Here, we are declaring our UI to be

Here, we are declaring our UI to be completely comprised of one fragment, whose
implementation (com.commonsware.android.sfrag.ContentFragment) is identified
by the android:name attribute on the element. Instead of android:name,
you can use class, though most of the Android documentation has now switched
over to android:name

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ที่นี่ เราจะประกาศเราให้ UI จะสมบูรณ์ประกอบด้วยส่วนที่หนึ่งมีระบุงาน (ส่วน com.commonsware.android.sfrag.ContentFragment)โดยแอตทริบิวต์ android: ชื่อในการ องค์ประกอบการ แทน android: ชื่อคุณสามารถใช้ระดับชั้น แม้ว่าขณะนี้มีสลับส่วนใหญ่เอกสาร Androidไป android: ชื่อ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ที่นี่เราจะประกาศ UI
ของเราที่จะได้รับประกอบด้วยสมบูรณ์ของชิ้นส่วนที่มีการดำเนินงาน(com.commonsware.android.sfrag.ContentFragment)
มีการระบุโดยหุ่นยนต์: แอตทริบิวต์ชื่อในธาตุ. แทนที่จะหุ่นยนต์:
ชื่อที่คุณสามารถใช้ในชั้นเรียนแต่ส่วนใหญ่ของเอกสาร Android
ได้ในขณะนี้เปลี่ยนไปยังหุ่นยนต์ชื่อ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ที่นี่ เราจะประกาศ UI ของเราจะสมบูรณ์จำนวนหนึ่งชิ้น ซึ่ง
การดำเนินการ ( com commonsware . Android sfrag . contentfragment ) ระบุ
โดย Android : ชื่อของแอททริบิวต์ใน < ~ > > แทนของ Android : ชื่อ
คุณสามารถใช้คลาส แม้ว่าส่วนใหญ่ของเอกสาร Android ได้เปลี่ยน
ไป Android : ชื่อ