The Summer of Love was a social phe

The Summer of Love was a social phenomenon that occurred during the summer of 1967, when as many as 100,000 people converged in the Haight-Ashbury neighborhood of San Francisco. Although hippies also gathered in major cities across the U.S., Canada and Europe, San Francisco remained the epicenter of the social earthquake that would come to be known as the Hippie Revolution.[1] Like its sister enclave of Greenwich Village, the city became even more of a melting pot of politics, music, drugs, creativity, and the total lack of sexual and social inhibition than it already was. As the hippie counterculture movement came farther and farther forward into public awareness, the activities centered therein became a defining moment of the 1960s,[2] causing numerous 'ordinary citizens' to begin questioning everything and anything about them and their environment as a result.

This unprecedented gathering of young people is often considered to have been a social experiment, because of all the alternative lifestyles which became more common and accepted such as gender equality, communal living, and free love.[3] Many of these types of social changes reverberated on into the early 1970s, and effects echo throughout modern society.

The hippies, sometimes called flower children, were an eclectic group. Many were suspicious of the government, rejected consumerist values, and generally opposed the Vietnam War. A few were interested in politics; others focused on art (music, painting, poetry in particular) or religious and meditative movements. All were eager to integrate new ideas and insights into daily life, both public and private.[4]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ฤดูร้อนของความรักเป็นปรากฏการณ์ทางสังคมที่เกิดขึ้นในช่วงฤดูร้อนของปี 1967 เมื่อเป็นจำนวนมากถึง 100,000 คนแปรสภาพในย่าน Haight-Ashbury ซานฟรานซิส แม้ว่าพวกฮิปปี้ยังรวมตัวกันในเมืองใหญ่ ๆ ทั่วสหรัฐอเมริกาแคนาดาและยุโรปยังคงอยู่ในซานฟรานศูนย์กลางของแผ่นดินไหวทางสังคมที่จะมาเป็นที่รู้จักกันเป็นฮิปปี้ปฏิวัติ. [1] เช่นเดียวกับน้องสาวของวงล้อมของกรีนนิชวิลเลจเมืองกลายเป็นแม้กระทั่ง มากขึ้นจากการหลอมรวมของการเมือง, เพลง, ยาเสพติด, ความคิดสร้างสรรค์และขาดการยับยั้งทางเพศและสังคมมากกว่าที่เป็นอยู่แล้ว ขณะที่การเคลื่อนไหววัฒนธรรมฮิปปี้มาไกลและไกลออกไปข้างหน้าในการรับรู้ของประชาชนเป็นศูนย์กลางกิจกรรมนั้นกลายเป็นช่วงเวลาที่กำหนดของปี 1960 [2] ที่ก่อให้เกิดจำนวนมาก 'ประชาชนคนธรรมดา' ที่จะเริ่มต้นตั้งคำถามทุกอย่างและสิ่งที่เกี่ยวกับพวกเขาและสภาพแวดล้อมของพวกเขาเป็นผลนี้การชุมนุมเป็นประวัติการณ์ของคนหนุ่มสาวมักจะคิดว่าจะได้รับการทดลองทางสังคมเพราะทุกไลฟ์สไตล์ทางเลือกซึ่งกลายเป็นเรื่องธรรมดามากขึ้นและได้รับการยอมรับเช่นความเสมอภาคทางเพศและการใช้ชีวิตของชุมชนและความรักฟรี. [3] หลายเหล่านี้ประเภทของการเปลี่ยนแปลงทางสังคม สะท้อนเข้าไปในต้นปี 1970 และผลกระทบสะท้อนไปทั่วสังคมสมัยใหม่. ฮิปปี้บางครั้งเรียกว่าดอกไม้เด็กเป็นกลุ่มแฟมิลี หลายคนที่น่าสงสัยของรัฐบาลปฏิเสธค่าบริโภคและโดยทั่วไปคัดค้านสงครามเวียดนาม ไม่กี่คนที่สนใจในการเมือง คนอื่น ๆ ที่มุ่งเน้นไปที่ศิลปะ (เพลง, ภาพวาด, บทกวีโดยเฉพาะ) หรือการเคลื่อนไหวทางศาสนาและสมาธิ ทั้งหมดมีความกระตือรือร้นที่จะบูรณาการความคิดใหม่และข้อมูลเชิงลึกเข้ามาในชีวิตประจำวันทั้งภาครัฐและเอกชน. [4]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในช่วงฤดูร้อนของความรักเป็นปรากฏการณ์ทางสังคมที่เกิดขึ้นในช่วงฤดูร้อน 1967 คนเมื่อหลาย 100000 แปรสภาพในโรงแรม Ashbury ใกล้กับซานฟรานซิสโก แม้ว่าฮิปปี้ยังรวมตัวกันในเมืองใหญ่ทั่วสหรัฐอเมริกา แคนาดา และยุโรป ซานฟรานซิสโกยังคงอยู่ศูนย์กลางของแผ่นดินไหวนั้นสังคมจะมาเป็นที่รู้จักเป็นฮิปปี้ในการปฏิวัติ[ 1 ] ชอบของน้องซอกของกรีนิช วิลเลจ เมืองกลายเป็นมากขึ้นของหม้อหลอมของการเมือง , เพลง , ยาเสพติด , ความคิดสร้างสรรค์ และการขาดรวมของเพศและสังคมยับยั้งกว่าที่เคยเป็น เป็นฮิปปี้วัฒนธรรมการเคลื่อนไหวมาห่างไปข้างหน้าในการรับรู้ของประชาชน กิจกรรมที่ศูนย์กลางนั้นกลายเป็นช่วงเวลาของปี 1960[ 2 ] สาเหตุมากมายจากประชาชนที่จะตั้งคำถามทุกอย่างเกี่ยวกับพวกเขาและสภาพแวดล้อมของพวกเขาเป็นผล

รวบรวมนี้เป็นประวัติการณ์ของคนหนุ่มสาวมักจะถือว่าได้รับการทดลองทางสังคม เพราะทางเลือกไลฟ์สไตล์ ซึ่งกลายเป็นสามัญมากขึ้นและได้รับการยอมรับเช่นความเสมอภาคทางเพศ , ชุมชนที่อาศัยอยู่ และ ความรัก ฟรี[ 3 ] หลายเหล่านี้ประเภทของการเปลี่ยนแปลงทางสังคม reverberated บนลงในต้นปี 1970 , และผลกระทบที่สะท้อนไปทั่วสังคมสมัยใหม่

ฮิปปี้ บางครั้งเรียกว่าเด็กดอกไม้ เป็นแบบผสมผสาน . หลายคนสงสัย รัฐบาลปฏิเสธ Consumerist ค่านิยม และมักต่อต้านสงครามเวียดนาม มีความสนใจในการเมือง ; อื่น ๆที่เน้นศิลปะ ( จิตรกรรม ดนตรีบทกวีโดยเฉพาะ ) หรือศาสนาและสมาธิเคลื่อนไหว ทุกคนมีความกระตือรือร้นที่จะบูรณาการความคิดใหม่และข้อมูลเชิงลึกในชีวิตประจําวัน ทั้งภาครัฐและเอกชน [ 5 ]