Purpose: The purpose of the present

Purpose: The purpose of the present study is to clarify whether or not there is any difference in scores of the various factors comprising a sense of satisfaction gained from child rearing in the groups of primiparas who had high and low assessments of their Marital relationship during the initial stage of childrearing. Methods: The subjects were 100 primiparas who gave birth at general hospitals in Tokyo, and were mothering an infant that was 2~3 months old. The survey comprised (1) demographic data (age, number of hours of sleep per night, EPDS, etc.); (2) scale measuring assessment of the relationship between husband and wife (Marital Love Scale); and (3) questionnaires and scales measuring various factors comprising the sense of satisfaction gained from child rearing [fatigue (inquiring about subjective symptoms), self-efficacy (general self-efficacy scale), self-efficacy pertaining to childcare (primary factor of the scale measuring positive feelings toward child rearing during puerperal period), questionnaire assessing husband's social support, acceptance of the maternal role (maternal consciousness scale), parental behavioral index (PBI)]. Results: The results of the 93 subjects providing valid responses (93%) were analyzed statistically. When the group having a high evaluation score of the Marital relationship was compared against the group having a low evaluation score, sleep time was significantly shorter, but other background elements were almost the same. When the group having a high evaluation score of the Marital relationship was compared against the group having a low evaluation score, of the six factors comprising a sense of satisfaction gained from child rearing, the evaluation scores for the husband's social support (mental support; p=.000, informational support; t=3.81, p=.000, and instrumental support; p=.006), self-efficacy score (p=.040), and the score for positive and affirmative acceptance of the maternal role (p=.004) were significantly higher. Conclusion: When the mother's feeling of satisfaction gained from child rearing during the child rearing period is viewed from the perspective of how the Marital relationship is assessed, if the mother has high regard for the Marital relationship, it is believed that she will then have highly positive feelings toward child rearing. Consequently, it is regarded as necessary that nurses not only provide instruction in specific child rearing methods, but that, along with the coping ability which the mother had developed, nurses need to take an interest in the Marital relationship, and convey the importance of communication between husband and wife within the context of childcare support. Less

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วัตถุประสงค์: วัตถุประสงค์ของการศึกษาคือการ ชี้แจงหรือไม่มีความแตกต่างในคะแนนของปัจจัยต่าง ๆ ที่ประกอบด้วยความพึงพอใจที่ได้จากเด็กที่เลี้ยงในกลุ่มของ primiparas ที่มีการประเมินความสัมพันธ์สมรสสูงและต่ำในช่วงระยะแรกของเล่ม วิธีการ: วัตถุมี primiparas 100 ผู้ให้กำเนิดที่โรงพยาบาลทั่วไปในโตเกียว และถูก mothering ทารกที่ 2 ~ 3 เดือน ประกอบด้วยการสำรวจข้อมูลประชากร (1) (อายุ จำนวนชั่วโมงการนอนหลับคืน EPDS ฯลฯ .); (2) มาตราส่วนการวัดประเมินผลของความสัมพันธ์ระหว่างสามีและภรรยา (สมรสรักสเกล); และ (3) แบบสอบถามเครื่องชั่งและวัดปัจจัยต่าง ๆ ที่ประกอบด้วยความรู้สึกของความพึงพอใจที่ได้จากเด็กที่เลี้ยง [ประสิทธิภาพในตนเอง (สเกลทั่วไปประสิทธิภาพในตนเอง), เกี่ยวข้องกับการดูแลเด็ก (ปัจจัยหลักของสเกลที่วัดความรู้สึกที่ดีต่อเด็กที่เลี้ยงแบบช่วง), แบบสอบถามประเมินการสนับสนุนทางสังคมของสามี ยอมรับการมารดาประสิทธิภาพในตนเอง ความเมื่อยล้า (สอบถามอาการอัตนัย) บทบาท (มารดาสติสเกล) ดัชนีพฤติกรรมโดยผู้ปกครอง (PBI)] ผลลัพธ์: ผลลัพธ์ของวิชา 93 ที่ให้คำตอบที่ถูกต้อง (93%) มาวิเคราะห์ทางสถิติ เมื่อเปรียบเทียบกลุ่มที่มีคะแนนประเมินสูงของความสัมพันธ์สมรสกับกลุ่มที่มีคะแนนการประเมินต่ำ เวลานอนก็สั้นลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่องค์ประกอบพื้นหลังอื่น ๆ ได้เกือบจะเหมือนกัน เมื่อกลุ่มที่มีการประเมินผลสูงคะแนนความสัมพันธ์สมรสการเปรียบเทียบกับกลุ่มที่มีคะแนนการประเมินต่ำ ปัจจัยหก ประกอบด้วยความพึงพอใจได้รับเลี้ยงบุตรหลาน การประเมินผลคะแนนการสนับสนุนทางสังคมของสามี (สนับสนุนจิต p =. 000 ให้ข้อมูลสนับสนุน t = 3.81, p =. 000 และการสนับสนุนเครื่องมือ p =. 006), คะแนนประสิทธิภาพในตนเอง (p =. 040) และคะแนนสำหรับการบวก และเห็นพ้องยอมรับบทบาทมารดา (p =. 004) สูงมาก สรุป: เมื่อรู้สึกพึงพอใจที่ได้จากเด็กที่เลี้ยงในระหว่างรอบระยะเวลาการเลี้ยงลูกของแม่ดูจากมุมมองของวิธีประเมินความสัมพันธ์สมรส ถ้าแม่มีเรื่องสูงสำหรับความสัมพันธ์สมรส เชื่อว่า เธอนั้นจะมีความรู้สึกในเชิงบวกมากต่อการเลี้ยงลูก จึง มันจะถือเป็นความจำเป็นที่พยาบาลไม่เพียงแต่ให้คำแนะนำในเด็กเฉพาะที่เลี้ยงวิธี แต่ว่า พร้อมรับมือความสามารถซึ่งแม่ได้พัฒนา พยาบาลต้องให้ความสนใจในความสัมพันธ์สมรส และถ่ายทอดความสำคัญของการสื่อสารระหว่างสามีและภรรยาภายในบริบทของการสนับสนุนดูแลเด็ก น้อย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วัตถุประสงค์: วัตถุประสงค์ของการศึกษาในปัจจุบันคือการชี้แจงหรือไม่ว่ามีความแตกต่างในคะแนนของปัจจัยต่างๆประกอบไปด้วยความรู้สึกของความพึงพอใจที่ได้รับจากการอบรมเลี้ยงดูเด็กในกลุ่ม primiparas ที่มีการประเมินสูงและต่ำของความสัมพันธ์ในชีวิตสมรสของพวกเขาในช่วงใด ระยะแรกของการเลี้ยงดูเด็กอ่อน วิธีการ: กลุ่มตัวอย่างเป็น 100 primiparas ผู้ให้กำเนิดที่โรงพยาบาลทั่วไปในกรุงโตเกียวและแม่เด็กทารกที่อายุ 2 ~ 3 เดือน การสำรวจประกอบด้วย (1) ข้อมูลประชากร (อายุจำนวนชั่วโมงการนอนหลับต่อคืน EPDs ฯลฯ ); (2) ขนาดการวัดประเมินผลของความสัมพันธ์ระหว่างสามีและภรรยา (สถานรักชั่ง) นั้น และ (3) แบบสอบถามและเครื่องชั่งน้ำหนักวัดปัจจัยต่างๆประกอบไปด้วยความรู้สึกของความพึงพอใจที่ได้รับจากการอบรมเลี้ยงดูเด็ก [ความเมื่อยล้า (สอบถามเกี่ยวกับอาการอัตนัย) ด้วยตนเองประสิทธิภาพ (ระดับการรับรู้ความสามารถตนเองทั่วไป) ด้วยตนเองการรับรู้ความสามารถที่เกี่ยวข้องกับการดูแลเด็ก (ปัจจัยหลักของ ขนาดวัดความรู้สึกที่ดีต่อการอบรมเลี้ยงดูเด็กในช่วงระยะเวลาหลังคลอด) แบบสอบถามประเมินการสนับสนุนทางสังคมของสามีได้รับการยอมรับในบทบาทการเป็นมารดา (ระดับจิตสำนึกของมารดา) ดัชนีพฤติกรรมของผู้ปกครอง (PBI)] ผล: ผลของการอาสาสมัคร 93 ให้คำตอบที่ถูกต้อง (93%) ถูกนำมาวิเคราะห์ทางสถิติ เมื่อกลุ่มที่มีคะแนนประเมินสูงของสัมพันธภาพระหว่างคู่สมรสเ​​มื่อเทียบกับกลุ่มที่มีคะแนนการประเมินผลต่ำเวลาการนอนหลับอย่างมีนัยสำคัญสั้น แต่องค์ประกอบพื้นฐานอื่น ๆ ก็เกือบจะเหมือนกัน เมื่อกลุ่มที่มีคะแนนประเมินสูงของสัมพันธภาพระหว่างคู่สมรสเ​​มื่อเทียบกับกลุ่มที่มีคะแนนประเมินต่ำของปัจจัยที่หกประกอบไปด้วยความรู้สึกของความพึงพอใจที่ได้รับจากการอบรมเลี้ยงดูเด็กที่คะแนนการประเมินผลการสนับสนุนทางสังคมของสามี (สนับสนุนจิต; P = 0.000, สนับสนุนด้านข้อมูล; t = 3.81, P = 0.000 และการสนับสนุนเครื่องมือ; p = 0.006) คะแนนการรับรู้ความสามารถตนเอง (p = 0.040) และคะแนนการยอมรับในเชิงบวกและการยืนยันของบทบาทการเป็นมารดา ( p = 0.004) ที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สรุป: เมื่อความรู้สึกของแม่ของความพึงพอใจที่ได้รับจากการอบรมเลี้ยงดูเด็กในช่วงเด็กระยะเวลาการเลี้ยงจะถูกมองจากมุมมองของวิธีการสัมพันธภาพระหว่างคู่สมรสจะมีการประเมินถ้าแม่มีเรื่องสูงสำหรับสัมพันธภาพระหว่างคู่สมรสมีความเชื่อกันว่าเธอจะมีสูง ความรู้สึกที่ดีต่อการอบรมเลี้ยงดูเด็ก ดังนั้นจึงถือได้ว่าเป็นสิ่งจำเป็นที่พยาบาลไม่เพียง แต่ให้คำแนะนำในเด็กโดยเฉพาะการเลี้ยงวิธี แต่ที่พร้อมด้วยความสามารถในการเผชิญปัญหาที่แม่มีการพัฒนาพยาบาลจำเป็นต้องใช้ความสนใจในสัมพันธภาพระหว่างคู่สมรสและถ่ายทอดความสำคัญของการสื่อสาร ระหว่างสามีและภรรยาในบริบทของการสนับสนุนการดูแลเด็ก น้อยกว่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วัตถุประสงค์ : วัตถุประสงค์ของการศึกษาคือเพื่อชี้แจงหรือไม่ว่า มีความแตกต่างในคะแนนของปัจจัยต่าง ๆ ประกอบด้วยความรู้สึกของความพึงพอใจที่ได้รับจากการเลี้ยงดูเด็กในกลุ่มที่มีต่อที่มีสูงและต่ำ ประเมินสัมพันธภาพระหว่างคู่สมรสของพวกเขาในระหว่างขั้นตอนแรกของการเลี้ยงดูเด็ก . วิธีการ : กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้คลอดที่มีต่อโรงพยาบาลทั่วไปในโตเกียว และมารดาทารกที่ 2 ~ 3 เดือนขึ้นไป ประกอบด้วย ( 1 ) แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล ( อายุ จำนวนชั่วโมงของการนอนหลับต่อคืน , อุปกรณ์ป้องกันดวงตา , ฯลฯ ) ; ( 2 ) การวัดการประเมินความสัมพันธ์ระหว่างสามีและภรรยาขนาด ( ขนาดความรักสมรส ) ; และ ( 3 ) แบบสอบถามและแบบวัดปัจจัยต่าง ๆ ประกอบด้วยความรู้สึกของความพึงพอใจที่ได้รับจากการเลี้ยงดูเด็ก [ ความเหนื่อยล้า ( สอบถามเรื่องอาการ ) , การรับรู้ความสามารถของตนเอง ( ระดับความสามารถทั่วไป ) , การรับรู้ความสามารถของตนเองเกี่ยวกับการดูแลเด็ก ( องค์ประกอบหลักของแบบวัดความรู้สึกทางบวกเลี้ยงดูบุตรในระหว่างระยะเวลา Puerperal ) , แบบสอบถามการสนับสนุนทางสังคมจากสามี การยอมรับบทบาทของมารดา ( ขนาดสติแม่ ) , ดัชนีพฤติกรรมของผู้ปกครอง ( pbi ) ] ผล : ผลของการให้การตอบสนองที่ถูกต้องจำนวน 93 ( 93% ) วิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติ เมื่อกลุ่มมีสูงประเมินคะแนนของสัมพันธภาพระหว่างคู่สมรส เมื่อเทียบกับ กลุ่ม มีคะแนนประเมินต่ำ เวลาหลับสั้นลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่องค์ประกอบพื้นหลังอื่น ๆเป็นเกือบเดียวกัน เมื่อกลุ่มมีสูงประเมินคะแนนของสัมพันธภาพระหว่างคู่สมรส เมื่อเทียบกับ กลุ่ม มีคะแนนประเมินต่ำ ของหกปัจจัยประกอบด้วยความรู้สึกของความพึงพอใจที่ได้รับจากการอบรมเลี้ยงดู การประเมินคะแนนการสนับสนุนทางสังคมของสามี ( จิตสนับสนุน ; p = . 000 , สนับสนุนข้อมูล ; t = 3.81 , p = 000 , และการสนับสนุน ; p = . 006 ) คะแนนการรับรู้ความสามารถของตนเอง ( P = . 040 ) และคะแนนการยอมรับในเชิงบวกและคำยืนยันของมารดา ( r = . 004 ) มีค่าสูงกว่า . สรุป : เมื่อถึงความรู้สึกของความพึงพอใจที่ได้รับจากการเลี้ยงดูเด็กในช่วงระยะเวลาในการอบรมเลี้ยงดูเด็ก มองจากมุมมองของวิธีการประเมินสัมพันธภาพระหว่างคู่สมรส คือ ถ้าแม่ได้เรื่องสูงสำหรับสัมพันธภาพระหว่างคู่สมรส และก็เชื่อว่าเธอจะต้องบวกสูงความรู้สึกต่อการอบรมเลี้ยงดู . ดังนั้น จึงถือเป็นสิ่งจำเป็นที่พยาบาลไม่เพียง แต่ให้สอนวิธีการเลี้ยงลูกโดยเฉพาะ แต่ที่ พร้อมกับความสามารถในการเผชิญปัญหา ซึ่งแม่ได้พัฒนา พยาบาลต้องสนใจในความสัมพันธ์สมรสและถ่ายทอดความสำคัญของการสื่อสารระหว่างสามีและภรรยาในบริบทของการสนับสนุนเด็ก . น้อยกว่า