However, it was not until the 1920s

However, it was not until the 1920s and 1930s that researchers actually tried to determine the power of mass communication in shaping values and behaviors of citizens. The motivation to learn more about the ways in which media could influence the public was provided, in large measure, by Adolf Hitler's propaganda machine, which seemed to have captured the minds of the German people through movies and staged rallies, and by the use by the use of the radio by Benito Mussolini in Italy and Father Charles Coughlin in the United States to stir public support and sentiment for the fascists. The Information and Education Branch of the United States Army began recruiting social scientist to study the influence of media persuasion. As researchers analyzed the effects of propaganda films such as The Battle of Britain or the pro-German magazine The Galilean, they confirmed what had been assumed for centuries. The media really were powerful; they had the strength not only to change people's attitudes but to alter their behavior. And because citizens were often helpless to resist the persuasion of propaganda, they were easily "bamboozled." Moreover, according to the researchers, these effects occurred in all people because, despite individual attributes and characteristics, individuals responded in the same way when they received similar messages. Audience were like mobs; there were no individual minds but only a group consciousness. Messages went directly from the media to the invidual, where they were immediately assimilated. "Messages were literally conceived of as being 'injected' into the mind where they were 'stored' in te form of change in feelings and attitudes. Eventually such feeling or attitudes produced the behavior desired by the message source." This is, essentially, what researcherd called the hypodermic effect, or the hypodermic needle model.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อย่างไรก็ตาม ไม่ถึงปี 1920 และ 1930s ที่นักวิจัยจะพยายามที่จะกำหนดอำนาจของสื่อสารมวลชนในการกำหนดทิศค่าและพฤติกรรมของประชาชน แรงจูงใจการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการในสื่อที่อาจมีผลกระทบต่อประชาชนได้รับ ในวัดขนาดใหญ่ เครื่องจักรโฆษณาชวนเชื่อของ Adolf Hitler ซึ่งดูเหมือนจะจับจิตใจของคนเยอรมัน ผ่านภาพยนตร์และชุมนุมกำหนด และการใช้โดยใช้วิทยุโดย Mussolini เบนิโต้ในอิตาลีและพ่อชาร์ลส์ Coughlin ในสหรัฐอเมริกาคนสนับสนุนของรัฐและความเชื่อมั่นสำหรับการ fascists ข้อมูลและสาขาการศึกษาของกองทัพสหรัฐอเมริกาเริ่มสรรหานักวิทยาศาสตร์สังคมศึกษาอิทธิพลของสื่อที่จูงใจ เป็นนักวิจัยวิเคราะห์ผลกระทบของภาพยนตร์โฆษณาชวนเชื่อเช่นการรบของอังกฤษหรือเยอรมันที่สนับสนุนนิตยสารเดอะ Galilean พวกเขายืนยันอะไรได้สันนิษฐานในศตวรรษ สื่อจริง ๆ ได้มีประสิทธิภาพ มีความแข็งแรงไม่เพียงแต่ การเปลี่ยนทัศนคติของคน แต่ใน การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของพวกเขา และเนื่องจากประชาชนได้มักกำพร้าเพื่อต่อต้านการจูงใจของการโฆษณาชวนเชื่อ พวกเขาได้ง่าย ๆ "bamboozled" นอกจากนี้ ตามนักวิจัย ลักษณะพิเศษเหล่านี้เกิดขึ้นในทุกคนเนื่องจาก แม้แต่ละคุณลักษณะและลักษณะ บุคคลตอบสนองในแบบเดียวกับเมื่อได้รับข้อความเหมือนกัน ผู้ชมได้เช่น mobs มีจิตใจละไม่แต่เฉพาะสติกลุ่ม ข้อความได้โดยตรงจากสื่อไป invidual ซึ่งพวกเขาได้ทันทีขนบธรรมเนียมประเพณี "ข้อความได้อย่างแท้จริงรู้สึกของเป็นการ 'ฉีด' ในจิตใจพวกเขาได้ 'เก็บ' ในแบบฟอร์มติของการเปลี่ยนแปลงในความรู้สึกและทัศนคติ ในที่สุดเช่นความรู้สึกหรือทัศนคติที่ผลิตลักษณะการทำงานที่ต้องการ โดยแหล่งข้อความ" อยู่ หลัก researcherd ใดผล hypodermic หรือแบบจำลองเข็มฉีดยา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อย่างไรก็ตามมันก็ไม่ได้จนกว่าปี ค.ศ. 1920 และ 1930 ที่นักวิจัยพยายามจริงเพื่อตรวจสอบการใช้พลังงานของสื่อสารมวลชนในการสร้างค่านิยมและพฤติกรรมของประชาชน แรงจูงใจที่จะเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการที่สื่ออาจมีผลต่อประชาชนที่ถูกจัดให้อยู่ในวัดใหญ่โดยอดอล์ฟฮิตเลอร์เครื่องโฆษณาชวนเชื่อซึ่งดูเหมือนจะได้จับจิตใจของชาวเยอรมันผ่านภาพยนตร์และฉากการชุมนุมและการใช้งานของ การใช้วิทยุโดยเบนิโตมุสโสลิในอิตาลีและพ่อชาร์ลส์ลินในประเทศสหรัฐอเมริกาที่จะกระตุ้นสนับสนุนจากประชาชนและความเชื่อมั่นสำหรับฟาสซิสต์ ข้อมูลและการศึกษาสาขาของกองทัพสหรัฐอเมริกาเริ่มการสรรหานักวิทยาศาสตร์ทางสังคมเพื่อศึกษาอิทธิพลของสื่อการชักชวน ในฐานะที่เป็นนักวิจัยวิเคราะห์ผลกระทบของภาพยนตร์โฆษณาชวนเชื่อเช่นยุทธภูมิบริเตนหรือนิตยสารโปรชาวเยอรมันของกาลิเลโอที่พวกเขายืนยันในสิ่งที่ได้รับการสันนิษฐานมานานหลายศตวรรษ สื่อจริงๆมีประสิทธิภาพ พวกเขามีความแข็งแรงไม่เพียง แต่จะเปลี่ยนทัศนคติของผู้คน แต่ที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของพวกเขา และเนื่องจากประชาชนมักจะทำอะไรไม่ถูกที่จะต่อต้านการชักชวนของการโฆษณาชวนเชื่อพวกเขาได้อย่างง่ายดาย "bamboozled". นอกจากนี้ตามที่นักวิจัยผลกระทบเหล่านี้เกิดขึ้นในทุกคนเพราะแม้จะแอตทริบิวต์ของแต่ละบุคคลและลักษณะบุคคลที่ตอบสนองในทางเดียวกันเมื่อพวกเขาได้รับข้อความที่คล้ายกัน ผู้ชมเป็นเหมือนฝูง; ไม่มีจิตใจของแต่ละบุคคล แต่จิตสำนึกกลุ่ม ข้อความไปโดยตรงจากสื่อเพื่อ invidual ที่พวกเขาได้หลอมรวมได้ทันที "ข้อความกำลังตั้งท้องของตัวอักษรที่ถูก 'ฉีด' ในใจที่พวกเขา 'ที่เก็บไว้ในรูปแบบของการเปลี่ยนแปลงในความรู้สึกและทัศนคติ TE. ความรู้สึกดังกล่าวในที่สุดหรือทัศนคติผลิตพฤติกรรมที่ต้องการโดยแหล่งที่มาของข้อความ". นี่คือเป็นหลักสิ่งที่ researcherd เรียกว่าผลฉีดยาหรือรูปแบบเข็มฉีดยา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แต่มันไม่ได้จนกว่าปี ค.ศ. 1920 และ 1930 ที่นักวิจัยพยายามหาพลังของการสื่อสารมวลชนในการสร้างค่านิยมและพฤติกรรมของประชาชน แรงจูงใจที่จะเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการที่สื่อจะมีอิทธิพลต่อประชาชนไว้ในวัดใหญ่ โดยอดอล์ฟฮิตเลอร์เครื่องโฆษณาชวนเชื่อซึ่งดูเหมือนจะกุมจิตใจของคนเยอรมันผ่านภาพยนตร์และ staged ชุมนุม และโดยการใช้ โดย ใช้ วิทยุ โดย เบนิโต มุสโสลินีในอิตาลีและคุณพ่อชาร์ลส์ลินในสหรัฐอเมริกาจะกระตุ้นสนับสนุนประชาชนและความเชื่อมั่นสำหรับเผด็จการข้อมูลและการศึกษาสาขาแห่งกองทัพสหรัฐอเมริกาเริ่มการสรรหานักวิทยาศาสตร์ทางสังคม อิทธิพลของสื่อที่ชักจูง เป็นนักวิจัยวิเคราะห์ผลของภาพยนตร์โฆษณา เช่น การต่อสู้ของสหราชอาณาจักรหรือโปรเยอรมัน นิตยสารของกาลิเลโอ พวกเขาได้รับการยืนยันสิ่งที่ได้รับถือว่าเป็นศตวรรษ สื่อเป็นพลังพวกเขามีความแข็งแรงไม่เพียง แต่จะเปลี่ยนทัศนคติของบุคคล แต่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของพวกเขา และเพราะประชาชนมักจะหมดหนทางที่จะต่อต้านการชักชวนของการโฆษณาชวนเชื่อ พวกเขาได้อย่างง่ายดาย " สับสน " นอกจากนี้ นักวิจัยบอกว่า ผลที่เกิดขึ้นในคน เพราะแม้จะมีคุณลักษณะส่วนบุคคลและคุณลักษณะบุคคลที่ตอบสนองในลักษณะเดียวกันเมื่อพวกเขาได้รับข้อความที่คล้ายกัน ผู้ชมเป็น mobs ; ไม่มีบุคคลจิตใจแต่กลุ่มสติ ข้อความไปโดยตรงจากสื่อที่ invidual ที่พวกเขาทันทีเหมือน ." ข้อความได้อย่างแท้จริงรู้สึกเป็น ' ฉีด ' ในจิตใจที่พวกเขา ' เก็บ ' ในรูปแบบทีเปลี่ยนแปลง ความรู้สึกและทัศนคติ ในที่สุด ความรู้สึกหรือทัศนคติดังกล่าวผลิตพฤติกรรมที่ต้องการ โดยข้อความแหล่ง . " นี้เป็นหลัก แล้ว researcherd เรียกว่าผลฉีดยา หรือเข็มฉีดยาแบบ