Liquid feeding involves the use of

Liquid feeding involves the use of a diet prepared either from a mixture of liquid food industry by-products and conventional dry materials, or from dry raw materials mixed with water. By definition fermented liquid feed is feed that has been mixed with water, at a ratio ranging from 1:1.5 to 1:4, for a period long enough to reach steady state conditions. If there is almost no time between mixing and feeding or the period for fermentation is too short to reach steady state conditions, the term liquid feed or non-fermented liquid feed is used [1].By mixing with water, lactic acid bacteria and yeasts naturally occurring in various feed ingredients proliferate and produce lactic acid, acetic acid and ethanol which reduces the pH of the mixture [2]. This reduction in pH inhibits pathogenic organisms from developing in the feed [3]. In addition, when this low pH mixture is fed, it reduces the pH in the stomach of pigs and prevents the proliferation of pathogens such as coliforms and Salmonella from developing in the gastrointestinal tract [2].The interest in the fermentation of feed for improving the performance of piglets and pigs increased dramatically after the announcement of the ban in the European Union on the use of antibiotics as antimicrobial growth promoters for swine. The potential of fermented liquid feed, as an alternative to the use of growth promoting antibiotics has been discussed in four recent reviews [1, 2, 4, 5]. In this review, recent information about the use of fermented liquid feed in pigs will be provided.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การให้อาหารเหลวเกี่ยวข้องกับการใช้อาหารที่เตรียมจากส่วนผสมของผลพลอยได้จากอุตสาหกรรมอาหารเหลวและวัสดุแห้งทั่วไป หรือจากวัตถุดิบแห้งผสมกับน้ำ ตามคำจำกัดความ อาหารเหลวหมักคืออาหารที่ผสมกับน้ำในอัตราส่วนตั้งแต่ 1:1.5 ถึง 1:4 เป็นระยะเวลานานพอที่จะถึงสภาวะคงตัว หากแทบไม่มีเวลาระหว่างการผสมและการป้อน หรือระยะเวลาในการหมักสั้นเกินไปที่จะเข้าสู่สภาวะคงตัว จะใช้คำว่า ป้อนของเหลว หรือ ป้อนของเหลวที่ไม่หมัก [1] เมื่อผสมกับน้ำ แบคทีเรียกรดแลคติคและยีสต์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในส่วนผสมอาหารสัตว์ต่างๆ จะขยายตัวและผลิตกรดแลคติค กรดอะซิติก และเอธานอล ซึ่งจะช่วยลดค่า pH ของส่วนผสม [2] การลดลงของค่า pH นี้จะช่วยยับยั้งสิ่งมีชีวิตที่ทำให้เกิดโรคไม่ให้พัฒนาในอาหารสัตว์ [3] นอกจากนี้ เมื่อป้อนส่วนผสม pH ต่ำนี้ จะช่วยลดค่า pH ในกระเพาะอาหารของสุกร และป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค เช่น โคลิฟอร์มและซัลโมเนลลา ไม่ให้พัฒนาในระบบทางเดินอาหาร [2] ความสนใจในการหมักอาหารเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของลูกสุกรและสุกรเพิ่มขึ้นอย่างมากหลังจากการประกาศห้ามในสหภาพยุโรปเกี่ยวกับการใช้ยาปฏิชีวนะเป็นสารส่งเสริมการเจริญเติบโตของยาต้านจุลชีพสำหรับสุกร ศักยภาพของอาหารเหลวหมักซึ่งเป็นทางเลือกแทนการใช้ยาปฏิชีวนะที่ส่งเสริมการเจริญเติบโตได้ถูกกล่าวถึงในการทบทวนวรรณกรรมล่าสุดสี่เรื่อง [1, 2, 4, 5] ในการทบทวนนี้ เราจะให้ข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับการใช้อาหารเหลวหมักในสุกร

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การให้อาหารเหลวเกี่ยวข้องกับการใช้อาหารที่เตรียมจากส่วนผสมของผลิตภัณฑ์พลอยได้จากอุตสาหกรรมอาหารเหลวและวัสดุแห้งแบบดั้งเดิมหรือจากวัตถุดิบแห้งผสมกับน้ำ อาหารเหลวหมักหมายถึงอาหารที่ผสมกับน้ำในอัตราส่วน 1: 1.5 ถึง 1: 4 เป็นเวลานานพอที่จะบรรลุสถานะที่มั่นคง คำว่า การให้อาหารเหลว หรือ การให้อาหารเหลว ที่ไม่ผ่านการหมัก [1] จะใช้ในกรณีที่มีเวลาน้อยระหว่างการผสมและการให้อาหารหรือเวลาในการหมักสั้นเกินไปที่จะบรรลุสถานะที่มั่นคง
ด้วยการผสมกับน้ำแบคทีเรียกรดแลคติกและยีสต์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในส่วนผสมอาหารสัตว์ต่างๆจะแพร่พันธุ์และผลิตกรดแลคติกกรดอะซิติกและเอทานอลซึ่งทำให้ค่า pH ของส่วนผสมลดลง [2] การลดค่า pH ยับยั้งการพัฒนาของจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรคในอาหาร [3] นอกจากนี้เมื่อให้อาหารส่วนผสมที่มีค่า pH ต่ำนี้จะช่วยลดค่า pH ในกระเพาะอาหารหมูและป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคเช่นโคลิฟอร์มและซัลโมเนลลา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การให้อาหารของเหลวประกอบด้วยอาหารที่เตรียมจากส่วนผสมของผลิตภัณฑ์จากอุตสาหกรรมอาหารเหลวและวัสดุอบแห้งแบบเดิมหรืออาหารที่เตรียมจากวัตถุดิบแห้งผสมกับน้ํา ตามคํานิยามอาหารหมักเป็นอาหารที่ผสมกับน้ําในอัตราส่วน1:1,5ถึง1:4เป็นเวลานานพอที่จะบรรลุสภาวะคงที่ หากมีเวลาน้อยมากระหว่างการผสมและการป้อนอาหารหรือระยะเวลาการหมักสั้นเกินไปเพื่อให้บรรลุสภาวะคงที่คําว่าการป้อนของเหลวหรือการป้อนของเหลวที่ไม่หมัก[1]

เมื่อผสมกับน้ําแบคทีเรียกรดแลคติคและยีสต์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในส่วนประกอบอาหารต่างๆจะขยายตัวและผลิตกรดแลคติคกรดอะซิติกและเอทานอลซึ่งจะช่วยลดค่าphของส่วนผสม[2] การลดค่าphช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ที่ทําให้เกิดโรคในอาหารสัตว์[3] นอกจากนี้เมื่อให้อาหารส่วนผสมที่มีค่าphต่ํานี้จะช่วยลดค่าphในกระเพาะอาหารของสุกรและป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเช่นEscherichia coliและsalmonellaแพร่กระจายในระบบทางเดินอาหาร[2]

หลังจากที่สหภาพยุโรปประกาศห้ามใช้ยาปฏิชีวนะเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาต่อต้านจุลินทรีย์ในสุกรความสนใจในอาหารหมักเพื่อปรับปรุงสมรรถนะของลูกสุกรและสุกรเพิ่มขึ้นอย่างมาก ศักยภาพของอาหารเหลวหมักเป็นสารทดแทนยาปฏิชีวนะที่ส่งเสริมการเจริญเติบโตได้รับการกล่าวถึงในการทบทวนสี่ฉบับล่าสุด[ 1,2,4,5 ] ในบทวิจารณ์นี้จะมีการปรับปรุงข้อมูลเกี่ยวกับการใช้อาหารหมักในหมู