Bioethanol production from lignocel

Bioethanol production from lignocellulosic biomass has been found to be a potential alternative to mitigate the alarming situation of increasing energy demand, fast consumption of fossil fuels and climate change. The objective of the study was to investigate the optimum conditions for the alcohol extraction process from vegetables and fruit wastes, which make up a large portion of agricultural waste in Mauritius. Focus was made on the different process parameters affecting the hydrolysis and fermentation processes including acid concentration and biomass loading and yeast concentration, pH, temperature and retention time, respectively, to achieve maximum alcohol yield. Dilute acid hydrolysis was found to be a safer and more efficient process compared to concentrated acid hydrolysis, despite its high sugar yield. An optimum value of 4600 mg reducing sugar per 100 ml hydrolysate was achieved after treatment with 5% (w/w) sulphuric acid and at a biomass loading of 20% (w/w). Yeast growth and enzyme activities were found to be optimum at a pH of 5.0 and a temperature of 33 °C when using 5% (w/v) SuperStart yeast (Saccharomyces cerevisiae), hence favouring ethanol production. Activated charcoal (10% w/v) was found to successfully remove inhibitors while keeping sugar degradation minimal. Therefore, under optimum extraction conditions, a maximum of 1.88% (v/v) ethanol yield could be produced after 80 h of fermentation. The study indicates that bioethanol production from agricultural waste could be a promising technology in Mauritius due to its low cost, abundance and renewable nature.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

พบ Bioethanol ผลิตจากชีวมวล lignocellulosic เพื่อเป็นทางเลือกที่เป็นไปได้เพื่อบรรเทาสถานการณ์น่าเป็นห่วงของการเพิ่มความต้องการพลังงาน การใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างรวดเร็ว วัตถุประสงค์ของการศึกษาคือการ ตรวจสอบเงื่อนไขเหมาะสมสำหรับการสกัดแอลกอฮอล์จากผักและผลไม้เสีย ซึ่งทำให้ค่าส่วนใหญ่ของเสียการเกษตรในสาธารณรัฐมอริเชียส เน้นบนพารามิเตอร์กระบวนการต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อกระบวนการไฮโตรไลซ์และหมักที่เข้มข้นกรดและชีวมวลที่โหลด และยีสต์เข้มข้น pH อุณหภูมิและการเก็บรักษา เวลา ตามลำดับ เพื่อให้บรรลุผลตอบแทนสูงสุดแอลกอฮอล์ พบไฮโตรไลซ์กรด dilute เป็น กระบวนการความปลอดภัย และมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อเทียบกับเข้มข้นกรดไฮโตรไลซ์ แม้มีผลผลิตของน้ำตาลสูง ค่าสูงสุดของ 4600 มก.ลดน้ำตาลต่อ 100 ml ด้วยสำเร็จหลังการรักษา ด้วยกรด 5% (w/w) และการโหลดชีวมวล 20% (w/w) ตรวจพบยีสต์เจริญเติบโตและเอนไซม์กิจกรรมให้เหมาะสมที่อุณหภูมิ 33 องศาเซลเซียสและ pH 5.0 เมื่อใช้ 5% (w/v) SuperStart ยีสต์ (Saccharomyces cerevisiae), การ favouring ผลิตเอทานอลดังนั้น ถ่าน (10% w/v) มีการค้นพบสำเร็จเอา inhibitors ขณะรักษาย่อยสลายน้ำตาลให้น้อยที่สุด ดังนั้น ภายใต้เงื่อนไขที่เหมาะสมแยก จำนวนผลผลิตเอทานอล 1.88% (v/v) สามารถผลิตหลัง h 80 ของหมักดอง การศึกษาบ่งชี้ว่า bioethanol ผลิตจากการเกษตรขยะสามารถได้เทคโนโลยีสัญญาในมอริเชียสต้นทุนต่ำ ความอุดมสมบูรณ์ และธรรมชาติทดแทน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การผลิตเอทานอลจากชีวมวลลิกโนเซลลูโลสได้รับพบว่าเป็นทางเลือกที่มีศักยภาพที่จะบรรเทาสถานการณ์ที่น่ากลัวของความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของปริมาณการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ วัตถุประสงค์ของการศึกษาคือเพื่อศึกษาสภาวะที่เหมาะสมในกระบวนการสกัดแอลกอฮอล์จากผักผลไม้และของเสียที่ทำขึ้นส่วนใหญ่ของเสียทางการเกษตรในประเทศมอริเชียส โฟกัสที่ถูกสร้างขึ้นในขั้นตอนที่แตกต่างกันพารามิเตอร์ที่มีผลต่อการย่อยและกระบวนการหมักรวมทั้งความเข้มข้นของกรดและโหลดชีวมวลและความเข้มข้นของยีสต์ pH, อุณหภูมิและการเก็บรักษาเวลาตามลำดับเพื่อให้บรรลุผลตอบแทนสูงสุดที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การย่อยสลายกรดเจือจางพบว่าจะเป็นกระบวนการที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อเทียบกับการย่อยสลายกรดเข้มข้นแม้จะมีผลผลิตน้ำตาลสูง ค่าสูงสุดของ 4600 มก. ลดน้ำตาลต่อ 100 มล. ไฮโดรไลก็ประสบความสำเร็จหลังการรักษาด้วย 5% (w / w) กรดกำมะถันและโหลดชีวมวล 20% (w / w) กิจกรรมการเจริญเติบโตของยีสต์และเอนไซม์ที่พบว่ามีการที่ดีที่สุดที่ pH 5.0 และอุณหภูมิ 33 ° C เมื่อใช้ 5% (w / v) SuperStart ยีสต์ (Saccharomyces cerevisiae) จึงนิยมผลิตเอทานอ ถ่านกัมมัน (10% w / v) พบว่าสารยับยั้งการลบประสบความสำเร็จในขณะที่การรักษาความเสื่อมโทรมของน้ำตาลน้อยที่สุด ดังนั้นภายใต้เงื่อนไขการสกัดที่เหมาะสมสูงสุด 1.88% (v / v) ผลผลิตเอทานอลสามารถผลิตได้หลังจาก 80 ชั่วโมงของการหมัก ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่าการผลิตเอทานอลจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรที่อาจจะเป็นเทคโนโลยีที่มีแนวโน้มในมอริเชียสเนื่องจากค่าใช้จ่ายต่ำของความอุดมสมบูรณ์และธรรมชาติทดแทน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การผลิตเอทานอลจากชีวมวล lignocellulosic ถูกพบว่าเป็นทางเลือกที่มีศักยภาพ เพื่อบรรเทาสถานการณ์ที่น่ากลัวของความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของพลังงาน , การใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาวะที่เหมาะสมสำหรับกระบวนการสกัดจากแอลกอฮอล์จากผักและผลไม้ซึ่งทำให้ขึ้นส่วนใหญ่ของวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร ในมอริเชียส เน้นทำในกระบวนการที่แตกต่างกันพารามิเตอร์ที่มีผลต่อการย่อยสลาย และกระบวนการหมัก ได้แก่ ความเข้มข้นของกรด และปริมาณและความเข้มข้นของยีสต์โหลด , pH , อุณหภูมิ และเวลา การเก็บรักษา ตามลำดับ เพื่อให้ได้ผลผลิตแอลกอฮอล์สูงสุดเจือจางกรดพบว่ามีกระบวนการที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อเทียบกับกรดเข้มข้น , แม้จะมีน้ำตาลสูง ผลผลิต เป็นค่าที่เหมาะสมของ 4 , 600 มิลลิกรัมต่อ 100 มิลลิลิตรมีปริมาณน้ำตาลจากหลังได้รับการรักษาด้วย 5 % ( w / w ) และปริมาณกรดที่โหลด 20 % ( w / w ) กิจกรรมการเจริญเติบโตของยีสต์และเอนไซม์ที่พบเป็นสูงสุดที่พีเอช 50 และที่อุณหภูมิ 33 องศา C เมื่อใช้ 5% ( w / v ) superstart ยีสต์ ( Saccharomyces cerevisiae ) จึงนิยมผลิตเอทานอล ผงถ่าน ( % w / v 10 ) พบว่าสารยับยั้งการย่อยสลายเรียบร้อยแล้วลบในขณะที่การรักษาน้ำตาลน้อยที่สุด ดังนั้น ภายใต้สภาวะการสกัดที่เหมาะสมสูงสุด 1.88 เปอร์เซ็นต์ ( v / v ) ผลผลิตเอทานอลสามารถผลิตหลัง 80 ชั่วโมงของการหมักจากการศึกษาพบว่า การผลิตเอทานอลจากวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร อาจเป็นเทคโนโลยีที่มีแนวโน้มในมอริเชียส เนื่องจากมีต้นทุนต่ำ อุดมสมบูรณ์ และทดแทนธรรมชาติ