Importantly, when Staphylococcus au

Importantly, when Staphylococcus aureus was introduced into joint fluid, the bacteria was still able to colonize model implant surfaces, i.e. titanium pins, and form biofilms. The persistence of these bacteria in synovial fluid containing antibiotics may be one reason that joint infection is so difficult to cure.

The team's previous research identified these floating biofilm-like clumps of bacteria as a source of antibiotic-resistant joint infections. These biofilm-like clumps arise because bacteria embed themselves in a protective mesh of proteins that resist the penetration of antibiotics. They also found that the bacteria slow their growth, making them even less susceptible to antibiotics, which are designed to target rapidly growing cells like bacteria.

"The next step is to see how we can disperse these mega-clusters of buried bacteria. If we can provide a window for antibiotics to carry out their intended function, we can move towards a clinical model and ultimately cure joint infection," offered Sana Dastgheyb, Ph.D., lead author on this study and researcher at both Thomas Jefferson University and the National Institutes of Health.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สำคัญ เมื่อหมอเทศข้างลาย Staphylococcus ถูกนำลงในน้ำมันร่วม แบคทีเรียที่ได้ยังสามารถ colonize รุ่นผิวรากเทียม เช่นไทเทเนียมหมุด และแบบฟอร์ม biofilms ติดตาของแบคทีเรียในเนื้อของเหลวที่ประกอบด้วยยาปฏิชีวนะเหล่านี้อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ติดเชื้อร่วมรักษากระดูกงานวิจัยก่อนหน้านี้ของทีมระบุน้ำ biofilm เหมือนกระจุกของแบคทีเรียเป็นแหล่งของเชื้อดื้อยาปฏิชีวนะร่วมกันเหล่านี้ กระจุก biofilm เหมือนเหล่านี้เกิดขึ้นเนื่องจากแบคทีเรียที่ฝังตัวเองในตาข่ายป้องกันของโปรตีนที่ต่อต้านการบุกของยาปฏิชีวนะ พวกเขายังพบว่า แบคทีเรียที่ชะลอการเจริญเติบโตของพวกเขา ทำให้พวกเขาไวต่อแม้แต่น้อยกับยาปฏิชีวนะ การออกแบบเพื่อเป้าหมายการเติบโตอย่างรวดเร็วเซลล์เช่นแบคทีเรีย"ขั้นตอนถัดไปคือการ ดูว่าเราสามารถกระจายเหล่านี้ร็อคกลุ่มของแบคทีเรียที่ฝัง ถ้าเราสามารถมีหน้าต่างสำหรับยาดำเนินการตั้งใจทำงาน เราสามารถย้ายไปยังรูปแบบทางคลินิก และสุด แก้ติดเชื้อร่วม ให้ก Dastgheyb, Ph.D. ผู้เขียนเป้าหมายในการศึกษาและนักวิจัยที่มหาวิทยาลัย Thomas Jefferson และสถาบันสุขภาพแห่งชาตินี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ที่สำคัญเมื่อเชื้อ Staphylococcus aureus ถูกนำเข้าสู่ของเหลวร่วมแบคทีเรียยังคงสามารถที่จะตั้งรกรากพื้นผิวรากฟันเทียมแบบคือขาไทเทเนียมและรูปแบบไบโอฟิล์ม ความคงทนของเชื้อแบคทีเรียเหล่านี้ในน้ำไขข้อที่มียาปฏิชีวนะอาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ว่าการติดเชื้อร่วมกันจึงเป็นเรื่องยากที่จะรักษา. วิจัยก่อนหน้านี้ของทีมระบุกอเหล่านี้ไบโอฟิล์มเหมือนลอยของเชื้อแบคทีเรียที่เป็นแหล่งที่มาของยาปฏิชีวนะป้องกันการติดเชื้อร่วมกัน เหล่านี้กระจุกไบโอฟิล์มเหมือนเกิดขึ้นเพราะแบคทีเรียที่ฝังตัวเองอยู่ในตาข่ายป้องกันของโปรตีนที่ต้านทานการรุกของยาปฏิชีวนะ นอกจากนี้ยังพบว่าแบคทีเรียชะลอการเจริญเติบโตของพวกเขาทำให้พวกเขาได้น้อยไวต่อยาปฏิชีวนะซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อเป้าหมายเซลล์ที่เติบโตอย่างรวดเร็วเช่นแบคทีเรีย. "ขั้นตอนต่อไปคือการดูว่าเราสามารถสลายกลุ่มขนาดใหญ่เหล่านี้ของเชื้อแบคทีเรียที่ฝังอยู่. ถ้าเรา สามารถให้หน้าต่างสำหรับยาปฏิชีวนะเพื่อดำเนินการฟังก์ชั่นของพวกเขาตั้งใจเราสามารถก้าวไปสู่รูปแบบทางคลินิกและในที่สุดการรักษาติดเชื้อร่วมกัน "Sana Dastgheyb เสนอ, Ph.D. , ผู้เขียนนำการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้และนักวิจัยทั้งโทมัสเจฟเฟอร์สันและมหาวิทยาลัย สถาบันสุขภาพแห่งชาติ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ที่สำคัญ เมื่อเชื้อ Staphylococcus aureus ที่ใช้เป็นข้อต่อของเหลว , แบคทีเรียที่ยังสามารถตั้งรกรากแบบสอดใส่พื้นผิว เช่น หมุดไทเทเนียม และรูปแบบของไบโอฟิล์ม . ความคงอยู่ของแบคทีเรียเหล่านี้ใน synovial ของเหลวที่มียาปฏิชีวนะ อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ติดเชื้อร่วม จึงยากที่จะรักษา .

ของทีมวิจัยก่อนหน้านี้ระบุเหล่านี้ลอยฟิล์มเหมือนกลุ่มของแบคทีเรียที่เป็นแหล่งของยาปฏิชีวนะที่ทนร่วมเชื้อ เหล่านี้เกิดขึ้นเนื่องจากแบคทีเรียไบโอฟิล์มเหมือนกระจุกฝังตัวเองในตาข่ายป้องกันโปรตีนที่ต่อต้านการซึมผ่านของยาปฏิชีวนะ นอกจากนี้ยังพบว่าแบคทีเรียชะลอการเจริญเติบโตของพวกเขาทำให้พวกเขาแม้แต่น้อยไวต่อยาปฏิชีวนะซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อการเติบโตอย่างรวดเร็ว เช่น แบคทีเรีย เซลล์เป้าหมาย

" ขั้นตอนถัดไปเพื่อดูว่าเราสามารถกระจายเหล่านี้ใหญ่กลุ่มฝังแบคทีเรีย ถ้าเราสามารถให้หน้าต่างสำหรับยาปฏิชีวนะเพื่อดำเนินการของพวกเขาตั้งใจฟังก์ชั่น เราสามารถย้ายไปยังรูปแบบทางคลินิกและในที่สุดการติดเชื้อร่วมกัน " เสนอ SANA dastgheyb , Ph.D . ,ผู้เขียนหลักในการศึกษานี้ นักวิจัยทั้งโทมัสเจฟเฟอร์สันมหาวิทยาลัยและสถาบันสุขภาพแห่งชาติ .