Drunk driving is a serious problem

Drunk driving is a serious problem in the United States. It is a threat to everyone, regardless of age, gender, or class. As its name implies, drunk driving is the act of driving a vehicle after consuming enough alcohol to impair one's motor skills and mental capacity. In nearly all states, people who drink enough alcohol to have a blood alcohol content of 0.08 percent or higher are considered impaired and cannot legally drive a car. In some instances, the legal blood alcohol content, which is often referred to as BAC, may be lower than 0.08 percent. In terms of drivers who are under the age of 21, no amount of alcohol in the system is acceptable, as it is illegal to drink alcohol at that age. The impairment to one's motor skills and mental capacity are just two of the reasons why drinking and driving is such a great offense. In addition, it also affects a driver's perception, reaction time, coordination, judgment, and general ability to pay attention to what is happening on the road. Failure to have command of any of these skills can result in a crash and/or the injury of others on the road, including other drivers and their passengers, bicyclists, and pedestrians. Not only are drunk drivers a threat to others on the road, but they are also a threat to themselves and to any passengers who may be in the vehicle with them. While driving drunk is an obvious danger to human life, it is also very costly in other ways. When an intoxicated individual gets behind the wheel of a car, they are potentially destructive to the environment and structures within a community as well.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ขับรถเมาเป็นปัญหาร้ายแรงในสหรัฐอเมริกา มันเป็นภัยคุกคามต่อทุกคน โดยไม่คำนึงถึงอายุ เพศ หรือระดับ ตามชื่อ ขับรถเมาเป็นการกระทำของการขับรถหลังบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพียงพอจะทำให้เสียของทักษะการเคลื่อนไหวและกำลังจิต ในอเมริกาเกือบทั้งหมด คนที่ดื่มแอลกอฮอล์พอมีแอลกอฮอล์ในเลือดเป็นร้อยละ 0.08 เนื้อหา หรือสูงกว่า จะถือว่าบกพร่อง และกฎหมายไม่สามารถขับรถ ในบางกรณี การกฎหมายเลือดแอลกอฮอล์ ซึ่งมักจะเรียกว่าบัค อาจต่ำกว่าร้อยละ 0.08 ในแง่ของคนขับที่อายุต่ำกว่า 21 ปี ไม่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในระบบเป็นที่ยอมรับ เช่นการดื่มแอลกอฮอล์อายุที่ การด้อยค่าของทักษะการเคลื่อนไหวและกำลังจิตมีสองเหตุผลทำไมดื่ม และขับรถเป็นเช่นความผิด นอกจากนี้ มันมีผลต่อการขับรับรู้ เวลาปฏิกิริยา ประสานงาน คำพิพากษา และทั่วไปสามารถให้ความสนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นบนถนน มีคำสั่งใด ๆ ของทักษะเหล่านี้สามารถส่งผลให้เกิดความเสียหายหรือการบาดเจ็บของผู้อื่นบนท้องถนน รวมทั้งไดรเวอร์อื่น ๆ และผู้โดยสาร บิด และคนเดินเท้า ไม่เพียงแต่ควบคุมเมาเป็นภัยคุกคามต่อผู้อื่นบนท้องถนน แต่จะมียังเป็นภัยคุกคามต่อตนเอง และผู้โดยสารที่อาจจะอยู่ในรถกับพวกเขา ในขณะที่เมาขับรถ อันตรายชัดเจนต่อชีวิตมนุษย์ เป็นค่าใช้จ่ายมากในรูปแบบอื่น ๆ เมื่อแต่ละมึนเมาได้รับล้อหลังของรถ พวกเขาจะอาจทำลายสิ่งแวดล้อมและโครงสร้างภายในชุมชนเป็นอย่างดี

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เมาแล้วขับเป็นปัญหาที่ร้ายแรงในประเทศสหรัฐอเมริกา มันเป็นภัยคุกคามต่อทุกคนโดยไม่คำนึงถึงอายุเพศหรือระดับ เป็นชื่อของมันหมายถึงการเมาแล้วขับเป็นหน้าที่ของการขับขี่ยานพาหนะหลังจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากพอในการทำให้เสียหนึ่งของทักษะยนต์และความสามารถทางจิต ในเกือบทุกรัฐคนที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์พอที่จะมีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดร้อยละ 0.08 หรือสูงกว่าจะมีการพิจารณาการด้อยค่าและถูกต้องตามกฎหมายไม่สามารถขับรถ ในบางกรณีที่ปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดตามกฎหมายซึ่งมักจะเรียกว่าบัคอาจจะต่ำกว่าร้อยละ 0.08 ในแง่ของการขับรถที่อายุต่ำกว่า 21 ปริมาณของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในระบบไม่เป็นที่ยอมรับในขณะที่มันเป็นกฎหมายที่จะดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวัยที่ ด้อยค่าทักษะมอเตอร์หนึ่งและกำลังจิตเป็นเพียงสองของเหตุผลที่ว่าทำไมการดื่มและการขับรถดังกล่าวเป็นความผิดที่ดี นอกจากนี้ก็ยังมีผลต่อการรับรู้ของคนขับรถ, เวลาปฏิกิริยาการประสานงานยุติธรรมและความสามารถทั่วไปให้ความสนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นบนท้องถนน ความล้มเหลวที่จะมีคำสั่งใด ๆ ของทักษะเหล่านี้จะส่งผลให้ในความผิดพลาดและ / หรือได้รับบาดเจ็บของผู้อื่นบนท้องถนนรวมทั้งไดรเวอร์อื่น ๆ และผู้โดยสารของพวกเขาบิดและคนเดินเท้า ไม่เพียง แต่เป็นไดรเวอร์เมาเป็นภัยคุกคามต่อผู้อื่นบนท้องถนน แต่พวกเขายังเป็นภัยคุกคามต่อตัวเองและผู้โดยสารคนใดที่อาจจะอยู่ในรถกับพวกเขา ในขณะที่เมาแล้วขับเป็นอันตรายที่ชัดเจนในการดำรงชีวิตของมนุษย์ก็ยังเป็นค่าใช้จ่ายมากในรูปแบบอื่น เมื่อบุคคลได้รับเมาล้อหลังของรถที่พวกเขาอาจเป็นอันตรายต่อสภาพแวดล้อมและโครงสร้างภายในชุมชนได้เป็นอย่างดี