While Lehmann (1962) found 50 to 60

While Lehmann (1962) found 50 to 60 kg to be the most efficient load to carry, smaller ones are more convenient and are'safer' for the body (as discussed below ) but require more journeys and carrying one's own body weight to and fro increases the total consumption of energy, of course, the carried weight might be broken into smaller portions which can be attached to the back, the shoulders, the chest or even be put on the head. Carrying a medium load (of about 30 kg) distributed on the back and chest is the least energy consuming, as Table 6.4 shows

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในขณะที่ Lehmann (1962) พบ 50-60 กิโลกรัมให้ โหลดมีประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อดำเนินการ คนเล็กจะสะดวกกว่า และ are'safer' สำหรับร่างกาย (ตามที่อธิบายไว้ด้านล่าง) แต่ต้องการเพิ่มเติมเจอร์นีย์ และแบกตัวเองน้ำหนักดิก ๆ เพิ่มรวมปริมาณการใช้พลังงาน แน่นอน มีน้ำหนักอาจแบ่งเป็นส่วนเล็ก ๆ ที่สามารถแนบกับด้านหลังไหล่ หน้าอก หรือแม้แต่ใส่บนหัว กำลังโหลดปานกลาง (จากประมาณ 30 กิโลกรัม) กระจายบนหลังและหน้าอกเป็นพลังงานน้อยที่สุดที่ใช้งาน แสดงตาราง 6.4

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในขณะที่มาห์ (1962) พบว่า 50 ถ​​ึง 60 กก. ที่จะเป็นภาระที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการพกพาขนาดเล็กมีความสะดวกมากขึ้นและ are'safer 'สำหรับร่างกาย (ตามที่กล่าวไว้ด้านล่าง) แต่ต้องเดินทางมากขึ้นและแบกน้ำหนักตัวของตัวเองหนึ่งเทียวไปเทียวมา เพิ่มการบริโภครวมของพลังงานของหลักสูตรน้ำหนักดำเนินอาจจะมีการแบ่งออกเป็นส่วนเล็กซึ่งสามารถติดกับหลังไหล่หน้าอกหรือแม้แต่จะใส่บนหัว แบกภาระกลาง (ประมาณ 30 กก.) กระจายอยู่บนหลังและหน้าอกเป็นบริโภคพลังงานน้อยเป็นตารางที่ 6.4 แสดงให้เห็นว่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ขณะที่ เลห์มันน์ ( 1962 ) พบ 50 ถึง 60 กิโลกรัม จะ โหลด ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการพกพาขนาดเล็กมีความสะดวกสบายมากขึ้น และ are'safer ' สำหรับร่างกาย ( ตามที่กล่าวไว้ด้านล่าง ) แต่ต้องมีการเดินทางมากขึ้น และแบกน้ำหนักตัวของตนเองไปมา เพิ่มการบริโภครวมของพลังงาน , แน่นอน , แบกน้ำหนักอาจจะแบ่งออกเป็นส่วนเล็ก ๆที่สามารถแนบกับหลัง , ไหล่หน้าอก หรือแม้แต่จะใส่ศีรษะ ถือขนาดกลางโหลด ( ประมาณ 30 กก. ) กระจายบนหลังและหน้าอกเป็นพลังงานอย่างน้อยนาน เป็นตารางที่ 6.4 แสดง