Tectonic SummaryEarthquakes in the

Tectonic Summary
Earthquakes in the Stable Continental Region
Natural Occurring Earthquake Activity
Most of North America east of the Rocky Mountains has infrequent earthquakes. Here and there earthquakes are more numerous, for example in the New Madrid seismic zone centered on southeastern Missouri, in the Charlevoix-Kamouraska seismic zone of eastern Quebec, in New England, in the New York - Philadelphia - Wilmington urban corridor, and elsewhere. However, most of the enormous region from the Rockies to the Atlantic can go years without an earthquake large enough to be felt, and several U.S. states have never reported a damaging earthquake.
Earthquakes east of the Rocky Mountains, although less frequent than in the West, are typically felt over a much broader region than earthquakes of similar magnitude in the west. East of the Rockies, an earthquake can be felt over an area more than ten times larger than a similar magnitude earthquake on the west coast. It would not be unusual for a magnitude 4.0 earthquake in eastern or central North America to be felt by a significant percentage of the population in many communities more than 100 km (60 mi) from its source. A magnitude 5.5 earthquake in eastern or central North America might be felt by much of the population out to more than 500 km (300 mi) from its source. Earthquakes east of the Rockies that are centered in populated areas and large enough to cause damage are, similarly, likely to cause damage out to greater distances than earthquakes of the same magnitude centered in western North America.
Most earthquakes in North America east of the Rockies occur as faulting within bedrock, usually miles deep. Few earthquakes east of the Rockies, however, have been definitely linked to mapped geologic faults, in contrast to the situation at plate boundaries such as California's San Andreas fault system, where scientists can commonly use geologic evidence to identify a fault that has produced a large earthquake and that is likely to produce large future earthquakes. Scientists who study eastern and central North America earthquakes often work from the hypothesis that modern earthquakes occur as the result of slip on preexisting faults that were formed in earlier geologic eras and that have been reactivated under the current stress conditions. The bedrock of Eastern North America is, however, laced with faults that were active in earlier geologic eras, and few of these faults are known to have been active in the current geologic era. In most areas east of the Rockies, the likelihood of future damaging earthquakes is currently estimated from the frequencies and sizes of instrumentally recorded earthquakes or earthquakes documented in historical records.
Induced Seismicity
As is the case elsewhere in the world, there is evidence that some central and eastern North America earthquakes have been triggered or caused by human activities that have altered the stress conditions in earth's crust sufficiently to induce faulting. Activities that have induced felt earthquakes in some geologic environments have included impoundment of water behind dams, injection of fluid into the earth's crust, extraction of fluid or gas, and removal of rock in mining or quarrying operations. In much of eastern and central North America, the number of earthquakes suspected of having been induced is much smaller than the number of natural earthquakes, but in some regions, such as the south-central states of the U.S., a significant majority of recent earthquakes are thought by many seismologists to have been human-induced. Even within areas with many human-induced earthquakes, however, the activity that seems to induce seismicity at one location may be taking place at many other locations without inducing felt earthquakes. In addition, regions with frequent induced earthquakes may also be subject to damaging earthquakes that would have occurred independently of human activity. Making a strong scientific case for a causative link between a particular human activity and a particular sequence of earthquakes typically involves special studies devoted specifically to the question. Such investigations usually address the process by which the suspected triggering activity might have significantly altered stresses in the bedrock at the earthquake source, and they commonly address the ways in which the characteristics of the suspected human-triggered earthquakes differ from the characteristics of natural earthquakes in the region.
Impact Text
Felt (IV) at Dallas and Irving; (III) at Addison, Arlington, Carrollton, Coppell, Flower Mound, Fort Worth, Frisco, Garland, Grand Prairie, Grapevine, Hurst, Lewisville, Plano, Richardson, Sachse and The Colony; (II) at Allen, Bedford, Denton, Mesquite, Rowlett and Wylie. Also felt at Abilene, Anna, Argyle, Aubrey, Austin, Burleson, Colleyville, Desoto, Duncanville, Euless, Forney, Lancaster, Little Elm, Mansfield, Newark, North Richland HIlls, Princeton, Ravenna, Roanoke, Rockwall, San Antonio, Southlake and Sunnyvale.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สรุปการเคลื่อนเกิดแผ่นดินไหวในภูมิภาคยุโรปมั่นคงกิจกรรมแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติที่สุดของอเมริกาเหนือทางตะวันออกจากเทือกเขาร็อกกีเกิดแผ่นดินไหวไม่ได้ ที่นี่และมีแผ่นดินไหวมีจำนวนมากขึ้น เช่นในเขตธรณีมาดริดใหม่ศูนย์กลางในมิสซูรีตะวันออกเฉียงใต้ ในเขตธรณี Charlevoix Kamouraska ของควิเบกตะวันออก ในนิวอิงแลนด์ ในทางการเมืองวิลมินิวยอร์ก -ฟิลาเดลเฟีย - และอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่ของภูมิภาคมหาศาลจาก Rockies มหาสมุทรแอตแลนติกสามารถไปปีแผ่นดินไหวขนาดใหญ่เพียงพอที่จะมีความรู้สึก และหลายสหรัฐอเมริกาไม่เคยมีรายงานแผ่นดินไหวความเสียหายเกิดแผ่นดินไหวทางตะวันออกจากเทือกเขาร็อกกี แม้ว่าพบได้น้อยกว่าตะวันตก มีปกติรู้สึกกว่ามีมากพื้นที่กว้างกว่าแผ่นดินไหวขนาดคล้ายตะวันตก แผ่นดินไหวที่สามารถรู้สึกผ่านพื้นที่กว่าสิบครั้งมีขนาดใหญ่กว่าแผ่นดินไหวขนาดคล้ายฝั่งตะวันตกตะวันออก Rockies ไม่ผิดปกติสำหรับแผ่นดินไหวขนาด 4.0 ในทวีปอเมริกาเหนือภาคตะวันออก หรือกลางเพื่อจะรู้สึกตามเปอร์เซ็นต์ที่สำคัญของประชากร ในชุมชนมากมาย มากกว่า 100 กิโลเมตร (60 mi) จากแหล่งข้อมูล แผ่นดินไหวขนาด 5.5 ในภาคตะวันออก หรือกลางทวีปอเมริกาเหนืออาจรู้สึก โดยมากของประชากรออกไปมากกว่า 500 กิโลเมตร (300 mi) จากแหล่ง เกิดแผ่นดินไหวทางตะวันออกจาก Rockies ที่อยู่ตรงกลางในพื้นที่ที่มีประชากร และใหญ่พอที่จะทำให้เกิดความเสียหาย ได้ คล้ายกัน น่าจะทำให้เกิดความเสียหายออกให้มีระยะห่างมากขึ้นกว่าแผ่นดินไหวขนาดเดียวกันในอเมริกาตะวันตกเกิดแผ่นดินไหวมากที่สุดในอเมริกาเหนือตะวันออก Rockies เป็น faulting ภายในหิน ไมล์ลึกมักจะ เกิดแผ่นดินไหวน้อยตะวันออก Rockies ไร แน่นอนเชื่อมโยงการแมปข้อบกพร่องของธรณีวิทยา ตรงข้ามกับสถานการณ์ที่ขอบจานเช่นระบบ San Andreas บกพร่องของแคลิฟอร์เนีย ที่นักวิทยาศาสตร์สามารถโดยทั่วไปใช้หลักฐานธรณีวิทยาเพื่อระบุข้อบกพร่องที่มีผลิตเป็นแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ และที่มีแนวโน้มที่จะสร้างแผ่นดินไหวใหญ่ในอนาคต นักวิทยาศาสตร์ที่ศึกษาแผ่นดินไหวอเมริกาเหนือกลาง และตะวันออกมักจะทำงานจากสมมติฐานที่ว่า เกิดแผ่นดินไหวที่ทันสมัยเกิดขึ้นเป็นผลลัพธ์ของการจัดส่งในอิงข้อบกพร่องที่ถูกก่อตั้งขึ้นในช่วงที่ธรณีวิทยาก่อน และที่มีการเรียกใช้ภายใต้สภาพความเครียด ข้อเท็จจริงของทวีปอเมริกาเหนือภาคตะวันออก แต่ laced กับข้อบกพร่องที่ถูกใช้งานในรุ่นก่อนหน้าธรณีวิทยาช่วง และไม่กี่ข้อบกพร่องเหล่านี้ทราบว่ามีการใช้งานในยุคปัจจุบันธรณีวิทยา ในปัจจุบันที่ประเมินโอกาสของการเกิดแผ่นดินไหวความเสียหายในอนาคตในพื้นที่ส่วนใหญ่ตะวันออก Rockies ความถี่และขนาดของ instrumentally บันทึกแผ่นดินไหวหรือแผ่นดินไหวที่บันทึกในประวัติศาสตร์Seismicity เหนี่ยวนำให้แสดงว่าไม่มีหลักฐานว่า บางภาคกลาง และตะวันออกอเมริกาเหนือเกิดแผ่นดินไหวถูกทริกเกอร์ หรือเกิดจากกิจกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงสภาพความเครียดในเปลือกโลกพอไป faulting ก่อให้เกิด เป็นกรณีอื่น ๆ ในโลก กิจกรรมที่ได้ทำให้เกิดแผ่นดินไหวสักหลาดในบางสภาพแวดล้อมธรณีวิทยาได้รวม impoundment ของน้ำหลังเขื่อน ฉีดของเหลวเข้าไปในเปลือกโลก สกัดน้ำมัน หรือก๊าซ และเอาหินในเหมืองแร่หรือเหมืองหินการดำเนินงาน อเมริกาเหนือกลาง และตะวันออกมาก จำนวนสงสัยว่ามีการเกิดแผ่นดินไหวมีขนาดเล็กกว่าจำนวนธรรมชาติแผ่นดินไหว แต่ในบางภูมิภาค เช่นอเมริกากลางใต้ของสหรัฐอเมริกา ส่วนใหญ่สำคัญของแผ่นดินไหวล่าสุดจะคิดตาม seismologists มากที่ได้เกิดจากมนุษย์ แม้ภายในพื้นที่ที่มีแผ่นดินไหวเกิดจากมนุษย์มากมาย อย่างไรก็ตาม กิจกรรมที่ก่อให้เกิด seismicity ในสถานหนึ่งอาจจะขึ้นที่ตำแหน่งอื่นโดยไม่มีแผ่นดินไหวสักหลาด inducing นอกจากนี้ ภูมิภาคที่ มีแผ่นดินไหวอาจบ่อยยังอาจเกิดแผ่นดินไหวความเสียหายที่จะเกิดขึ้นโดยอิสระจากกิจกรรมที่มนุษย์ ทำกรณีวิทยาศาสตร์แข็งแกร่งสำหรับสาเหตุการเชื่อมโยงระหว่างกิจกรรมมนุษย์และลำดับเฉพาะของแผ่นดินไหวมักจะเกี่ยวข้องกับการศึกษาพิเศษอุทิศให้โดยเฉพาะกับคำถาม สอบสวนเช่นปกติกระบวนการซึ่งกิจกรรมเรียกสงสัยอาจได้มากการเปลี่ยนแปลงความเครียดในข้อเท็จจริงที่แหล่งกำเนิดแผ่นดินไหว และพวกเขาโดยทั่วไปวิธีที่สงสัยบุคคลทริกเกอร์เกิดแผ่นดินไหวลักษณะแตกต่างจากลักษณะของธรรมชาติแผ่นดินไหวในภูมิภาคผลกระทบต่อข้อความรู้สึก (IV) ที่ดัลลัสและเออร์วิง (III) ที่แอดดิสัน ลิง Carrollton, Coppell ดอกไม้ Mound ฟอร์ทเวิร์ธ โรงแรมฟริสโค มาลัย แกรนด์แพรรี Grapevine, Hurst, Lewisville, Plano ริชาร์ดสัน Sachse และ อาณานิคม (II) ที่อัลเลน กลาสโกว์ Denton, Mesquite, Rowlett และ Wylie ยัง รู้สึกว่าที่อาบี แอนนา ไกล์ Aubrey, Austin, Burleson, Colleyville, Desoto, Duncanville, Euless, Forney แลน ลิตเติลเอล์ม Mansfield นวร์ก เนินเขาเหนือ Richland ปรินซ์ Ravenna, Roanoke, Rockwall, San Antonio, Southlake และ Sunnyvale

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ข้อมูลอย่างย่อเปลือกโลก
เกิดแผ่นดินไหวในภูมิภาคที่มีความเสถียรทวีป
ธรรมชาติที่เกิดขึ้นกิจกรรมแผ่นดินไหว
ส่วนใหญ่ของทวีปอเมริกาเหนือทางตะวันออกของเทือกเขาร็อกกีมีแผ่นดินไหวบ่อยนัก ที่นี่และการเกิดแผ่นดินไหวที่มีจำนวนมากขึ้นเช่นในโซนแผ่นดินไหวนิวมาดริดมีศูนย์กลางอยู่ที่ทิศตะวันออกเฉียงใต้มิสซูรีในโซนเลว-Kamouraska แผ่นดินไหวทางตะวันออกของควิเบกในนิวอิงแลนด์ในนิวยอร์ก - ฟิลาเดล - ทางเดินในเมืองวิลมิงและที่อื่น ๆ แต่ส่วนใหญ่ของภูมิภาคอย่างมากจากเทือกเขาร็อกกี้แอตแลนติกสามารถไปปีโดยไม่เกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่พอที่จะรู้สึกและสหรัฐฯหลายคนไม่เคยมีรายงานการเกิดแผ่นดินไหวที่สร้างความเสียหาย.
แผ่นดินไหวทางตะวันออกของเทือกเขาร็อกกีแม้ว่าบ่อยน้อยกว่าในประเทศตะวันตก , มักจะรู้สึกมากกว่าภูมิภาคที่กว้างกว่าการเกิดแผ่นดินไหวที่มีขนาดใกล้เคียงกันในตะวันตก ทางตะวันออกของเทือกเขาร็อกกี้, แผ่นดินไหวสามารถรู้สึกไปทั่วพื้นที่กว่าสิบครั้งใหญ่กว่าแผ่นดินไหวขนาดใกล้เคียงกันบนชายฝั่งตะวันตก มันจะไม่ผิดปกติสำหรับขนาด 4.0 แผ่นดินไหวในภาคตะวันออกหรือภาคกลางของทวีปอเมริกาเหนือที่จะรู้สึกโดยร้อยละที่สำคัญของประชากรในชุมชนอื่น ๆ อีกมากมายกว่า 100 กิโลเมตร (60 ไมล์) จากแหล่งที่มาของ ขนาด 5.5 แผ่นดินไหวในภาคตะวันออกหรือภาคกลางของทวีปอเมริกาเหนืออาจจะรู้สึกโดยมากของประชากรออกไปมากกว่า 500 กิโลเมตร (300 ไมล์) จากแหล่งที่มาของ แผ่นดินไหวทางตะวันออกของเทือกเขาร็อกกี้ที่มีศูนย์กลางในพื้นที่ที่มีประชากรและขนาดใหญ่พอที่จะทำให้เกิดความเสียหายเป็นเหมือนกันมีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดความเสียหายออกไประยะทางมากกว่าการเกิดแผ่นดินไหวที่มีขนาดเดียวกันศูนย์กลางในตะวันตกของทวีปอเมริกาเหนือ.
แผ่นดินไหวส่วนใหญ่ในทวีปอเมริกาเหนือทางตะวันออกของเทือกเขาร็อกกี้ เกิดขึ้นเป็น faulting ภายในข้อเท็จจริงมักกิโลเมตรลึกลงไป แผ่นดินไหวไม่กี่ทางตะวันออกของเทือกเขาร็อกกี้ แต่มีการเชื่อมโยงอย่างแน่นอนที่จะแมปความผิดปกติทางธรณีวิทยาในทางตรงกันข้ามกับสถานการณ์ที่รอยต่อแผ่นเปลือกโลกเช่นแคลิฟอร์เนียของ San Andreas ระบบความผิดที่นักวิทยาศาสตร์ทั่วไปสามารถใช้หลักฐานทางธรณีวิทยาที่จะระบุความผิดที่มีการผลิตขนาดใหญ่ แผ่นดินไหวและที่มีแนวโน้มในการผลิตการเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ในอนาคต นักวิทยาศาสตร์ที่ศึกษาการเกิดแผ่นดินไหวตะวันออกและภาคกลางของทวีปอเมริกาเหนือมักจะทำงานจากสมมติฐานที่ว่าแผ่นดินไหวที่ทันสมัยเกิดขึ้นเป็นผลมาจากการลื่นในความผิดพลาดมาก่อนที่ถูกสร้างขึ้นในยุคก่อนหน้านี้และแร่ที่ได้รับการเปิดใช้งานภายใต้ภาวะกดดันในปัจจุบัน ข้อเท็จจริงทางตะวันออกของทวีปอเมริกาเหนือคืออย่างไรเจือด้วยความผิดพลาดที่กำลังทำงานอยู่ในยุคก่อนหน้านี้ทางธรณีวิทยาและบางส่วนของความผิดพลาดเหล่านี้เป็นที่รู้จักได้รับการใช้งานในยุคทางธรณีวิทยาในปัจจุบัน ในพื้นที่ส่วนใหญ่ทางตะวันออกของเทือกเขาร็อกกี้, ความน่าจะเป็นของการเกิดแผ่นดินไหวที่สร้างความเสียหายในอนาคตในขณะนี้ประเมินจากความถี่และขนาดของการเกิดแผ่นดินไหวที่บันทึก instrumentally แผ่นดินไหวหรือบันทึกไว้ในบันทึกทางประวัติศาสตร์.
Seismicity ชักนำให้เกิด
เป็นกรณีที่อื่น ๆ ในโลกนี้ยังมีหลักฐานที่แสดงว่าภาคกลางบางส่วน และการเกิดแผ่นดินไหวตะวันออกของทวีปอเมริกาเหนือได้รับการเรียกหรือที่เกิดจากกิจกรรมของมนุษย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขความเครียดในเปลือกโลกพอที่จะทำให้เกิดการ Faulting กิจกรรมที่มีการเหนี่ยวนำให้เกิดความรู้สึกที่เกิดแผ่นดินไหวในสภาพแวดล้อมทางธรณีวิทยาบางส่วนได้รวมการเก็บกักน้ำของน้ำหลังเขื่อนฉีดของเหลวเข้าไปในเปลือกโลกสกัดของของเหลวหรือก๊าซและการกำจัดของหินในการดำเนินงานการทำเหมืองแร่หรือเหมืองหิน มากในภาคตะวันออกและภาคกลางของทวีปอเมริกาเหนือจำนวนของการเกิดแผ่นดินไหวที่ต้องสงสัยว่าได้รับการเหนี่ยวนำให้มีขนาดเล็กกว่าจำนวนของการเกิดแผ่นดินไหวธรรมชาติ แต่ในบางภูมิภาคเช่นรัฐภาคใต้ภาคกลางของสหรัฐส่วนใหญ่อย่างมีนัยสำคัญของการเกิดแผ่นดินไหวที่ผ่านมา มีความคิดโดย seismologists มากมายที่จะได้รับของมนุษย์ที่เกิดขึ้น แม้จะอยู่ในพื้นที่ที่มีการเกิดแผ่นดินไหวของมนุษย์ที่เกิดขึ้นมาก แต่กิจกรรมที่ดูเหมือนว่าจะทำให้เกิดแผ่นดินไหวที่สถานที่หนึ่งอาจจะเกิดขึ้นในสถานที่อื่น ๆ อีกมากมายโดยไม่ก่อให้เกิดความรู้สึกที่เกิดแผ่นดินไหว นอกจากนี้พื้นที่ที่มีการเกิดแผ่นดินไหวเหนี่ยวนำให้เกิดบ่อยก็อาจจะเป็นเรื่องที่จะเกิดแผ่นดินไหวสร้างความเสียหายที่จะเกิดขึ้นได้เป็นอิสระจากกิจกรรมของมนุษย์ การทำกรณีทางวิทยาศาสตร์ที่แข็งแกร่งสำหรับการเชื่อมโยงสาเหตุระหว่างกิจกรรมของมนุษย์โดยเฉพาะอย่างยิ่งและเป็นลำดับโดยเฉพาะอย่างยิ่งของการเกิดแผ่นดินไหวมักจะเกี่ยวข้องกับการศึกษาพิเศษอุทิศเฉพาะกับคำถาม การตรวจสอบดังกล่าวมักจะอยู่ที่กระบวนการที่เรียกกิจกรรมที่ต้องสงสัยว่าอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญเน้นในข้อเท็จจริงที่แหล่งกำเนิดแผ่นดินไหวและพวกเขาโดยทั่วไปอยู่ที่วิธีการที่ลักษณะของการเกิดแผ่นดินไหวที่มนุษย์เรียกผู้ต้องสงสัยแตกต่างจากลักษณะของการเกิดแผ่นดินไหวในธรรมชาติ ภูมิภาค.
ข้อความผลกระทบ
สักหลาด (IV) ที่ดัลลัสและเออร์วิง; (III) ที่แอดดิสัน, อาร์ลิงตัน, แคร์รอลล์คอป Flower Mound, ฟอร์ตเวิร์ ธ ฟริสโก, การ์แลนด์แกรนด์แพรรี, เกรปไวน์เฮิรสท์ลูอิส, พลาโน, ริชาร์ด Sachse และอาณานิคม; (II) ที่อัลเลน, ฟอร์ด, Denton, ซีซั่น, โรวและไวลี ยังรู้สึกที่ลีน, แอนนาอาร์ไกล์, ออเบรย์, ออสติน Burleson, Colleyville, Desoto ดันแคนยูเลส, Forney แลงคาสเตอร์, ลิตเติ้ลเอล์ม, แมนส์, นิวอาร์นอร์ทริชแลนด์ฮิลส์พรินซ์ตัน, ราเวนนา, โน๊ค, ร็อก, ซานอันโตนิโอ Southlake และซันนีเวล