Hematological disorders. Azoulay an

Hematological disorders. Azoulay and coworkers (111) report
20 patients with respiratory impairment as the presenting
manifestation of undiagnosed acute monocytic leukemia. All of
the patients had myeloid leukemia of the AML5 subtype. The
median leukocyte count was 98,250 per mm3 and all but one
patient had circulating monocytic cells. Patients presented with
a respiratory rate of 33 breaths per minute, Po2 (room air) of
45 mm Hg, and variable changes on chest X-ray. Alveolar hemorrhage
was the main finding on bronchoalveolar lavage. Respiratory
function deteriorated in every patient with a few hours of
starting chemotherapy. Ten of 15 patients requiring mechanical
ventilation died. The authors conclude that acute pulmonary
infiltration resulting in respiratory failure can be the presenting
manifestation of acute monocytic leukemia, and that patients
require intensive management in anticipation of deterioration
after commencing chemotherapy.
More than 40% of patients who develop acute chest syndrome
secondary to sickle cell disease have fat droplets in their alveolar
macrophages, which are suggestive of pulmonary fat embolism.
To determine the reliability of induced sputum for diagnosing
fat embolism, Lechapt and coworkers (112) did two studies. In
20 patients with acute chest syndrome, the number of Oil Red
O–stained macrophages in induced sputum was correlated with
the number in bronchoalveolar lavage fluid (Spearman’s coeffi-
cient, 0.66). In a second group of 60 patients with episodes of
acute chest syndrome, sputum induction was successful in 47
patients. A diagnosis of pulmonary fat embolism (based on 5%
of macrophages staining with Oil Red O) was made in 29 of the
47 patients with acute chest syndrome (61.7%) and none of 9
patients who did not have acute chest syndrome. Compared
with patients who had acute chest syndrome but did not have
pulmonary fat embolism, the patients with fat embolism were
more likely to have additional extrathoracic pain (76 versus
50%), neurologic symptoms (7 versus 0%), abnormal transaminases
(28 versus 17%), and a lower differential platelet count
(49 versus 85). The authors conclude that staining of induced
sputum is a useful test for diagnosing pulmonary fat embolism
in patients who have acute chest syndrome secondary to sickle
cell disease.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความผิดปกติของ hematological Azoulay และคณะรายงาน (111)20 ผู้ป่วยที่ มีความบกพร่องทางระบบการหายใจเป็นการนำเสนอประกาศของมะเร็งเม็ดเลือดขาว monocytic เฉียบพลัน undiagnosed ทั้งหมดผู้ป่วยที่มีมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด มีชนิดย่อย AML5 การจำนวนเม็ดเลือดขาวของมัธยฐานคือ 98,250 ต่อเดือน 3 และทั้งหมด แต่หนึ่งผู้ป่วยที่มีการหมุนเวียนเซลล์ monocytic ผู้ป่วยที่มีอัตราการหายใจที่ 33 หายใจต่อนาที Po2 (ห้องแอร์) ของการเปลี่ยนแปลง 45 mm Hg และตัวแปรในการตรวจเอกซเรย์ทรวงอก ปุ่มเหงือกเลือดออกมีการค้นพบหลักบน lavage อาหาร bronchoalveolar ระบบทางเดินหายใจฟังก์ชันที่ทรุดลงในผู้ป่วยทุกกี่ชั่วโมงเริ่มเคมีบำบัด สิบของ 15 ผู้ป่วยที่ต้องใช้จักรกลระบายอากาศเสียชีวิต ผู้เขียนสรุปว่า เฉียบพลันปอดนำเสนอการแทรกซึมส่งผลให้การหายใจล้มเหลวได้ของมะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลัน monocytic และผู้ป่วยที่ต้องเร่งรัดจัดการการเสื่อมสภาพหลังจากเป็นต้นไปเคมีบำบัดมากกว่า 40% ของผู้ป่วยที่พัฒนากลุ่มอาการหน้าอกเฉียบพลันรองโรคเคียวเซลล์มีหยดไขมันในถุงของพวกเขาแมโครฟาจ ซึ่งเป็นการชี้นำของปอดเส้นเลือดไขมันการตรวจสอบความน่าเชื่อถือให้เกิดเสมหะการวินิจฉัยไขมันเส้นเลือดอุดตัน Lechapt และเพื่อนร่วมงาน (112) ได้ศึกษาสอง ใน20 ผู้ป่วย มีอาการหน้าอกเฉียบพลัน จำนวนน้ำมันแดงO – ย้อมแมโครฟาจในเสมหะเหนี่ยวนำมีความสัมพันธ์กับหมายเลขใน bronchoalveolar lavage อาหารน้ำมัน (ของ Spearman coefficient, 0.66) ในกลุ่มที่สองผู้ป่วย 60 มีตอนของอาการหน้าอกเฉียบพลัน เสมหะเหนี่ยวนำประสบความสำเร็จใน 47ผู้ป่วย การวินิจฉัยปอดเส้นเลือดไขมัน (คะแนน 5%การย้อมสี ด้วยน้ำมันสีแดง O แมโครฟาจ) ทำใน 29 ของการผู้ป่วยกลุ่มอาการหน้าอกเฉียบพลัน (61.7%) และไม่มี 9 47ผู้ป่วยที่ไม่มีอาการหน้าอกเฉียบพลัน เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ป่วยที่มีอาการหน้าอกเฉียบพลัน แต่ไม่มีปอดไขมันเส้นเลือด ผู้ป่วยที่ มีไขมันเส้นเลือดอุดตันได้โน้มที่จะปวดเพิ่มเติม extrathoracic (76 เมื่อเทียบกับ50%), อาการในยุค (7 กับ 0%) transaminases ผิดปกติ(28 เมื่อเทียบกับ 17%), และการนับเกล็ดเลือดต่างที่ต่ำกว่า(49 เทียบกับ 85) ผู้เขียนสรุปว่า ย้อมสีของเกิดเสมหะเป็นการทดสอบที่เป็นประโยชน์สำหรับการวินิจฉัยปอดไขมันเส้นเลือดในผู้ป่วย ที่มีอาการเฉียบพลันอกรอง sickleโรคเซลล์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความผิดปกติทางโลหิตวิทยา Azoulay และเพื่อนร่วมงาน (111) รายงาน
ผู้ป่วย 20 มีความบกพร่องทางระบบทางเดินหายใจเป็นการนำเสนอ
การประกาศของวินิจฉัยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลัน monocytic ทั้งหมดของ
ผู้ป่วยที่มีมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดของชนิดย่อย AML5
นับเม็ดเลือดขาวแบ่งเป็น 98,250 ต่อ mm3 และทั้งหมด แต่หนึ่งใน
ผู้ป่วยที่มีการไหลเวียนของเซลล์ monocytic ผู้ป่วยที่นำเสนอด้วย
อัตราการหายใจ 33 ครั้งต่อนาที PO2 (ห้องปรับอากาศ) ของ
45 มิลลิเมตรปรอทและการเปลี่ยนแปลงตัวแปรบนหน้าอก X-ray เลือดออกในถุง
เป็นหลักในการค้นพบล้างหลอดลม ระบบทางเดินหายใจ
ฟังก์ชั่นที่เสื่อมสภาพในผู้ป่วยทุกคนที่มีไม่กี่ชั่วโมงของการ
เริ่มต้นรักษาด้วยเคมีบำบัด หนึ่งในสิบของ 15 ผู้ป่วยที่ต้องใช้เครื่องจักรกล
ระบายอากาศเสียชีวิต ผู้เขียนสรุปว่าที่ปอดอย่างเฉียบพลัน
แทรกซึมส่งผลให้ในการหายใจล้มเหลวสามารถนำเสนอ
การประกาศของโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว monocytic เฉียบพลันและว่าผู้ป่วยที่
จำเป็นต้องมีการจัดการอย่างเข้มข้นในความคาดหมายของการเสื่อมสภาพ
หลังจากเริ่มรักษาด้วยเคมีบำบัด.
มากกว่า 40% ของผู้ป่วยที่พัฒนาซินโดรมหน้าอกเฉียบพลัน
รองเซลล์เคียว โรคมีหยดไขมันในถุงของพวกเขา
ขนาดใหญ่ซึ่งเป็นแนวทางของไขมันอุดตันเส้นเลือดปอด.
เพื่อตรวจสอบความน่าเชื่อถือของเสมหะเหนี่ยวนำสำหรับการวินิจฉัย
ไขมันอุดตันเส้นเลือด, Lechapt และเพื่อนร่วมงาน (112) ได้ศึกษาทั้งสอง ใน
20 ผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บหน้าอกเฉียบพลันจำนวนน้ำมันสีแดง
ขนาดใหญ่ O-สีในเสมหะเหนี่ยวนำให้เกิดความสัมพันธ์กับ
ตัวเลขที่อยู่ในของเหลวล้างหลอดลม (ที่สเปียร์แมน coeffi-
ประสิทธิภาพ, 0.66) ในกลุ่มที่สองของ 60 ผู้ป่วยที่มีเอพ
ซินโดรมหน้าอกเฉียบพลัน, การเหนี่ยวนำเสมหะประสบความสำเร็จใน 47
ผู้ป่วย การวินิจฉัยของไขมันอุดตันเส้นเลือดปอด (ขึ้นอยู่กับ 5%
ของขนาดใหญ่การย้อมสีน้ำมันสีแดง O) ที่ถูกสร้างขึ้นใน 29 ของ
ผู้ป่วยที่ 47 ที่มีอาการเจ็บหน้าอกเฉียบพลัน (61.7%) และไม่มีของ 9
ผู้ป่วยที่ไม่ได้มีอาการของโรคหน้าอกเฉียบพลัน เมื่อเทียบ
กับผู้ป่วยที่มีอาการของโรคหน้าอกเฉียบพลัน แต่ไม่ได้มี
ไขมันอุดตันเส้นเลือดปอดผู้ป่วยที่มีไขมันอุดตันเส้นเลือดมี
แนวโน้มที่จะมีอาการปวดเพิ่มเติม extrathoracic (76 เมื่อเทียบกับ
50%) อาการทางระบบประสาท (7 เมื่อเทียบกับ 0%) transaminases ผิดปกติ
(28 เมื่อเทียบกับ 17%) และค่าต่ำนับเกล็ดเลือด
(? 49 เมื่อเทียบกับ 85) ผู้เขียนสรุปการย้อมสีที่เหนี่ยวนำให้เกิด
เสมหะคือการทดสอบที่มีประโยชน์สำหรับการวินิจฉัยไขมันอุดตันเส้นเลือดปอด
ในผู้ป่วยที่มีอาการของโรคหน้าอกเฉียบพลันรองเคียว
โรคเซลล์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความผิดปกติทางโลหิตวิทยา . azoulay และเพื่อนร่วมงาน ( 111 ) รายงาน20 ผู้ป่วยหายใจบกพร่องเป็นเสนอการ monocytic undiagnosed เฉียบพลันมะเร็งเม็ดเลือดขาว ทั้งหมดของผู้ป่วยลูคีเมียของ aml5 มีทั้ง . ที่นับเม็ดโลหิตขาวกลางคือ 98250 ต่อมม. และทั้งหมด แต่หนึ่งผู้ป่วยมี monocytic เซลล์กระจายออกไป ผู้ป่วยที่นำเสนอด้วยอัตราการหายใจของ 33 ครั้งต่อนาที po2 ( ห้องแอร์ ) ของ45 มม. ปรอท และตัวแปรในการเอกซเรย์ทรวงอก ยุคหินกลางเป็นหลักในการเสริมการ . ทางเดินหายใจฟังก์ชันต่างๆในผู้ป่วยทุก 2-3 ชั่วโมงเริ่มการรักษาเคมีบำบัด 10 15 ผู้ป่วยที่ต้องการเครื่องจักรกลระบายอากาศเสีย ผู้เขียนสรุปได้ว่าปอดแบบเฉียบพลันการแทรกซึมที่เกิดขึ้นในระบบทางเดินหายใจล้มเหลวได้เสนอการ monocytic ลูคีเมียเฉียบพลัน และผู้ป่วยต้องจัดการอย่างเข้มข้นในความคาดหมายของการเสื่อมสภาพหลังจากเริ่มการรักษาเคมีบำบัดกว่า 40% ของผู้ป่วยที่มีโรคพัฒนาหน้าอกเฉียบพลันโรคเคียวเซลล์รองมีหยดไขมันในเบ้าฟันแมคโครฟาจ ซึ่งเป็นข้อเสนอของไขมันอุดตันในปอดการตรวจสอบความน่าเชื่อถือของเสมหะและการวินิจฉัยโรคไขมันอุดตันใน lechapt , และเพื่อนร่วมงาน ( 112 ) เคยศึกษา ใน20 ผู้ป่วยซินโดรมหน้าอกเฉียบพลัน , จํานวนของน้ำมันสีแดงo การย้อมเสมหะและ macrophages ในมันสัมพันธ์กับจำนวนของของเหลว ( เสริมการใช้ coeffi -cient , 0.66 ) ในกลุ่มของผู้ป่วยตอน 60กลุ่มอาการหน้าอกเฉียบพลัน ตรวจเสมหะ ประสพความสำเร็จ ใน 47ผู้ป่วย การวินิจฉัยของไขมันอุดตันในปอด ( จาก 5 เปอร์เซ็นต์ของ macrophages คราบน้ำมันสีแดง O ) เกิดขึ้นใน 29 ของผู้ป่วยที่มีอาการเฉียบพลัน 47 หน้าอก ( 61.7 % ) และไม่มี 9ผู้ป่วยที่ไม่ได้มีอาการหน้าอกเฉียบพลัน เปรียบเทียบกับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงแต่ไม่มีหน้าอกไขมันอุดตันในปอด , ผู้ป่วยมองโกลอยด์คือน่าจะมีความเจ็บปวด extrathoracic เพิ่มเติม ( 76 เมื่อเทียบกับอาการทางประสาท ( 50% ) , เมื่อเทียบกับ 7 0 % ) , ทรานส มิเนส ผิดปกติ( 28 และ 17 % ) และ ค่าเกล็ดเลือดลดลง( 49 เมื่อเทียบกับ 85 ) ผู้เขียนสรุปว่า staining )เสมหะคือการทดสอบที่มีประโยชน์ในการวินิจฉัยไขมันอุดตันในปอดในผู้ป่วยที่มีอาการเฉียบพลันหน้าอกรอง เคียวโรคเซลล์