respectively, by previous
investigators. Several layers of epidermal cells cover the osteoblast layer, and layers
of dermal cells and pigment cells are situated inside and against the fibroblast layer
(Waterman, 1970). They have not been examined in detail in this study. The osseous
layer of each scale exhibits a polarized pattern of ridges (circuli) and grooves (radii)
on its outer surface that is oriented with respect to the anterior/posterior axis of the
organism (Fig. 2).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แต่ละขนาดเป็นแผ่นเป็นวงกลมประมาณวัสดุเคลือบ การ
osseous กำพร้าครอบคลุมมากขึ้น interiorly ตั้งจาน fibrillary (Fig. 1) นี้
จานส่วนใหญ่ประกอบด้วยชั้นของเส้นใยคอลลาเจนแบบกองซ้อนในการ 'orthogonal ข้ามชั้น'
ตั้งค่าคอนฟิก (Fig. 4) เซลล์ที่เป็นชั้นครอบคลุมพื้นผิว osseous ภายนอกของ การ
ขนาดจะถูกเรียกว่า osteoblasts (Van Oosten, 1957) นี้บัญชี และเซลล์ใน
ชั้นที่ตั้งอยู่กับพื้นผิว fibrillary ภายในของมาตราส่วน จะถูกเรียกว่า
fibroblasts (Onozato & Watabe, 1979) (Fig. 1) Osteoblasts และ fibroblasts มี
ถูกเรียกว่า scleroblasts (เช่น ดู Byers &ฟุจิวะ 1982) หรืออธิบายเป็น
episquamal และ hyposquamal เซลล์ (Waterman, 1970), ตามลำดับ โดยก่อนหน้านี้
นักสืบ ครอบคลุมหลายชั้นของเซลล์ epidermal osteoblast ชั้น และชั้น
ของเซลล์ผิวหนังและเซลล์เม็ดสีอยู่ภายใน และชั้น fibroblast
(Waterman, 1970) จะได้ไม่ถูกตรวจสอบในรายละเอียดในการศึกษานี้ Osseous
ของแต่ละระดับชั้นจัดแสดงรูปแบบโพลาไรซ์ของสันเขา (circuli) และร่อง (รัศมี)
บนของพื้นผิวภายนอกที่มุ่งเน้นเกี่ยวกับแกนแอนทีเรียร์/หลังของ การ
สิ่งมีชีวิต (Fig. 2) .

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ขนาดแต่ละคนเป็นแผ่นวงกลมประมาณของวัสดุ extracellular เมทริกซ์
ชั้นกระดูกด้านนอกครอบคลุมแผ่น fibrillary อยู่มากขึ้น interiorly (รูปที่ 1). นี้
แผ่นส่วนใหญ่ประกอบด้วยชั้นของเส้นใยคอลลาเจนซ้อนกันใน 'ฉากข้ามชั้น'
การตั้งค่า (รูปที่ 4). เซลล์ที่ฟอร์มชั้นครอบคลุมพื้นผิวกระดูกด้านนอกของ
วัดจะถูกเรียกว่าเซลล์สร้างกระดูก (Van Oosten 1957) ในบัญชีนี้และเซลล์ใน
ชั้นที่ตั้งอยู่กับพื้นผิว fibrillary ขนาดของชั้นในจะถูกเรียก
รบรา (Onozato และ Watabe, 1979) (รูปที่ 1). เซลล์สร้างกระดูกและรบราส์ยังได้
รับการเรียกว่า scleroblasts (เช่นเห็นยอร์สและฟูจิวาระ, 1982) หรือการอธิบายว่า
episquamal และ hyposquamal เซลล์ (ฝีพาย 1970) ตามลำดับโดยที่ก่อนหน้านี้
นักวิจัย หลายชั้นของเซลล์ผิวหนังชั้นครอบคลุมกระดูกและชั้น
ของเซลล์ผิวหนังและเซลล์เม็ดสีที่ตั้งอยู่ภายในและกับชั้นลาสท์
(ฝีพาย 1970) พวกเขายังไม่ได้รับการตรวจสอบในรายละเอียดในการศึกษาครั้งนี้ กระดูก
ชั้นของแต่ละระดับการจัดแสดงรูปแบบโพลาไรซ์ของสันเขา (วงเวียน) และร่อง (รัศมี)
บนพื้นผิวด้านนอกของมันที่จะมุ่งเน้นการให้ความเคารพกับแกนหน้า / หลังของ
สิ่งมีชีวิต (รูปที่ 2).

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แต่ละแบบเป็นแผ่นวงกลมของวัสดุเมทริกซ์นอกเซลล์ประมาณ . เป็นเลเยอร์ภายนอกครอบคลุมมากขึ้นอีก
interiorly ตั้งอยู่จาน fibrillary ( รูปที่ 1 ) จานนี้
ส่วนใหญ่ประกอบด้วยชั้นของเส้นใย คอลลาเจน ใน ชั้น เรียงซ้อนกันเป็นชั้นข้าม '
( รูปที่ 4 ) การปรับแต่ง . เซลล์ที่ฟอร์มชั้นครอบคลุมพื้นผิวด้านนอกของกระดูก
ขนาดจะเรียกว่าแต่โรคกระดูกพรุน ( รถตู้ ท็น 2500 ) ในบัญชีนี้ และเซลล์ในชั้น
นั้นตั้งอยู่กับภายใน fibrillary แบบพื้นผิวจะเรียกว่า
ไฟโบรบลาส ( onozato & วาตา , 1979 ) ( รูปที่ 1 ) แต่โรคกระดูกพรุนและ fibroblasts ได้
ถูกเรียกว่า scleroblasts ( เช่นเห็นโดย&ฟูจิวาระ , 1982 ) หรืออธิบาย
episquamal hyposquamal และเซลล์ ( Waterman , 1970 )ตามลำดับ โดยพนักงานสอบสวนก่อน

หลายๆชั้น epidermal เซลล์ครอบคลุมต่อชั้น และชั้นของเซลล์ผิวหนัง และ เซลล์เม็ดสี
ตั้งอยู่ภายในและกับเนื้อเยื่อเกี่ยวพันชั้น
( Waterman , 1970 ) พวกเขายังไม่ได้รับการตรวจสอบในรายละเอียด ในการศึกษานี้ ชั้นกระดูก
ของแต่ละระดับจัดแสดงรูปแบบของสันเขาขั้ว ( เซอร์คูไล ) และร่อง ( รัศมี )
บนพื้นผิวด้านนอกของที่เป็นเชิงต่อแกนด้านหลังด้านหน้าของสิ่งมีชีวิต /

( รูปที่ 2 )