WHAT IS REVENUE PERFORMANCE MANAGEM

WHAT IS REVENUE PERFORMANCE MANAGEMENT?

Since the dawn of industry, marketing has been about appealing to people’s emotions.
From memorable TV spots to guerrilla advertising, it’s always been more an art than a science.
Thanks to new technologies including trackable media, companies have the ability to apply rigorous metrics to what was once a matter of taste. Now marketing can be just as accountable as other core business functions, like accounting and operations. Sales and marketing are most companies’ greatest costs, yet few have any real idea of how this spending impacts business growth. Revenue growth is the top priority of most CEOs, leading to higher expectations for all business functions, but in a recent study, 87% of marketers said their current techniques are not hitting performance targets. With better insight into sales and marketing activities, it’s estimated that companies could gain an extra 10% in total annual sales. In other words, marketing is no longer just an art form; it also needs to show that it’s an active generator of revenue, requiring sales and marketing teams to work together like never before. Smart companies are implementing scientific methods to examine how their sales and marketing dollars are spent. The science these smart companies are turning to is called “Revenue Performance Management,” and it’s helped these organizations outpace the S&P 500 Index by 78%. Using Revenue Performance Management methodologies, companies evaluate sales and marketing performance and forecast future revenue by tracking and adjusting five essential metrics … in real time. First, companies evaluate the REACH of a given activity. Marketers must ask themselves, 'How many people are we able to contact ... and how can we make that number grow?' Second, companies need to know the VALUE of each stage in the sales pipeline…… how many prospects are at each particular stage, and how much is each likely to spend. Accurately tracking pipeline value is a key step in reliable forecasting. Third is CONVERSION, which ensures continued progress throughout each stage of the sales cycle. By measuring the rate at which leads move through the pipeline, companies can work out if there are any bottlenecks and where. The next important concept is VELOCITY, involving the accurate measurement of time taken for a prospect to become a customer, including how much time was spent at each intermediate stage. Now more than ever, marketers are figuring out ways to accelerate the process……and how to improve forecasting so it is no longer a guessing game. Finally, RETURN is often the “missing piece” of sales and marketing. By implementing reporting for the whole sales cycle……companies can provide a clear cost of specific marketing and sales activities compared to the revenue they bring in. Marketing is still an art, but new technology allows business leaders to apply science to it like never before. Revenue Performance Management is not just the future of marketing, it’s also the future of business.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จัดการประสิทธิภาพการทำงานรายได้คืออะไรตั้งแต่รุ่งอรุณของอุตสาหกรรม การตลาดได้รับเกี่ยวกับน่าสนใจให้อารมณ์ของคนจากอยู่เป็นโทรทัศน์เพื่อการโฆษณากองโจร เสมอมีศิลป์มากกว่าศาสตร์เพิ่มเติมด้วยเทคโนโลยีใหม่ ๆ รวมทั้งสามารถสื่อ บริษัทมีความสามารถในการใช้วัดอย่างเข้มงวดเพื่ออะไรเคยเรื่องของรสชาติ ตอนนี้ ตลาดได้เพียงเป็นรับผิดชอบเป็นหลักธุรกิจฟังก์ชันอื่น ๆ เช่นบัญชีและการดำเนินงาน ขายและการตลาดเป็นส่วนใหญ่บริษัทต้นทุนมากที่สุด ยังน้อยมีความคิดใด ๆ จริงวิธีนี้ใช้จ่ายผลกระทบธุรกิจเจริญเติบโต รายได้เติบโตเป็นความสำคัญสูงสุดของ CEOs ส่วนใหญ่ การนำไปสู่ฟังก์ชันทั้งหมดของธุรกิจ ความคาดหวังสูง แต่การศึกษาล่าสุด 87% ของนักการตลาดกล่าวว่า เทคนิคของปัจจุบันจะตีเป้าหมายประสิทธิภาพ มีความเข้าใจที่ดีในการขาย และการตลาดกิจกรรม มันคือประมาณว่า บริษัทอาจรับเพิ่ม 10% ในยอดขายประจำปี ในคำอื่น ๆ การตลาดไม่เพียงศิลปะแบบ นอกจากนี้มันยังต้องการแสดงว่า เป็นเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่ใช้งานอยู่ของรายได้ ต้องการขาย และการตลาดกลุ่มคนทำงานด้วยกันเหมือนไม่เคยมาก่อน บริษัทสมาร์ทจะใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์เพื่อตรวจสอบวิธีใช้ดอลลาร์การขาย และการตลาด วิทยาศาสตร์บริษัทสมาร์ทจะเปลี่ยนไปเรียกว่า "การจัดการประสิทธิภาพการทำงานรายได้" และมันได้ช่วยให้องค์กรเหล่านี้ outpace S & P 500 ดัชนี โดย 78% ใช้วิธีการรายได้การจัดการประสิทธิภาพ บริษัทประเมินประสิทธิภาพการขาย และการตลาด และการคาดการณ์รายได้ในอนาคต โดยการติดตาม และปรับปรุงวัดสำคัญห้า...ในเวลาจริง ครั้งแรก บริษัทประเมินถึงกิจกรรมที่กำหนด นักการตลาดต้องถามตัวเอง, ' ไรหลายคนคือเราสามารถที่จะติดต่อ... และวิธีสามารถเราเลขที่เติบโตหรือไม่ ' สอง บริษัทจำเป็นต้องทราบค่าของแต่ละขั้นตอนในไปป์ไลน์การขาย...แนวโน้มจำนวนแต่ละขั้นตอนโดยเฉพาะ และจำนวนแต่ละโอกาสในการใช้จ่าย ติดตามค่าขั้นตอนอย่างถูกต้องเป็นขั้นตอนสำคัญในการคาดการณ์เชื่อถือได้ ที่สาม คือแปลง ที่ความคืบหน้าอย่างต่อเนื่องตลอดเวลาแต่ละขั้นตอนของรอบการขาย โดยการวัดอัตราที่เป้าหมายย้ายผ่านไปป์ไลน์ บริษัทสามารถทำงานออก ถ้ามีเครื่องใด และ แนวคิดสำคัญถัดไปคือ ความเร็ว เกี่ยวข้องกับการวัดถูกต้องของเวลาที่ใช้สำหรับโน้มจะเป็น ลูกค้า รวมถึงจำนวนเวลาใช้ไปในแต่ละขั้นกลาง ตอนนี้มากขึ้นกว่าเดิม นักการตลาดจะหาวิธีการเร่งการ...และวิธีการปรับปรุง การคาดการณ์ดังกล่าวได้ไม่เกม guessing สุดท้าย คืนนั้นมักจะ "ส่วนขาด" ของการขายและการตลาด ด้วยการใช้รายงานสำหรับรอบการขายทั้งหมด...บริษัทให้มีต้นทุนเฉพาะชัดเจนเมื่อเทียบกับรายได้จะนำกิจกรรมการตลาด และการขาย การตลาดยังคงเป็นศิลปะ แต่เทคโนโลยีใหม่ช่วยให้ผู้นำธุรกิจการใช้วิทยาศาสตร์มันเหมือนเมื่อก่อนไม่เคย จัดการประสิทธิภาพการทำงานรายได้ไม่ใช่แค่อนาคตของตลาด ก็ยังเป็นอนาคตของธุรกิจ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สิ่งที่จัดการประสิทธิภาพการทำงานรายได้? ตั้งแต่รุ่งอรุณของอุตสาหกรรมการตลาดได้รับเกี่ยวกับความน่าสนใจกับอารมณ์ความรู้สึกของผู้คนจากสปอตทีวีที่น่าจดจำกับการโฆษณาแบบกองโจรก็ถูกเสมอศิลปะมากกว่าวิทยาศาสตร์มากขึ้นต้องขอบคุณเทคโนโลยีใหม่ ๆ รวมทั้งสื่อติดตาม บริษัท มี ความสามารถในการใช้ตัวชี้วัดอย่างเข้มงวดเพื่อให้สิ่งที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเรื่องของรสชาติ ตอนนี้ตลาดได้เช่นเดียวกับความรับผิดชอบเป็นฟังก์ชั่นธุรกิจหลักอื่น ๆ เช่นการบัญชีและการดำเนินงาน ขายและการตลาดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือค่าใช้จ่ายที่ บริษัท ส่วนใหญ่ 'แต่ไม่กี่มีความคิดที่แท้จริงของวิธีนี้การเติบโตของธุรกิจการใช้จ่ายผลกระทบ เติบโตของรายได้เป็นสำคัญที่สุดของซีอีโอส่วนใหญ่ที่นำไปสู่ความคาดหวังที่สูงขึ้นสำหรับการทำงานทางธุรกิจทั้งหมด แต่ในการศึกษาที่ผ่านมา 87% ของนักการตลาดกล่าวว่าปัจจุบันเทคนิคของพวกเขาจะไม่ได้กดปุ่มเป้าหมายผลการปฏิบัติงาน มีความเข้าใจที่ดีขึ้นในการขายและกิจกรรมการตลาดก็คาดว่า บริษัท จะได้รับเพิ่มอีก 10% ของยอดขายรวมประจำปี ในคำอื่น ๆ , การตลาดเป็นไม่เพียงแค่รูปแบบศิลปะ; ก็ยังต้องการที่จะแสดงว่ามันเป็นเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่ใช้งานของรายได้ซึ่งได้กำหนดให้ทีมขายและทีมการตลาดจะทำงานร่วมกันอย่างที่ไม่เคยมาก่อน บริษัท สมาร์ทมีการดำเนินการวิธีการทางวิทยาศาสตร์ในการตรวจสอบวิธีการขายและการตลาดของพวกเขาดอลลาร์มีการใช้จ่าย วิทยาศาสตร์ บริษัท สมาร์ทเหล่านี้จะเปลี่ยนไปเรียกว่า "รายได้จากการจัดการประสิทธิภาพ" และมันช่วยให้องค์กรเหล่านี้แซงหน้าดัชนี S & P 500 78% โดยใช้วิธีการบริหารผลการปฏิบัติรายได้ บริษัท ประเมินยอดขายและการตลาดที่มีประสิทธิภาพและการคาดการณ์รายได้ในอนาคตโดยการติดตามและปรับห้าตัวชี้วัดที่สำคัญ ... ในเวลาจริง ครั้งแรกที่ บริษัท ประเมิน REACH ของกิจกรรมที่กำหนด นักการตลาดจะต้องถามตัวเองว่า 'วิธีหลายคนที่เราสามารถที่จะติดต่อ ... และวิธีการที่เราสามารถทำให้ตัวเลขที่จะเติบโต?' ประการที่สอง บริษัท จำเป็นต้องรู้ค่าของแต่ละขั้นตอนในการขายท่อ ...... กี่กลุ่มเป้าหมายอยู่ที่ขั้นตอนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในแต่ละครั้งและวิธีการมากเป็นแต่ละมีแนวโน้มที่จะใช้จ่าย อย่างถูกต้องติดตามค่าท่อเป็นขั้นตอนสำคัญในการพยากรณ์ที่เชื่อถือได้ ที่สามคือการแปลงซึ่งทำให้ความคืบหน้าอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งขั้นตอนของวงจรการขายแต่ละ โดยการวัดอัตราที่นำไปสู่การย้ายผ่านท่อที่ บริษัท สามารถทำงานออกหากมีคอขวดใด ๆ และที่ แนวคิดที่สำคัญต่อไปคือความเร็วที่เกี่ยวข้องกับการวัดที่ถูกต้องของเวลาที่มีโอกาสที่จะกลายเป็นลูกค้ารวมถึงวิธีการมากเวลาที่ถูกใช้ไปในแต่ละขั้นตอนกลาง ตอนนี้มากขึ้นกว่าเดิมนักการตลาดจะหาวิธีการที่จะเร่งกระบวนการ ...... และวิธีการปรับปรุงการพยากรณ์จึงเป็นสิ่งที่ไม่ได้คาดเดาเกม สุดท้ายกลับมักจะเป็น "ชิ้นที่หายไป" ของยอดขายและการตลาด โดยการดำเนินการรายงานสำหรับวงจรการขายทั้ง ...... บริษัท สามารถให้บริการที่มีค่าใช้จ่ายที่ชัดเจนของตลาดและการขายกิจกรรมเฉพาะเมื่อเทียบกับรายได้จากการที่พวกเขานำมาใน. การตลาดยังคงเป็นศิลปะ แต่เทคโนโลยีใหม่ช่วยให้ผู้นำทางธุรกิจที่จะใช้วิทยาศาสตร์กับมันไม่เคยมาก่อน . รายได้จากการบริหารผลการปฏิบัติไม่ได้เป็นเพียงอนาคตของการตลาดก็ยังมีของธุรกิจในอนาคต

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อะไรคือการจัดการประสิทธิภาพของรายได้ ?

ตั้งแต่รุ่งอรุณของ อุตสาหกรรม การตลาด ได้รับ เกี่ยวกับ ดูดความรู้สึกของผู้คน จากสถานีโทรทัศน์ที่น่าจดจำ
โฆษณาแบบกองโจร มันชอบทำตัวเป็นศิลปะมากกว่าวิทยาศาสตร์ .
ขอบคุณเทคโนโลยีใหม่รวมทั้งกรสื่อ , บริษัท มีความสามารถในการใช้อย่างเข้มงวดจากสิ่งที่เคยเป็นเรื่องของรสชาติตอนนี้ตลาดสามารถเช่นเดียวกับที่รับผิดชอบเป็นฟังก์ชั่นธุรกิจหลักอื่น ๆ เช่น งานบัญชี และ การขายและการตลาด บริษัท ส่วนใหญ่มากที่สุดค่าใช้จ่าย ยังไม่มีความคิดที่แท้จริงของวิธีการนี้ผลกระทบต่อธุรกิจใช้เติบโต รายได้เติบโตเป็นอันดับแรกของซีอีโอส่วนใหญ่ที่นำไปสู่ความคาดหวังที่สูงขึ้นสำหรับการทำงานในธุรกิจทั้งหมด แต่ในการศึกษาล่าสุด87% ของนักการตลาดกล่าวว่าเทคนิคปัจจุบันของพวกเขาจะตีเป้าหมายการปฏิบัติงาน . กว่าความเข้าใจในกิจกรรมการขายและการตลาด มันประมาณว่า บริษัท จะได้รับเพิ่มอีก 10% ในยอดขายรวม ในคำอื่น ๆการตลาดไม่เพียงรูปแบบศิลปะ นอกจากนี้ยังต้องแสดงให้เห็นว่ามันเป็นเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่ใช้งานของบริษัทต้อง การขายและการตลาดทีมทำงานด้วยกันอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน บริษัทสมาร์ทมีการใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์เพื่อตรวจสอบวิธีการขายและการตลาดดอลลาร์จะใช้ วิทยาศาสตร์บริษัทสมาร์ทเหล่านี้จะเปลี่ยนไปเรียกว่า " การบริหารผลการปฏิบัติงาน รายได้ และมันช่วยให้องค์กรเหล่านี้ตลาด S & P 500 ดัชนี โดย 78%ใช้วิธีการบริหารจัดการรายได้ , การขายและการตลาด บริษัท ประเมินประสิทธิภาพและรายได้ในอนาคตที่คาดการณ์โดยการติดตามและปรับห้าที่สำคัญที่สุด . . . . . . . ในเวลาจริง แรกบริษัทประเมินการเข้าถึงของกิจกรรมเท่านั้น นักการตลาดจะต้องถามตัวเองว่า ' เรามีกันกี่คน สามารถติดต่อ . . . . . . . และวิธีที่เราสามารถสร้างหมายเลขที่เติบโต ? ประการที่สองบริษัทจะต้องรู้ค่าของแต่ละขั้นตอนในการขายท่อ . . . . . . . กี่กลุ่มเป้าหมายในแต่ละขั้นตอนและวิธีการมากแต่ละมีแนวโน้มที่จะใช้จ่าย ถูกต้องติดตามค่าท่อ เป็นขั้นตอนสำคัญในการพยากรณ์ที่เชื่อถือได้ ที่สามคือการแปลง ซึ่งช่วยให้ความคืบหน้าอย่างต่อเนื่องตลอดขั้นตอนของแต่ละรอบการขาย โดยการวัดอัตราที่นำเคลื่อนที่ผ่านท่อ ,บริษัท สามารถทำงานได้หากมีปัญหาคอขวด และที่ไหน แนวคิดที่สำคัญต่อไปคือความเร็วที่เกี่ยวข้องกับการวัดที่ถูกต้องของเวลาที่นำโอกาสที่จะกลายเป็นลูกค้า รวมถึงวิธีการมากเวลาที่ใช้ในแต่ละขั้นกลางเวที ตอนนี้มากขึ้นกว่าที่เคย นักการตลาดจะหาวิธีที่จะเร่งกระบวนการ . . . . . . . และวิธีการปรับปรุงการพยากรณ์จึงไม่มีการคาดเดาเกมสุดท้าย กลับมักจะเป็น " ที่หายไป " ของการขายและการตลาด โดยการใช้รายงานสำหรับรอบการขายทั้งหมด . . . . . . . บริษัทสามารถให้ต้นทุนที่ชัดเจนของการตลาดและกิจกรรมส่งเสริมการขายที่เฉพาะเจาะจง เมื่อเปรียบเทียบกับรายได้ที่พวกเขานำใน ตลาดยังคงเป็นศิลปะ แต่เทคโนโลยีใหม่ช่วยให้ผู้นำธุรกิจที่ใช้วิทยาศาสตร์ไปอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนการบริหารผลการปฏิบัติงาน รายได้ ไม่ใช่แค่อนาคตของการตลาด มันยังเป็นอนาคตของธุรกิจ .