(Table 3) shows that the compost ha

(Table 3) shows that the compost had nitrogen (2.4%) and phosphate (3.49%).While nitrogen is needed by plants for vegetative growth and enzymatic reactions, phosphate is required for seed production and root development. The nitrogen in the compost was mainly ammonium nitrogen and could be lost by ammonia volatisation. The storage and application of the composted digestate should therefore be carefully controlled to prevent negative environmental impacts.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

(ตาราง 3) แสดงว่า ปุ๋ยนี้มีไนโตรเจน (2.4%) และฟอสเฟต (3.49%)ขณะที่ไนโตรเจนจำเป็นต้องใช้พืชผักเรื้อรังการเจริญเติบโตและปฏิกิริยาที่เอนไซม์ในระบบ ฟอสเฟตจะต้องผลิตเมล็ดพันธุ์และการพัฒนาของราก ไนโตรเจนในปุ๋ยมีไนโตรเจนแอมโมเนียส่วนใหญ่ และอาจหายไป โดยแอมโมเนีย volatisation เก็บข้อมูลและโปรแกรมประยุกต์ composted digestate ควรดังนั้นระมัดระวังควบคุมเพื่อป้องกันผลกระทบสิ่งแวดล้อมลบ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

(ตารางที่ 3) แสดงให้เห็นว่าปุ๋ยหมักมีไนโตรเจน (2.4%) และฟอสเฟต (3.49%). ในขณะที่ไนโตรเจนเป็นสิ่งจำเป็นโดยพืชสำหรับการเจริญเติบโตและปฏิกิริยาของเอนไซม์ฟอสเฟตเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการผลิตเมล็ดพันธุ์และการพัฒนาราก ไนโตรเจนในปุ๋ยหมักส่วนใหญ่เป็นไนโตรเจนแอมโมเนียและอาจจะหายไปโดย volatisation แอมโมเนีย การจัดเก็บข้อมูลและการประยุกต์ใช้ย่อยสลายหมักดังนั้นจึงควรมีการควบคุมอย่างระมัดระวังเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในเชิงลบ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

( ตารางที่ 3 ) พบว่า ปุ๋ยหมักมีไนโตรเจน ( 2.4% ) และฟอสเฟต ( 3.49 ล้านบาท ในขณะที่ไนโตรเจนจำเป็นโดยพืชที่มีการเจริญเติบโตทางลำต้นและเอนไซม์ , ฟอสเฟตเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการผลิตเมล็ดพันธุ์และการพัฒนาราก ไนโตรเจนในปุ๋ยแอมโมเนียมไนโตรเจนเป็นหลัก และอาจจะหายไปโดยแอมโมเนีย volatisation .การจัดเก็บและการประยุกต์ใช้ digestate หมักจึงควรรอบคอบ ควบคุมป้องกันผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมเชิงลบ