With the pressure on today’s young

With the pressure on today’s young people to succeed academically,
some people believe that non-academic subjects at school (e.g: physical education, religion and cookery)
should be removed from the syllabus so that children can concentrate wholly on academic subjects.

In my opinion, I do not think so, because every subjects has important for children.
Nobody knows what situation will happen in they life in the future, that possible they will need more skills,
maybe probably not academic skills. So we should give more choices for them to useful in day life.
This the reason why non-academic subjects is should be keep in syllabus at schools.

Firstly, nowadays, the most of women do not work at home, they working as men.
She dose not much time to look after her children, of course,
she does not much time to tech her children to know life skills too.
So school should be tech children to know about basis life skills Instead their family,
such as let them know how to cooking, it is very useful in day life, especially when they home alone.

Secondly, some children want to study in university, but some children not, if they want to study in vocational education,
sure, life skills on non-academic subjects are important rather than academic subjects.
Also, non-academic subjects can be help children to relax at school.
Maybe, Some children are good luck to found their talent.

To conclude , in recently years, many companies give the opportunities to everyone.
They do not care much of your education. Not always for only academically and everyone can be succeed in many ways.
So, I disagree of this topic, because I believe everything could be use both in real life.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มีความดันในคนหนุ่มสาววันนี้จะประสบความสำเร็จเดิมบางคนเชื่อว่า เรื่องวิชาการไม่ใช่ที่โรงเรียน (เช่น: พละศึกษา ศาสนา และอาหาร)ควรถูกเอาออกจากการสอนเพื่อให้เด็กสามารถมีสมาธิทั้งหมดในวิชาในความคิดของฉัน ฉันไม่คิดอย่างนั้น เนื่องจากทุกวิชามีความสำคัญสำหรับเด็กไม่มีใครรู้ว่าสถานการณ์อะไรจะเกิดขึ้นในพวกเขาในอนาคตชีวิต ว่า ได้พวกเขาจะต้องเพิ่มเติมทักษะทักษะทางวิชาการบางทีคงไม่ ดังนั้น เราควรให้เพิ่มเติมไว้เพื่อประโยชน์ในชีวิตวันเหตุผลที่ทำไมเป็นเรื่องวิชาการไม่ควรเก็บไว้ในตารางที่โรงเรียนประการแรก ปัจจุบัน ส่วนใหญ่ของผู้หญิงได้ที่บ้าน พวกเขาทำงานเป็นคนเธอยาเวลาไม่มากในการดูแลลูก แน่นอนเธอไม่ไม่มากเวลาเทคนิคลูกรู้ทักษะชีวิตเกินไปดังนั้น โรงเรียนควรเป็นเด็กเทคนิคที่เกี่ยวกับทักษะชีวิตพื้นฐานแทนครอบครัวเช่นปล่อยให้ พวกเขารู้วิธีการทำอาหาร มันเป็นประโยชน์อย่างมากในชีวิตวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขาบ้านคนเดียวประการที่สอง เด็กบางคนต้องการเรียนในมหาวิทยาลัย แต่เด็กบางไม่ ถ้าพวกเขาต้องการเรียนอาชีวศึกษาแน่นอน ทักษะชีวิตในเรื่องวิชาการไม่มีความสำคัญมากกว่าวิชายัง เรื่องวิชาการไม่ได้ช่วยเด็ก ๆ โรงเรียนบางที เด็กบางโชคดีที่พบพรสวรรค์ของพวกเขาหลายบริษัทให้โอกาสทุกคนเพื่อสรุป ในล่าสุดปีพวกเขาไม่สนใจมากของการศึกษาของคุณ ไม่เสมอสำหรับเท่าเดิม และทุกคนสามารถจะประสบความสำเร็จในการดังนั้น ฉันไม่เห็นด้วยของหัวข้อนี้ เพราะทุกอย่างอาจจะใช้ทั้งในชีวิตจริง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ที่มีความดันในคนหนุ่มสาววันนี้จะประสบความสำเร็จด้านวิชาการ
บางคนเชื่อว่าวิชาที่ไม่ใช่ทางด้านวิชาการที่โรงเรียน (เช่นการศึกษาทางกายภาพศาสนาและการปรุงอาหาร)
ควรจะออกจากหลักสูตรเพื่อให้เด็กสามารถมีสมาธิในเครือในเรื่องการศึกษา. ในความคิดของฉัน ผมไม่คิดอย่างนั้นเพราะอาสาสมัครทุกคนมีความสำคัญสำหรับเด็ก. ไม่มีใครรู้ว่าสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในชีวิตของพวกเขาในอนาคตที่เป็นไปได้ที่พวกเขาจะต้องมีทักษะมากขึ้นบางทีอาจจะไม่ได้ทักษะทางวิชาการ ดังนั้นเราจึงควรให้ทางเลือกมากขึ้นสำหรับพวกเขาเพื่อประโยชน์ในชีวิตประจำวัน. นี้เหตุผลว่าทำไมวิชาที่ไม่ใช่ทางด้านวิชาการเป็นที่ควรจะเก็บไว้ในหลักสูตรที่โรงเรียน. ประการแรกในปัจจุบันส่วนใหญ่ของผู้หญิงไม่ทำงานที่บ้านพวกเขาทำงานเป็นผู้ชายเธอยาเวลาไม่มากที่จะดูแลลูก ๆ ของเธอแน่นอนเธอไม่ได้เวลามากที่จะมีเทคโนโลยีลูก ๆ ของเธอที่จะรู้ทักษะชีวิตด้วย. ดังนั้นโรงเรียนควรจะเป็นเด็กที่มีเทคโนโลยีความรู้เกี่ยวกับทักษะชีวิตพื้นฐานแทนครอบครัวของพวกเขาเช่นปล่อยให้พวกเขารู้ว่า วิธีการปรุงอาหารที่จะเป็นประโยชน์อย่างมากในชีวิตประจำวันโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขากลับบ้านคนเดียว. ประการที่สองเด็กบางคนต้องการที่จะศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย แต่เด็กบางคนไม่ได้ถ้าพวกเขาต้องการที่จะศึกษาในการศึกษาอาชีวศึกษาแน่ใจว่าทักษะชีวิตในที่ไม่ใช่นักวิชาการ วิชาที่มีความสำคัญมากกว่าเรื่องการศึกษา. นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่ไม่สามารถทางวิชาการที่จะช่วยให้เด็กผ่อนคลายที่โรงเรียน. บางทีเด็กบางคนมีความโชคดีที่จะพบความสามารถของพวกเขา. สรุปในปีที่เมื่อเร็ว ๆ นี้หลาย บริษัท เปิดโอกาสให้กับทุกคนพวกเขาไม่สนใจมากจากการศึกษาของคุณ ไม่เสมอไปเพียงด้านวิชาการและทุกคนสามารถประสบความสำเร็จในหลาย ๆ . ดังนั้นผมไม่เห็นด้วยของหัวข้อนี้เพราะผมเชื่อว่าทุกอย่างอาจจะใช้ทั้งในชีวิตจริง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กับความดันในคนหนุ่มสาวในวันนี้ประสบความสำเร็จในด้านวิชาการ
บางคนเชื่อว่า ไม่วิชาการ วิชาที่โรงเรียน ( เช่น : พลศึกษา , ศาสนาและการปรุงอาหาร )
ควรจะลบออกจากหลักสูตรเพื่อให้เด็กมีสมาธิทั้งหมดวิชาการ

ในความเห็นของผม ผมไม่คิดอย่างนั้น เพราะ ทุกวิชาก็สำคัญสำหรับเด็ก
ไม่มีใครรู้ว่าสถานการณ์จะเกิดอะไรขึ้นในพวกเขาชีวิตในอนาคต เป็นไปได้ว่าพวกเขาจะต้องการทักษะมากกว่า
บางทีอาจไม่วิชาการ ทักษะ ดังนั้นเราควรจะให้ตัวเลือกมากขึ้นสำหรับพวกเขาเพื่อประโยชน์ในชีวิตประจำวัน .
นี้เหตุผลที่วิชาการอยู่ไว้ในหลักสูตรของโรงเรียน

ก่อนอื่น ทุกวันนี้ ผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่ได้ทำงานที่บ้าน พวกเขาทำงานเป็นผู้ชาย
เธอพบว่าไม่มีเวลาดูแลเด็กของเธอแน่นอน
เธอไม่มีเวลามากที่จะเทค ลูกรู้ทักษะชีวิตด้วย ดังนั้น โรงเรียนควรเทค
เด็กรู้เกี่ยวกับพื้นฐาน ทักษะชีวิต แทนครอบครัวของพวกเขา
เช่นให้พวกเขารู้วิธีการทำอาหาร มันจะมีประโยชน์มากในชีวิต วัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขากลับบ้านคนเดียว

ประการที่สอง เด็กบางคนอยากเรียนในมหาวิทยาลัย แต่เด็กบางคนไม่ได้ถ้าพวกเขาต้องการที่จะศึกษาอาชีวศึกษา
ว่า ทักษะชีวิตในวิชาวิชาการไม่สําคัญมากกว่าวิชาการ .
นอกจากนี้ วิชาการไม่สามารถช่วยให้เด็กผ่อนคลายที่โรงเรียน
บางที บางลูกจะโชคดีพบพรสวรรค์ของตัวเอง

สรุปเมื่อเร็ว ๆ นี้ ปี หลาย บริษัท ให้โอกาสทุกคน .
พวกเขาไม่ได้มากดูแลการศึกษาไม่เพียงในด้านวิชาการและทุกคนสามารถประสบความสำเร็จในหลายวิธี .
ผมไม่เห็นด้วยในกระทู้นี้ เพราะผมเชื่อว่าทุกอย่างสามารถใช้ทั้งในชีวิตจริง