The Uncanny ValleyOne of the topics

The Uncanny Valley
One of the topics that I found typically interesting this week, was the boundaries between “real” and “artificial” online representations. New technologies have allowed us to create facial features and expressions so realistic, that it toys with our perception of humans and machines. A notion that I find very intriguing is the ‘Uncanny Valley ‘ theory by robotics professor Masahiro Mori. This was briefly mentioned in the Tomoko Koda reading, yet they failed to explore this notion further for readers who are previously unfamiliar with the theory. I believe this is a very important factor in relation to avatar culture, and therefore I’ve decided to expand on this concept that seems to have been skimmed over this week.

In the International Journal of Robotics and Automation, Tondu & Bardou (2011) give their interpretation of Mori’s Theory:

Mori’s uncanny valley can be understood as a warning for future developments in humanoid robotics: if the robot resembles a human being too much, it can generate “a sense of strangeness” – Tondu & Bardou, 2011, p.337

This theory was developed in 1970, when Avatars did not exists. However as videogames began to become more realistic, this theory which was based on robotic structures began to transcend in to avatar animation as well. It is is much easier to understand the theory based on the model below.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วัลเลย์ Uncanny
หนึ่งหัวข้อที่พบโดยทั่วไปน่าสนใจสัปดาห์นี้ เป็นรอยต่อระหว่าง "จริง" และ "เทียม" ออนไลน์แทน เทคโนโลยีใหม่ได้รับอนุญาตให้เราสร้างหน้าคุณสมบัติและนิพจน์ให้เป็นจริง มันของเล่นกับการรับรู้ของมนุษย์และเครื่องจักร แนวคิดที่พบมากน่าเป็นทฤษฎี 'Uncanny Valley' โดยศาสตราจารย์หุ่นมะโมริ นี้ได้กล่าวถึงสั้น ๆ ใน Tomoko Koda อ่าน แต่พวกเขาล้มเหลวในการสำรวจความคิดนี้ต่อไปสำหรับผู้อ่านที่ไม่คุ้นเคยกับทฤษฎีก่อนหน้านี้ ผมเชื่อว่า เป็นปัจจัยที่สำคัญมากเกี่ยวกับวัฒนธรรมอวตาร และดังนั้น ฉันได้ตัดสินใจขยายในแนวคิดนี้ดูเหมือนว่าจะมีการเอาผ่านสัปดาห์นี้ได้

ในนานาชาติสมุดของวิทยาการหุ่นยนต์ และระบบอัตโนมัติ Tondu & Bardou (2011) ให้ราคาของพวกเขาตีความทฤษฎีของโมริ:

หุบเขาพิลึกของโมริสามารถเข้าใจว่าเป็นคำเตือนสำหรับการพัฒนาในอนาคตในวิทยาการหุ่นยนต์อ้จ: ถ้าหุ่นยนต์คล้ายกับมนุษย์มากเกินไป มันสามารถสร้าง "ความรู้สึกของ strangeness" – Tondu & Bardou, 2011 ทฤษฎี p.337

This ได้รับการพัฒนาในปี 1970 เมื่ออวตารไม่ได้อยู่ อย่างไรก็ตาม เป็นสอนเริ่มเป็นจริงมากขึ้น ทฤษฎีนี้ซึ่งเป็นไปตามโครงสร้างหุ่นยนต์เริ่มกับ transcend ในการอวตารภาพเคลื่อนไหวเช่น เป็นมากง่ายต่อการเข้าใจทฤษฎีตามรุ่นด้านล่าง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หุบเขาลึกลับ
หนึ่งในหัวข้อที่ผมพบว่าโดยทั่วไปที่น่าสนใจในสัปดาห์นี้เป็นเขตแดนระหว่าง "ความจริง" และ "เทียม" ตัวแทนออนไลน์ เทคโนโลยีใหม่มีให้เราในการสร้างใบหน้าและการแสดงออกที่เป็นจริงเพื่อที่ของเล่นมันกับการรับรู้ของเรามนุษย์และเครื่อง ความคิดที่ว่าฉันพบที่น่าสนใจมากเป็นทฤษฎี 'หุบเขาลึกลับโดยหุ่นยนต์ศาสตราจารย์มาซาฮิโรโมริ นี้เป็นเวลาสั้น ๆ ที่กล่าวถึงในการอ่านโทโมโกะ Koda แต่พวกเขาล้มเหลวในการสำรวจความคิดนี้ต่อไปสำหรับผู้อ่านที่มีก่อนหน้านี้ที่ไม่คุ้นเคยกับทฤษฎี ผมเชื่อว่านี่เป็นปัจจัยที่สำคัญมากในความสัมพันธ์กับวัฒนธรรม avatar, และดังนั้นฉันได้ตัดสินใจที่จะขยายตัวในแนวความคิดที่ดูเหมือนว่าจะได้รับไขมันต่ำช่วงสัปดาห์นี้ในวารสารนานาชาติของหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ, Tondu & Bardou (2011) ให้ตีความของทฤษฎีโมริของ: โมริของหุบเขาลึกลับสามารถเข้าใจได้เป็นคำเตือนสำหรับการพัฒนาในอนาคตในหุ่นยนต์รูปทรง: ถ้าหุ่นยนต์คล้ายมนุษย์มากเกินไปก็สามารถสร้าง "ความรู้สึกของความแปลก" - Tondu & Bardou, 2011, p- 0.337 ทฤษฎีนี้ได้รับการพัฒนาในปี 1970 เมื่ออวตารไม่ได้มีอยู่ แต่เป็น videogames เริ่มที่จะกลายเป็นจริงมากขึ้นทฤษฎีซึ่งอยู่บนพื้นฐานโครงสร้างของหุ่นยนต์นี้ได้เริ่มต้นที่จะก้าวข้ามในการเคลื่อนไหว avatar เป็นอย่างดี มันเป็นเรื่องง่ายมากที่จะเข้าใจทฤษฎีที่อยู่บนพื้นฐานของรูปแบบด้านล่าง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แปลกหุบเขา
หนึ่งในหัวข้อที่ผมพบโดยทั่วไปที่น่าสนใจในสัปดาห์นี้คือเส้นแบ่งระหว่าง " ของจริง " และ " ประดิษฐ์ " ออนไลน์ที่ใช้แทน เทคโนโลยีใหม่มีให้เราสามารถสร้างใบหน้าและการแสดงออกมีเหตุผลนั่นมันของเล่นกับการรับรู้ของมนุษย์และเครื่องจักรความคิดที่ฉันพบที่น่าสนใจมากคือ ' ' หุบเขาลึกลับทฤษฎีโดยศาสตราจารย์หุ่นยนต์ มาซาฮิโร่ โมริ ถูกเอ่ยถึงในการอ่าน โทโมโกะ โคดะ แต่พวกเขาล้มเหลวที่จะสำรวจความคิดนี้ต่อไป สำหรับผู้อ่านที่ไม่คุ้นเคยมาก่อนด้วยทฤษฎี ผมเชื่อว่านี้เป็นปัจจัยที่สำคัญมากในความสัมพันธ์กับวัฒนธรรมอวตารและดังนั้นฉันตัดสินใจที่จะขยายแนวคิดนี้ดูเหมือนว่าจะได้รับไขมันต่ํากว่าสัปดาห์นี้

ในวารสารของวิทยาการหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ นานาชาติ tondu & bardou ( 2011 ) ให้ตีความทฤษฎีโมริ :

โมริก็ลึกลับ หุบเขาสามารถเข้าใจได้เป็นคำเตือนสำหรับอนาคตในการพัฒนาหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ : ถ้าหุ่นยนต์คล้ายมนุษย์มากมันสามารถสร้าง " ความรู้สึกของคนแปลกหน้า " ( tondu & bardou , 2011 , p.337

ทฤษฎีนี้ถูกพัฒนาขึ้นในปี 1970 เมื่ออวตารไม่ได้มีอยู่ แต่เป็นวิดีโอเกมที่เริ่มกลายเป็นจริงมากขึ้น ทฤษฎีนี้ซึ่งขึ้นอยู่กับโครงสร้างหุ่นยนต์เริ่มทำในอวตารภาพเคลื่อนไหวได้เป็นอย่างดี มันเป็นเรื่องง่ายที่จะเข้าใจทฤษฎีตามรูปแบบด้านล่าง