James IV of Scotland (r. 1488–1513)

James IV of Scotland (r. 1488–1513) reportedly had a great liking for Scotch whisky, and in 1506 the town of Dundee purchased a large amount of whisky from the Guild of Surgeon Barbers, which held the monopoly on production at the time. Between 1536 and 1541, King Henry VIII of England dissolved the monasteries, sending their monks out into the general public. Whisky production moved out of a monastic setting and into personal homes and farms as newly independent monks needed to find a way to earn money for themselves.[7]
With a licence to distil Irish whiskey from 1608, the Old Bushmills Distillery in the north coast of Ireland is the oldest licenced whiskey distillery in the world.[11]
In 1707, the Acts of Union merged England and Scotland, and thereafter taxes on it rose dramatically.[12]
After the English Malt Tax of 1725, most of Scotland’s distillation was either shut down or forced underground. Scotch whisky was hidden under altars, in coffins, and in any available space to avoid the governmentalExcisemen.[7] Scottish distillers, operating out of homemade stills, took to distilling whisky at night when the darkness hid the smoke from the stills. For this reason, the drink became known as moonshine.[13] At one point, it was estimated that over half of Scotland’s whisky output was illegal.[12]
In America, whisky was used as currency during the American Revolution. It also was a highly coveted sundry and when an additional excise tax was levied against it, the Whiskey Rebellion erupted in 1791.[14]
In 1823, the UK passed the Excise Act, legalizing the distillation (for a fee), and this put a practical end to the large-scale production of Scottish moonshine.[7]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

iv james ของ scotland (ร. 1488-1513) รายงานว่ามีความชื่นชอบที่ดีสำหรับสก็อตวิสกี้และใน 1506 เมืองดันดีที่ซื้อจำนวนมากของวิสกี้จากสมาคมช่างของศัลยแพทย์ซึ่งถือผูกขาดในการผลิตในช่วงเวลาที่ ระหว่าง 1536 และ 1541, กษัตริย์เฮนรี่ของอังกฤษละลายอารามส่งพระสงฆ์ของพวกเขาออกไปสู่​​ประชาชนทั่วไปการผลิตวิสกี้ย้ายออกจากการตั้งค่าที่วัดและในบ้านส่วนบุคคลและฟาร์มเป็นพระสงฆ์ที่เป็นอิสระใหม่ที่จำเป็นในการหาวิธีที่จะได้รับเงินสำหรับตัวเอง. [7]
มีใบอนุญาตในการกลั่นวิสกี้ไอริชจาก 1608, Bushmills เก่าสุราในภาคเหนือ ชายฝั่งของไอร์แลนด์ที่เก่าแก่ที่สุดโรงต้มกลั่นวิสกี้ที่ได้รับอนุญาตในโลก. [11]
1707 ในการกระทำของสหภาพรวมอังกฤษและสกอตแลนด์,และภาษีเกี่ยวกับมันหลังจากนั้นเพิ่มขึ้นอย่างมาก. [12]
หลังจากภาษีภาษาอังกฤษของมอลต์ 1725 ส่วนใหญ่ของการกลั่น scotland ถูกปิดอย่างใดอย่างหนึ่งลงหรือถูกบังคับใต้ดิน สก๊อตวิสกี้ถูกซ่อนอยู่ใต้แท่นบูชาในโลงศพและในพื้นที่ว่างใด ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการ governmentalexcisemen. [7] กลั่น scottish ปฏิบัติการออกจากภาพนิ่งโฮมเมดเอาไปกลั่นวิสกี้ในเวลากลางคืนเมื่อความมืดซ่อนควันจากภาพนิ่ง ด้วยเหตุนี้เครื่องดื่มที่กลายเป็นที่รู้จักแสงจันทร์. [13] เมื่อถึงจุดหนึ่งมันเป็นที่คาดว่ากว่าครึ่งหนึ่งของการส่งออกวิสกี้สกอตแลนด์เป็นเรื่องผิดกฎหมาย. [12]
ในอเมริกาวิสกี้ถูกใช้เป็นสกุลเงินในระหว่างการปฏิวัติอเมริกัน ก็ยังเป็นจิปาถะโลภมากและเมื่อภาษีสรรพสามิตเพิ่มเติมถูกเรียกเก็บกับมันการจลาจลวิสกี้ปะทุขึ้นในปี ค.ศ. 1791. [14]
ใน 1823, สหราชอาณาจักรผ่านกฎหมายภาษีสรรพสามิต, กฎหมายการกลั่น (ค่าธรรมเนียม) และใส่ปลายปฏิบัติเพื่อการผลิตขนาดใหญ่ของแสงจันทร์ scottish. [7]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

James IV ของสกอตแลนด์ (r. 1488–1513) รายงานมีความชื่นชอบมากสำหรับวิสกี้ Scotch และในปี 1506 เมืองดันดีซื้อวิสกี้จำนวนมากจากการสมาคมของแพทย์ Barbers ซึ่งจัดขึ้นผูกขาดในการผลิตในเวลา ส่วนระหว่าง 1536 และ 1541 คิงเฮนรี่ VIII ของอังกฤษยุบอาราม ส่งพระของพวกเขาออกไปยังประชาชนทั่วไป วิสกี้ผลิตย้าย จากตั้งสงฆ์ และฟาร์มและบ้านส่วนตัวเป็นพระสงฆ์อิสระใหม่ต้องหาวิธีการสร้างรายได้ด้วยตนเอง[7]
อนุญาตให้ distil ไอริชวิสกี้จาก 1608 ดิสทิลเลอรี้ Bushmills เก่าในฝั่งเหนือของไอร์แลนด์เป็นโรงต้มกลั่นวิสกี้ licenced ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก[11]
ใน 1707 กิจการยูเนียนรวมอังกฤษและสกอตแลนด์ และหลังจากนั้นภาษีบนกุหลาบอย่างมาก[12]
หลังจากอังกฤษมอลต์ภาษีของ 1725 ส่วนใหญ่ของสกอตแลนด์กลั่นถูกปิด หรือถูกบังคับรถไฟใต้ดิน วิสกี้ scotch ถูกซ่อนไว้ใต้แท่นบูชา coffins และ ในพื้นที่ว่างเพื่อหลีกเลี่ยงการ governmentalExcisemen[7] สกอตแลนด์ distillers ปฏิบัติการออกจากภาพนิ่งโฮมเมด เอาไป distilling วิสกี้ในตอนกลางคืนเมื่อความมืดซ่อนควันจากฟังก์ชั่นการ ด้วยเหตุนี้ เครื่องดื่มกลายเป็นเรียกว่ามูนไชน์[13] ที่จุดหนึ่ง มันถูกคาดว่า กว่าครึ่งหนึ่งของผลผลิตวิสกี้ของสกอตแลนด์เป็นสิ่งผิดกฎหมาย[12]
ในอเมริกา วิสกี้ใช้เป็นสกุลเงินในระหว่างการปฏิวัติอเมริกัน มันยังเป็นวิวิธโลภมากและเมื่อมีเก็บภาษีอากรเพิ่มเติมกับมัน กบฏวิสกี้ปะทุในค.ศ. 1791[14]
ใน 1823, UK ผ่านพระราชบัญญัติสรรพสามิต legalizing กลั่น (ตัวแทน และนี้ทำให้สิ้นสุดปฏิบัติการผลิตขนาดใหญ่ของสกอตแลนด์มูนไชน์[7]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เจมส์, IV ของสกอตแลนด์( r . 1488-1513 )มีรายงานว่าเคยชอบพอที่ดีเยี่ยมสำหรับวิสกี้ชาวสกอตและใน 1506 เมือง Dundee ซื้อจำนวนมากของวิสกี้จากสมาคมของศัลยแพทย์ติดไฟสว่างโร่วซึ่งการผูกขาดในการผลิตในช่วงเวลานี้ ระหว่าง 1536 และ 1541 กษัตริย์เฮนรี๘ของประเทศอังกฤษเลิกวัดพระสงฆ์ที่จะส่งออกไปยังประชาชนทั่วไปการผลิตวิสกี้ถูกย้ายออกจากการตั้งค่าที่โดดเด่นและเป็นส่วนตัวบ้านและฟาร์มเป็นพระสงฆ์ที่ได้รับอิสระที่จำเป็นสำหรับการค้นหาวิธีการที่ดีที่สุดเพื่อให้ได้มาซึ่งเงินทองสำหรับตัวเอง.[ 7 ],
พร้อมด้วยการใช้งานในการกลั่นเหล้าตามแบบไอริชจาก 1608 ,ที่เก่า bushmills กรมสรรพสามิตในชายฝั่งด้านทิศเหนือของไอร์แลนด์ที่เก่าแก่ที่สุดถูกต้องวิสกี้กรมสรรพสามิตในโลก.[ 11 ]
ใน 1707 แล้วให้การกระทำของ Union รวมประเทศอังกฤษและสกอตแลนด์,และหลังจากนั้นเก็บ ภาษี ได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก.[ 12 ]
หลังจากอังกฤษสูตร ภาษี ของ 1725 การกลั่นของประเทศสก็อตแลนด์ส่วนใหญ่ก็เป็นทั้งปิดระบบ( Shut Down )หรือบังคับให้รถไฟใต้ดิน วิสกี้ชาวสกอตก็ซ่อนตัวอยู่ใต้แท่นบูชาในโลงศพและอยู่ในพื้นที่ที่มีอยู่ใดๆเพื่อหลีกเลี่ยง governmentalexcisemen .[ 7 ] distillers ชาวสกอตที่ทำงานออกมาของสดวกสบายทำขึ้นอย่างสดใหม่ก็กลั่นวิสกี้ในเวลากลางคืนเมื่อความมืดที่ซ่อนตัวอยู่มีควันออกจากสดวกสบายได้ สำหรับเหตุผลนี้ดื่มเครื่องดื่มที่ได้กลายมาเป็นที่รู้จักเป็นเรื่องเหลวไหล.[ 13 ]ที่หนึ่งจุดที่ได้รับการประเมินว่าในช่วงครึ่งปีหลังของเอาต์พุตวิสกี้ของประเทศสก็อตแลนด์ก็ผิดกฎหมาย.[ 12 ],
อยู่ในอเมริกาเหนือวิสกี้ได้เคยถูกใช้เป็นเงินตราในระหว่างชาวอเมริกันการปฏิวัติ นอกจากนั้นโรงแรมยังเป็นสินค้ากระจุกกระจิกซึ่งเป็นอย่างสูงที่เป็นที่ปรารถนาและเมื่อจัดเก็บ ภาษี สรรพสามิตเพิ่มเติมที่เป็น ภาษี กับมันวิสกี้ที่ปะทุขึ้นในการปฏิวัติ 1791 .[ 14 ]
ในสหราชอาณาจักร 1823 ที่ผ่านมาการกระทำสรรพสามิตที่ตัดเอาการกลั่น(โดยคิดค่าธรรมเนียม)และในส่วนนี้มาทำที่ใช้งานได้จริงในการผลิตขนาดใหญ่ของชาวสกอตแสงจันทร์.[ 7 ],