In order to use DTN on a network, i

In order to use DTN on a network, it needs to be added to a layer common across all network types that the data will flow though. With store and forward this would typically require the use of a specific application protocol or low level network, which as previously discussed prevents flexibility. Previous attempts at implementing Delay Tolerant Networking technologies on IP, such as the Bundle Protocol, operate by adding another networking layer above the current IP framework and using it as if it was a link layer8. This encapsulating layer includes the packet data and routing information but cannot be processed by devices that do not support the protocol. In addition this requires duplication of data already contained in the packet as it must be included in the encapsulated version as well as the packet headers. To allow for seamless integration with existing systems both end devices and routers without DTN
support need to be able to handle DTN packets in a predictable manner. DTN nodes will also need to be capable of handling non DTN enabled traffic. For these reasons DTN can not be implemented as an encapsulating layer or as a new lower layer protocol.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ใช้ DTN บนเครือข่าย มันจำเป็นต้องเพิ่มชั้นทั่วไปผ่านเครือข่ายทุกที่ข้อมูลจะไหลแต่ ร้านค้าและข้างหน้า นี้จำเป็นต้องใช้โพรโทคอการ หรือเครือข่ายระดับต่ำ ซึ่งกล่าวว่าก่อนหน้านี้ ทำให้ความยืดหยุ่น มีความพยายามก่อนหน้านี้ที่ใช้เทคโนโลยีเครือข่ายการป้องกันความผิดพลาดความล่าช้าบน IP เช่นโพรโทคอลกลุ่ม โดยการเพิ่มเลเยอร์เครือข่ายอื่นเหนือกรอบ IP ปัจจุบัน และใช้มันเป็นก็ layer8 ลิงค์ ชั้นนี้ encapsulating แพ็คเก็ตข้อมูลและข้อมูลสายงานการผลิต แต่ไม่สามารถประมวลผล โดยอุปกรณ์ที่ไม่สนับสนุนโพรโทคอล นอกจากนี้ ต้องทำซ้ำข้อมูลแล้วอยู่ในแพ็คเก็ตต้องรวมอยู่ในรุ่นสรุปส่วนหัวแพคเก็ต เพื่อให้การรวมระบบที่มีอยู่ ทั้งสิ้นอุปกรณ์และเราเตอร์ โดย DTNต้องสนับสนุนเพื่อให้สามารถจัดการกับแพคเก็ต DTN ในลักษณะที่คาดเดาได้ DTN โหนจะต้องสามารถจัดการ DTN ไม่เปิดใช้งานจราจร ด้วยเหตุนี้ DTN สามารถไม่ได้ถูกใช้ เป็นชั้น encapsulating การ หรือ เป็นใหม่ล่างเลเยอร์โพรโทคอล

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เพื่อที่จะใช้ DTN บนเครือข่ายจะต้องมีการเพิ่มไปยังชั้นที่พบบ่อยในทุกประเภทเครือข่ายที่ข้อมูลจะไหลแม้ว่า ด้วยการจัดเก็บและส่งต่อเรื่องนี้จะมักจะต้องใช้โปรโตคอลที่ใช้เฉพาะหรือเครือข่ายในระดับต่ำซึ่งตามที่กล่าวก่อนหน้านี้ป้องกันไม่ให้มีความยืดหยุ่น พยายามก่อนหน้านี้ที่ใช้เทคโนโลยีที่ล่าช้าในการทนเครือข่ายด้านทรัพย์สินทางปัญญาเช่น Bundle พิธีสารดำเนินการโดยการเพิ่มเครือข่ายอีกชั้นดังกล่าวข้างต้นกรอบ IP ปัจจุบันและใช้มันราวกับว่ามันเป็น layer8 การเชื่อมโยง ชั้นการ encapsulating ซึ่งรวมถึงการส่งข้อมูลและข้อมูลเส้นทาง แต่ไม่สามารถดำเนินการได้โดยอุปกรณ์ที่ไม่สนับสนุนโปรโตคอล นอกจากนี้ต้องมีการซ้ำซ้อนของข้อมูลที่มีอยู่แล้วในแพ็คเก็ตในขณะที่มันจะต้องรวมอยู่ในรุ่นห่อหุ้มเช่นเดียวกับส่วนหัวของแพ็คเก็ต เพื่อให้สามารถเชื่อมต่อกับระบบที่มีอยู่ทั้งอุปกรณ์สิ้นและเราเตอร์โดยไม่ต้อง DTN
การสนับสนุนจะต้องสามารถที่จะจัดการกับแพ็คเก็ต DTN ในลักษณะที่สามารถคาดเดาได้ โหนด DTN ยังจะต้องมีความสามารถในการจัดการที่ไม่ได้เปิดใช้งาน DTN จราจร ด้วยเหตุผลเหล่านี้ DTN ไม่สามารถนำมาใช้เป็นชั้นการ encapsulating หรือเป็นโปรโตคอลชั้นล่างใหม่

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เพื่อที่จะใช้ระหว่างประเทศในเครือข่าย มันต้องเพิ่มชั้นสามัญในประเภทของเครือข่ายทั้งหมดที่ข้อมูลจะไหลนะ กับร้านและส่งนี้โดยทั่วไปจะต้องใช้โปรแกรมเฉพาะโปรโตคอลเครือข่ายหรือระดับต่ำ ซึ่งเป็นกล่าวก่อนหน้านี้ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น ความพยายามก่อนหน้านี้ที่ใช้หน่วงเวลาใจกว้างเครือข่ายเทคโนโลยีไอพีเช่นมัดของโปรโตคอลใช้โดยเพิ่มอีกชั้นเครือข่ายเหนือกรอบ IP ในปัจจุบันและใช้เป็นถ้ามันเป็นลิงค์ layer8 . นี้ห่อหุ้มชั้นรวมถึงข้อมูลแพ็คเก็ตและเส้นทางข้อมูลแต่ไม่สามารถประมวลผลด้วยอุปกรณ์ที่ไม่สนับสนุนโปรโตคอลนอกจาก นี้ต้องมีความซ้ำซ้อนของข้อมูลที่มีอยู่แล้วในแพ็คเก็ต มันต้องอยู่ใน 3 รุ่น รวมทั้งห่อหัว เพื่อให้รวมราบรื่นกับระบบที่มีอยู่ ทั้งอุปกรณ์และเราเตอร์สุดท้าย โดยไม่มีการสนับสนุนระหว่างประเทศ
ต้องสามารถจัดการกับแพ็กเก็ตระหว่างประเทศในลักษณะที่คาดเดาได้ระหว่างประเทศโหนดจะต้องมีความสามารถในการจัดการระหว่างประเทศเปิดไม่ติด เหตุผลเหล่านี้ ระหว่างประเทศไม่สามารถใช้เป็นชั้นห่อหุ้มหรือเป็นใหม่ชั้นล่างโปรโตคอล