It should not be assumed, however,

It should not be assumed, however, that
everyone with a life-limiting condition or
terminal diagnosis (and those close to them)
will have spiritual needs. Murray et al (2004)
interviewed a group of people who were dying
from either heart failure or lung cancer and
concluded that spiritual issues were significant
for many patients (and their carers) in these
two groups in the last year of life. However,
other studies have shown that the prevalence
of spiritual or existential distress among
people approaching the end of life can
sometimes be relatively low. For example, one
group of hospice patients rated spiritual needs
as sixth most important out of seven identified
domains of end of life need (Arnold 2011).
However, such findings could be the result of
the recording methods used, which in this case
allocated items such as fear, letting go and
dying to non-spiritual domains.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มันจะไม่ทึกทักเอา อย่างไร ตามที่ทุกคน มีสภาพชีวิตที่มีการจำกัด หรือเทอร์มินัลวินิจฉัย (และผู้ใกล้ชิดกับ)จะมีจิตวิญญาณต้องการ เมอร์เรย์ et al (2004)สัมภาษณ์กลุ่มคนที่ได้ตายจากภาวะหัวใจวายหรือโรคมะเร็งปอด และสรุปว่า ปัญหาทางจิตวิญญาณได้อย่างมีนัยสำคัญสำหรับผู้ป่วย (และ carers ของพวกเขา) ในเหล่านี้กลุ่มสองปีสุดท้ายของชีวิต อย่างไรก็ตามศึกษาอื่น ๆ มีแสดงที่ชุกจิตวิญญาณ หรือ existential ทุกข์ระหว่างคนที่กำลังสิ้นสุดของชีวิตบางครั้งจะค่อนข้างต่ำ ตัวอย่าง หนึ่งกลุ่มผู้ป่วย hospice คะแนนฝ่ายวิญญาณต้องหกเป็นสำคัญจากเจ็ดระบุโดเมนของจุดสิ้นสุดของชีวิตต้อง (อาร์โนลด์ 2011)อย่างไรก็ตาม ผลการวิจัยดังกล่าวอาจเป็นผลของวิธีการบันทึกการใช้ ซึ่งในกรณีนี้จัดสรรรายการดังกล่าวเป็นความหวาดกลัว ให้ไป และตายทางจิตวิญญาณไม่ใช่โดเมน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มันไม่ควรจะคิดอย่างไรที่
ทุกคนที่มีสภาพชีวิต จำกัด หรือ
สถานีการวินิจฉัย (และผู้ที่ใกล้ชิดกับพวกเขา)
จะมีความต้องการทางจิตวิญญาณ เมอเรย์, et al (2004)
การสัมภาษณ์กลุ่มคนที่กำลังจะตาย
จากทั้งหัวใจล้มเหลวหรือโรคมะเร็งปอดและ
ได้ข้อสรุปว่าปัญหาทางจิตวิญญาณอย่างมีนัยสำคัญ
สำหรับผู้ป่วยจำนวนมาก (และผู้ดูแลของพวกเขา) ในทั้ง
สองกลุ่มในปีสุดท้ายของชีวิต อย่างไรก็ตาม
การศึกษาอื่น ๆ ได้แสดงให้เห็นว่าความชุก
ของความทุกข์ทางจิตวิญญาณหรือการดำรงอยู่ในหมู่
คนใกล้จบชีวิตสามารถ
บางครั้งจะค่อนข้างต่ำ ตัวอย่างเช่นหนึ่ง
ในกลุ่มของผู้ป่วยที่บ้านพักรับรองจัดอันดับความต้องการทางจิตวิญญาณ
เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่หกจากเจ็ดระบุ
โดเมนของการสิ้นสุดของความจำเป็นในชีวิต (อาร์โนล 2011).
อย่างไรก็ตามการค้นพบดังกล่าวอาจเป็นผลมาจาก
การบันทึกวิธีการใช้ซึ่งในกรณีนี้
รายการที่ได้รับการจัดสรร เช่นความกลัวให้ไปและ
กำลังจะตายไปยังโดเมนที่ไม่ใช่จิตวิญญาณ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มันไม่ควรจะถือว่าเป็น , อย่างไรก็ตาม , ว่า
ทุกคนด้วยชีวิตการวินิจฉัยเงื่อนไขหรือ
terminal ( และคนที่ใกล้ชิดกับพวกเขา )
จะมีความต้องการทางจิตวิญญาณ เมอร์เรย์ et al ( 2004 )
สัมภาษณ์กลุ่มของคนที่กำลังจะตาย
จากทั้งหัวใจล้มเหลว หรือมะเร็งปอด และสรุปได้ว่า ปัญหาทางจิตอย่างมีนัยสำคัญ

สำหรับผู้ป่วยหลายคน ( และผู้ดูแลของพวกเขา ) ใน
2 กลุ่มในช่วงปีสุดท้ายของชีวิตอย่างไรก็ตาม
การศึกษาอื่น ๆพบว่า ความชุกของจิตวิญญาณ หรือความทุกข์ของที่มีอยู่

คนใกล้สิ้นสุดของชีวิต
บางครั้งจะค่อนข้างต่ำ . ตัวอย่างเช่นหนึ่ง

ที่พักผู้ป่วยกลุ่มมีความต้องการทางจิตวิญญาณเป็นครั้งที่สำคัญที่สุดในเจ็ดระบุ
โดเมนของสุดท้ายของชีวิต ( Arnold 2011 )
แต่ผลดังกล่าวอาจเป็นผลของ
บันทึกวิธีใช้ซึ่งในกรณีนี้
จัดสรรรายการ เช่น ความกลัว ปล่อยให้ไปและ
ตายไม่มโนมัยโดเมน