ABSTRACTAims/Introduction: There ar

ABSTRACT
Aims/Introduction: There are sparse and limited studies on erythrocyte morphology
in renal biopsy identifying nephropathic patients among type 2 diabetics. The present
study sought to clarify the predictive value of dysmorphic erythrocytes in type 2 diabetics
with non-diabetic renal disease and influences on hematuria.
Materials and Methods: We examined 198 patients with type 2 diabetes who underwent
kidney biopsies between 2012 and 2013. Hematuria was defined as >3 or >10 red
blood cells per high-power field (RBCs/hpf) in urine sediment. If >80% of the erythrocytes
were dysmorphic, glomerular hematuria was diagnosed. Clinical findings and predictive
value of dysmorphic erythrocytes were compared between patients with hematuria
(n = 19) and those without (n = 61). The potential risk factors for hematuria among
diabetic nephropathy patients were also screened.
Results: There was a statistically significant difference between the diabetic nephropathy
group and the non-diabetic renal disease group (6.6 vs 16.8%; P = 0.04) when the demarcation
point of hematuria was 10 RBCs/hpf. When the definition of hematuria was based
on an examination of urinary erythrocyte morphology, a marked difference was seen (3.3
vs 24.8%; P < 0.001). Glomerular hematuria showed high specificity and a positive predictive
value (0.97 and 0.94, respectively) in non-diabetic renal disease. A multivariate analysis
showed that nephrotic syndrome was significantly associated with hematuria (odds ratio
3.636; P = 0.034).
Conclusions: Dysmorphic erythrocytes were superior to hematuria for indicating
non-diabetic renal disease in type 2 diabetics. Nephrotic syndrome was an independent
risk factor for hematuria.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทคัดย่อมีจุดมุ่งหมาย/แนะนำ: มีห่าง และจำกัดการศึกษาสัณฐานวิทยาของเม็ดเลือดแดงในการตรวจชิ้นเนื้อไตในการระบุผู้ป่วย nephropathic ระหว่างเบาหวานชนิดที่ 2 ปัจจุบันขอเรียนชี้แจงค่าทำนายของเม็ดเลือดแดงหรืออวัยวะในเบาหวานชนิดที่ 2โรคไตโรคเบาหวานไม่ใช่และอิทธิพลที่มีต่อ hematuriaวัสดุและวิธีการ: เราตรวจสอบ 198 ผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ได้รับประสาทการตรวจชิ้นเนื้อของไตระหว่าง 2555 และ 2556 กำหนดเป็น hematuria > 3 หรือ > 10 สีแดงเซลล์เม็ดเลือดต่อกำลังสูง (RBCs hpf) ในตะกอนปัสสาวะ ถ้า > 80% ของเม็ดเลือดแดงได้หรืออวัยวะ hematuria บ่งบอกมีการวินิจฉัย ผลการวิจัยทางคลินิก และระบบค่าของเม็ดเลือดแดงหรืออวัยวะเปรียบเทียบระหว่างผู้ป่วยกับ hematuria(n = 19) และผู้ที่ไม่มี (n = 61) ปัจจัยเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นสำหรับ hematuria ในหมู่นอกจากนี้ยังได้ตรวจผู้ป่วยโรคไตเบาหวานผลลัพธ์: มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระหว่างโรคไตเบาหวานกลุ่มและกลุ่มเป็นโรคเบาหวานโรคไต (6.6 กับ 16.8% P = 0.04) เมื่อแบ่งเขตจุดของ hematuria เป็น 10 RBCs/hpf เมื่อตามคำนิยามของ hematuriaในการตรวจสอบสัณฐานวิทยาของเม็ดเลือดแดงปัสสาวะ ความแตกต่างที่ทำเครื่องหมายถูกเห็น (3.3เทียบกับ 24.8% P < 0.001) Hematuria บ่งบอกที่แสดงให้เห็นว่าความสูงและค่าบวกคาดการณ์ค่า (0.94 และ 0.97 ตามลำดับ) ในโรคไตโรคเบาหวานไม่ใช่ การวิเคราะห์ตัวแปรพหุพบว่า กลุ่มอาการโรคไตที่ถูกเชื่อมโยงอย่างมากกับ hematuria (อัตราส่วนราคาต่อรอง3.636 P = 0.034)บทสรุป: เม็ดเลือดแดงหรืออวัยวะถูกกว่า hematuria สำหรับการระบุไม่ใช่โรคเบาหวานโรคไตในเบาหวานชนิดที่ 2 โรคไตเป็นอิสระปัจจัยเสี่ยงสำหรับ hematuria

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทคัดย่อ
จุดมุ่งหมาย / บทนำ: มีการศึกษาเบาบางและ จำกัด ในเม็ดเลือดแดงสัณฐานเป็น
ในการตรวจชิ้นเนื้อไตระบุผู้ป่วย nephropathic ในหมู่ผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ปัจจุบัน
การศึกษาพยายามที่จะชี้แจงค่าพยากรณ์ของเม็ดเลือดแดง Dysmorphic ในผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2
ที่มีโรคไตไม่ได้เป็นเบาหวานและมีอิทธิพลในปัสสาวะ.
วัสดุและวิธีการ: เราตรวจสอบผู้ป่วย 198 เบาหวานชนิดที่ 2 ที่ได้รับการ
ตรวจชิ้นเนื้อไตระหว่างปี 2012 และปี 2013 ได้รับการปัสสาวะ กำหนดให้เป็น> 3 หรือ> 10 สีแดง
เม็ดเลือดต่อข้อมูลพลังงานสูง (เม็ดเลือดแดง / HPF) ในปัสสาวะตะกอน ถ้า> 80% ของเม็ดเลือดแดง
มี Dysmorphic ปัสสาวะไตได้รับการวินิจฉัย ผลการวิจัยทางคลินิกและการคาดการณ์
ค่าของเม็ดเลือดแดง Dysmorphic ถูกนำมาเปรียบเทียบระหว่างผู้ป่วยที่มีปัสสาวะ
(n = 19) และผู้ที่ไม่มี (n = 61) ปัจจัยเสี่ยงที่มีศักยภาพสำหรับการปัสสาวะในหมู่
ผู้ป่วยโรคไตโรคเบาหวานนอกจากนี้ยังได้รับการคัดกรอง.
ผล: มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระหว่างโรคไตโรคเบาหวานเป็น
กลุ่มและไม่ได้เป็นเบาหวานกลุ่มโรคไตวายเรื้อรัง (6.6 VS 16.8%; p = 0.04) เมื่อแบ่งเขต
จุด ปัสสาวะเป็น 10 เม็ดเลือดแดง / HPF เมื่อความหมายของปัสสาวะมีพื้นฐาน
ในการตรวจสอบลักษณะทางสัณฐานวิทยาของเม็ดเลือดแดงในปัสสาวะเป็นความแตกต่างที่เห็น (3.3
VS 24.8%; p <0.001) ปัสสาวะ glomerular แสดงให้เห็นความจำเพาะสูงและบวกทำนาย
ค่า (0.97 และ 0.94 ตามลำดับ) ในผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังไม่ได้เป็นเบาหวาน การวิเคราะห์หลายตัวแปร
แสดงให้เห็นว่ากลุ่มอาการของโรคไตมีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญกับปัสสาวะ (odds ratio
3.636; p = 0.034).
สรุปเม็ดเลือดแดง Dysmorphic ได้ดีกว่าปัสสาวะสำหรับบ่งบอก
โรคไตวายเรื้อรังไม่ได้เป็นเบาหวานในผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 กลุ่มอาการของโรคไตเป็นอิสระ
ปัจจัยเสี่ยงสำหรับปัสสาวะ