A story tells of two friends who we

A story tells of two friends who were walking through the desert. During some point of the journey, they had an argument, and one friend slapped the other one in the face. The one who got slapped was hurt, but without saying anything, she wrote in the sand:

"TODAY MY BEST FRIEND SLAPPED ME IN THE FACE"

They kept on walking, until they found an oasis, where they decided to take a bath. The one who had been slapped got stuck in the mire and started drowning, but her friend saved her. After she recovered from the near drowning, she wrote on a stone:

"TODAY MY BEST FRIEND SAVED MY LIFE"

The friend, who had slapped and saved her best friend, asked her, "After I hurt you, you wrote in the sand, and now, you write on a stone, why?"

The other friend replied: "When someone hurts us, we should write it down in sand, where the winds of forgiveness can erase it, but when someone does something good for us, we must engrave it in stone, so no wind can ever erase it."

LEARN TO WRITE YOUR HURTS IN THE SAND AND TO CARVE YOUR BLESSINGS IN STONE.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บอกเรื่องราวของเพื่อนสองคนเดินผ่านทะเลทราย ในบางจุดของการเดินทาง มีอาร์กิวเมนต์ และเพื่อนหนึ่ง slapped หนึ่งในใบหน้า คน slapped ได้ถูกทำร้าย แต่ไม่พูดอะไร เธอเขียนทราย:

"วันนี้เพื่อนของฉัน SLAPPED ฉันในหน้า"

จะเก็บในห้อง จนกระทั่งพวกเขาพบโอเอซิส ที่พวกเขาตัดสินใจที่จะอาบน้ำ ผู้ที่ได้รับ slapped ได้ติดอยู่ในไมร์ และเริ่มจม แต่บันทึกเพื่อนเธอ หลังจากที่เธอกู้คืนจากจมใกล้ เธอเขียนบนหิน:

"วันนี้เพื่อนที่ดีที่สุดบันทึกชีวิตของฉัน"

ถามเพื่อน ที่มี slapped และบันทึกเพื่อนของเธอ เธอ, "หลังจากที่ฉันทำร้ายคุณ คุณเขียนทราย และตอนนี้ คุณเขียนบนหิน ทำไม? "

เพื่อนอื่น ๆ ตอบ: "เมื่อคนเจ็บเรา เราควรเขียนมันลงใน ทราย ที่ลมของพระองค์สามารถลบได้ แต่เมื่อคนไม่ดี ๆ เรา เราต้องแกะสลักได้ในหิน เพื่อลมไม่เคยสามารถลบมัน"

เรียนเขียนเจ็บของทราย และแกะสลักของคุณพรในหิน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เรื่องราวที่จะบอกให้ของเพื่อนทั้งสองคนเดินผ่านทะเลทราย ในระหว่างจุดเชื่อมต่อบางอย่างของการเดินทางที่เขามีอาร์กิวเมนต์และหนึ่งให้เพื่อนตบอีกคนหนึ่งที่อยู่ในหน้าที่ เป็นคนที่มีตบได้รับบาดเจ็บหนักแต่ไม่มีพูดอะไรก็เขียนไว้ในหาดทรายที่ดีที่สุดเพื่อนของฉัน:

"ในวันนี้ตบหน้า"

พวกเขาได้รับการดูแลรักษาให้อยู่ในเดินไปถึงยังจนกว่าพวกเขาก็พบว่าเป็นโอเอซิสที่มีมติให้อาบน้ำเป็นคนที่ได้รับการตบได้ติดอยู่ในโคลนและเริ่มจมน้ำตายแต่เพื่อนของเธอที่บันทึกของเธอ หลังจากที่เธอได้คืนมาจากใกล้กับจมน้ำตายที่เธอเขียนบนหินที่ดีที่สุดเพื่อนของฉัน:

"ในวันนี้ถูกบันทึกไว้เพื่อนชีวิต"

ของฉันที่ได้ตบและบันทึกไว้เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอถูกถามเธอว่า"หลังจากที่ผมทำอะไรคุณได้เขียนในหาดทรายและในตอนนี้คุณจะเขียนข้อมูลลงบนก้อนหินที่ทำไมจึงเป็นเช่นนี้?"

เพื่อนคนอื่นๆที่ตอบ"เมื่อมีคนทำร้ายเราเราควรเขียนลงในหาดทรายที่ลมแรงที่อโหสิกรรมสามารถลบได้แต่เมื่อมีคนทำอะไรสักอย่างที่ดีสำหรับเราเราต้องแกะแม่พิมพ์ในหินดังนั้นจึงไม่มีลมสามารถลบได้"

เรียนรู้ที่จะเขียนของคุณจะเจ็บปวดในหาดทรายและเพื่อจารึกพระพรของคุณในก้อนหินมา