Incidents and accidents[edit]At JAC

Incidents and accidents[edit]
At JACDEC Airline Safety Ranking 2015, KLM is ranked fifth place out of 60 major airlines.[157] It is the only European airline in the JACDEC top ten.[157] The most notable accident involving a KLM aircraft was the 1977 Tenerife airport disaster, which led to 583 fatalities. Since the Tenerife disaster, no KLM flight has led to fatalities.

Tenerife airport disaster[edit]
The Tenerife disaster, which occurred on 27 March 1977, remains the accident with the highest number of airliner passenger fatalities. 583 people died when a KLM Boeing 747-206B attempted to take off without clearance, and collided with a taxiing Pan Am 747-121 at Los Rodeos Airport on the Canary Island of Tenerife, Spain. There were no survivors from the KLM aircraft; 61 of the 396 passengers and crew on the Pan Am aircraft survived. Pilot error from the KLM aircraft was the primary cause. Owing to a communication misunderstanding, the KLM captain thought he had clearance for takeoff.[158][159] Another cause was dense fog, meaning the KLM flight crew was unable to see the Pan Am aircraft on the runway until immediately prior to the collision.[160] The accident had a lasting influence on the industry, particularly in the area of communication. An increased emphasis was placed on using standardized phraseology in air traffic control (ATC) communication by both controllers and pilots alike, thereby reducing the chance for misunderstandings. As part of these changes, the word "takeoff" was removed from general usage, and is only spoken by ATC when actually clearing an aircraft to take off.[161]

Other fatal accidents[edit]
1920s–1930s[edit]
On 24 April 1923, Fokker F.III H-NABS departed Lympne for Rotterdam and Amsterdam. The aircraft was not heard from again. It was presumed to have crashed into the sea, killing the pilot and both passengers.[162]
On 25 June 1925, Fokker F.III H-NABM struck trees and crashed at Locquignol, France while flying too low in poor visibility, killing all four on board.
On 9 July 1926, Fokker F.VII H-NACC crashed in thick fog near Wolverthem, Belgium, killing both pilots.
On 22 August 1927, Fokker F.VIII H-NADU crashed near Sevenoaks, England. One crewmember was killed.[163]
On 14 July 1928, Fokker F.III H-NABR crashed at Waalhaven after striking several ship masts after takeoff; one passenger drowned when the fuselage sank.
On 20 December 1934, KLM Douglas DC-2 PH-AJU "Uiver" crashed at Rutbah Wells, Iraq, killing all occupants. The aircraft had participated in the Mac Robertson Air Race in October 1934, and won the handicap division. It was on its first flight after return from the race and was en route to the Netherlands East Indies carrying Christmas mail when it crashed.[164]
On 6 April 1935, KLM Fokker F.XII PH-AFL "Leeuwerik" struck a mountain 15 km (9 mi) from Brilon, France while flying too low, killing all seven on board.
On 14 July 1935, KLM Fokker F.XXII PH-AJQ "Kwikstaart" crashed and burned just outside Schiphol after both left side engines failed due to a defect in the fuel system, killing four crew and two passengers. Fourteen occupants survived.[10]
On 20 July 1935, KLM Douglas DC-2 PH-AKG "Gaai" crashed near the San Bernardino Pass near Pian San Giacomo, killing all three crew and all 10 passengers.[10]
On 9 December 1936, KLM Douglas DC-2 PH-AKL "Lijster" crashed into a house after taking off from Croydon Airport, London. The accident killed 15 of the 17 people on board the aircraft.
On 3 April 1937, KLM Douglas DC-3 PH-ALP "Pluvier" was being delivered to KLM when it struck Mount Baldy, Arizona, killing all eight on board.[165]
On 28 July 1937, KLM Douglas DC-2 PH-ALF "Flamingo" crashed in a field near Beert, Belgium. The crash was caused by an in-flight fire and killed all 15 on board.[166]
On 6 October 1937, KLM Douglas DC-3 PH-ALS "Specht" crashed on take-off from Talang Betoetoe Airport, killing three crew and one passenger; the co-pilot and seven passengers survived.[167]
On 14 November 1938, KLM Douglas DC-3 PH-ARY "IJsvogel" struck the ground and crashed near Schiphol Airport for unknown reasons, killing six of 19 on board.[168]
On 9 December 1938, KLM Lockheed Model 14 Super Electra PH-APE "Ekster" crashed on take-off from Schiphol Airport because of engine failure while on a training flight, killing the four crew.[169]
On 10 June 1939, KLM Koolhoven F.K.43 "Krekel" stalled and crashed at Vlissingen, killing all three on board.
1940s[edit]
On 28 December 1941, KNILM Douglas DC-3 PK-ALN "Nandoe" (formerly KLM PH-ALN) was destroyed on the ground by Japanese fighters at Medan, North Sumatra, Dutch East Indies, killing all crew members and passengers.
On 1 June 1943, KLM Douglas DC-3 PH-ALI "Ibis", which had escaped the Dutch occupation and was operating under lease to BOAC, operating BOAC Flight 777, was shot down by eight German Junkers Ju 88 fighters over the Bay of Biscay while on the scheduled Lisbon-Bristol route. All 13 passenger

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เหตุการณ์และอุบัติเหตุ [แก้]ที่ JACDEC สายการบินปลอดภัยอันดับ 2015, KLM เป็นอันดับห้าจาก 60 สายการบินหลัก [157] มันเป็นสายการบินยุโรปเฉพาะใน JACDEC สิบ [157] อุบัติเหตุโดดเด่นที่สุดที่เกี่ยวข้องกับเครื่องบิน KLM ถูก 1977 Tenerife สนามบินภัยพิบัติ ซึ่งนำไปสู่การเสียชีวิต 583 ตั้งแต่ภัยพิบัติเตเนรีเฟ บิน KLM ไม่ทำให้เสียชีวิตภัยสนามบินเทเนริเฟ [แก้]เตเนรีเฟภัยพิบัติ ซึ่งเกิดขึ้นบน 27 1977 มีนาคม ยังคง เกิดอุบัติเหตุ ด้วยหมายเลขสูงสุดของสายการบินผู้โดยสารเสียชีวิต 583 คนเสียชีวิตเมื่อ 206B-เครื่องบินโบอิ้ง 747 ที่ KLM พยายามที่จะปิด โดยไม่มีพิธีการ และ มีการ taxiing Pan Am 747-121 ลอส Rodeos สนามบินบนเกาะเตเนรีเฟคานารี สเปน มีผู้รอดชีวิตจากเครื่องบิน KLM 61 396 ผู้โดยสารและลูกเรือบนเครื่องบิน Pan Am อยู่รอด ข้อผิดพลาดที่นักบินจากเครื่องบิน KLM คือ สาเหตุหลัก เนื่องจากความเข้าใจผิดของการสื่อสาร KLM กัปตันคิดว่า เขามีพิธีการสำหรับสนามบิน [158] [159] อีกสาเหตุถูกหมอกหนาแน่น ความหมาย ลูกเรือเที่ยวบิน KLM ไม่สามารถเห็นเครื่องบิน Pan Am บนรันเวย์จนทันทีก่อนการชน [160] อุบัติเหตุมีอิทธิพลยั่งยืนในอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ของการสื่อสาร เน้นเพิ่มถูกวางลงบนใช้ phraseology มาตรฐานในการสื่อสาร (ATC) การควบคุมการจราจรอากาศ โดยควบคุมและนักบินเหมือนกัน จึงช่วยลดโอกาสที่จะเกิดความเข้าใจผิด เป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ คำว่า "บิน" ถูกเอาออกจากการใช้งานทั่วไป และเป็นเพียงพูด โดย ATC เมื่อล้างเครื่องบินจะออกจริง [161]อุบัติเหตุอื่น ๆ [แก้]ช่วงทศวรรษปี 1920 – 1930 [แก้]24 เมษายน 1923 ฟอก F.III H-NABS ออก Lympne รอตเตอร์ดัมและอัมสเตอร์ดัม เครื่องบินก็ไม่ได้ยินจากอีกครั้ง มันถูกสันนิษฐานว่ามี crashed ลงทะเล ฆ่านักบินและผู้โดยสารทั้งสอง [162]ในวันที่ 25 มิถุนายนค.ศ. 1925 ฟอก F.III H-NABM หลงต้นไม้ และชนใน Locquignol ฝรั่งเศสในขณะที่บินต่ำเกินไปในทัศนวิสัยไม่ดี ฆ่าสี่บนกระดานบน 9 1926 กรกฎาคม ฟอก F.VII H-ป.ป.ช.ชนหมอกหนาใกล้ Wolverthem เบลเยียม ฆ่านักบินทั้งสองบน 22 1927 สิงหาคม ฟอก F.VIII H-นาฑูชนใกล้เซเว่นโอ๊ค อังกฤษ หนึ่งสมาชิกลูกเรือถูกฆ่าตาย [163]บน 14 1928 กรกฎาคม ฟอก F.III H-NABR ชนที่ Waalhaven หลังจากที่โดดเด่นหลายเรือเสาเครือข่ายหลังจากบินขึ้น ผู้โดยสารหนึ่งจมน้ำเมื่อลำตัวจมลงบน 20 1934 ธันวาคม KLM ดักลาสดีซี-2 PH-AJU "Uiver" หยุดที่ Rutbah Wells อิรัก ฆ่าผู้โดยสารทั้งหมด เครื่องบินได้เข้าร่วมการแข่งขันอากาศโรเบิร์ต Mac ใน 1934 ตุลาคม และชนะดิแฮนดิแคป มันเที่ยวบินแรกของมันหลังจากกลับจากการแข่งขัน และเส้นทางไปยังเนเธอร์แลนด์อินเดียตะวันออกถือจดหมายคริสต์มาสเมื่อมันชน [164]บน 6 1935 เมษายน KLM ฟอก F.XII PH-AFL "Leeuwerik" หลงภูเขา 15 กม. (9 ไมล์) จาก Brilon ฝรั่งเศสขณะบินต่ำเกินไป ฆ่าเจ็ดทั้งหมดบนกระดานบน 14 1935 กรกฎาคม KLM ฟอก F.XXII PH-AJQ "Kwikstaart" หยุด และเขียนนอกสกิปโพลหลังทั้งด้านเครื่องยนต์ล้มเหลวเนื่องจากข้อบกพร่องในระบบน้ำมันเชื้อเพลิง ฆ่าสี่ลูกเรือและผู้โดยสารสองคน สิบสี่ผู้รอดชีวิตมา [10]บน 20 กรกฎาคมปี 1935, KLM ดักลาสดีซี-2 PH-AKG "Gaai" ชนใกล้ซานเบอร์นาร์ดิโนผ่านใกล้จาโกโมซานเซเปียน ฆ่าทั้งหมดสามลูกเรือและผู้โดยสารทั้งหมด 10 [10]บน 9 1936 ธันวาคม KLM ดักลาสดีซี-2 PH-AKL "Lijster" ชนเข้าบ้านหลังจากการปิดสนามบินครอยดอน ลอนดอน อุบัติเหตุฆ่า 15 จาก 17 คนบนเครื่องบินบน 3 1937 เมษายน KLM ดักลาสดีซี-3 PH-แอลป์ "Pluvier" ก็ถูกส่งมายัง KLM เมื่อหลงติดคนมีศีรษะล้าน อริโซนา ฆ่าทั้งหมดแปดบนกระดาน [165]บน 28 1937 กรกฎาคม KLM ดักลาสดีซี-2 PH-ALF "ฟลามิงโก" พังในเขตใกล้ Beert เบลเยียม ความล้มเหลวเกิดจากไฟบนเครื่องบิน และฆ่าทั้งหมด 15 บนกระดาน [166]บน 6 1937 ตุลาคม KLM ดักลาสดีซี-3 PH-ALS "Specht" ชนบนออกเดินทางจากสนาม บิน Betoetoe ถลาง ฆ่าสามลูกเรือ และผู้ โดยสาร 1 นักบินร่วมและเจ็ดผู้โดยสารรอดชีวิต [167]บน 14 1938 พฤศจิกายน KLM ดักลาสดีซี-3 PH-ARY "IJsvogel" หลงดิน และชนใกล้สนามบินสกิปโพลไม่ทราบสาเหตุ ฆ่า 19 บนกระดานหก [168]บน 9 1938 ธันวาคม KLM ล็อกฮีดรุ่น 14 ซูเปอร์อีเลคตร้า PH ลิง "Ekster" หยุดบนออกเดินทางจากสนามบินเนื่องจากเครื่องยนต์ขัดข้องขณะบินฝึก ฆ่าลูกเรือสี่ [169]บน 10 1939 มิถุนายน KLM Koolhoven F.K.43 "Krekel" เครื่อง และชนที่ Vlissingen ฆ่าทั้ง 3 บนกระดานปี 1940 [แก้]บน 28 1941 ธันวาคม KNILM ดักลาสดีซี-3 PK-ALN "Nandoe" (เดิมคือ PH-ALN ของ KLM) ถูกทำลายบนพื้นดิน โดยเครื่องบินรบญี่ปุ่นที่เมดาน สุมาตราเหนือ ดัตช์ อินเดียตะวันออก ฆ่าลูกเรือและผู้โดยสารทั้งหมดบน 1 1943 มิถุนายน KLM ดักลาสดีซี-3 PH-อาลี "ไอบิส" ซึ่งหนีไปอาชีพดัตช์ และแก้ไขการดำเนินงานภายใต้สัญญาเช่าการ BOAC, 777 บิน BOAC ในการทำงาน ถูกยิงลง โดยเครื่องบินรบเยอรมันจาก Ju 88 แปดเหนือของทวีปในขณะอยู่ในเส้นทางลิสบอนบริสตอลตามกำหนดการ ผู้โดยสาร 13 ทั้งหมด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและอุบัติเหตุ [แก้ไข]
ที่ JACDEC สายการบินเพื่อความปลอดภัยการจัดอันดับในปี 2015 KLM มีการจัดอันดับสถานที่ที่ห้าจาก 60 สายการบิน. [157] มันเป็นเพียงสายการบินยุโรปในสิบอันดับแรก JACDEC. [157] อุบัติเหตุที่น่าทึ่งที่สุดที่เกี่ยวข้องกับเครื่องบิน KLM เป็น 1977 Tenerife ภัยพิบัติที่สนามบินซึ่งนำไปสู่การเสียชีวิต 583 เนื่องจากภัยพิบัติ Tenerife ไม่มีเที่ยวบิน KLM ได้นำไปสู่การเสียชีวิต.

ภัยพิบัติสนามบิน Tenerife [แก้ไข]
ภัยพิบัติ Tenerife ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 1977 ยังคงเกิดอุบัติเหตุที่มีจำนวนสูงสุดของการเสียชีวิตของผู้โดยสารสายการบิน 583 คนเสียชีวิตเมื่อ KLM โบอิ้ง 747-206B พยายามจะเอาออกได้โดยไม่ต้องกวาดล้างและชนกับแล่นแพน 747-121 ที่ลอสโรดีโอสนามบินบนเกาะคะเนรีของ Tenerife, สเปน มีผู้รอดชีวิตจากเครื่องบิน KLM ไม่ได้; 61 ผู้โดยสาร 396 และลูกเรือบนเครื่องบินสายการบินแพนรอดชีวิต นักบินผิดพลาดจากเครื่องบิน KLM เป็นสาเหตุหลัก เนื่องจากความเข้าใจผิดในการสื่อสารกัปตัน KLM คิดว่าเขามีการกวาดล้างสำหรับสนามบิน. [158] [159] สาเหตุอีกประการหนึ่งคือมีหมอกหนาหมายถึง KLM ลูกเรือก็ไม่สามารถที่จะเห็นเครื่องบินแพนแอมบนรันเวย์จนทันทีก่อนที่จะชนกัน. [160] อุบัติเหตุที่มีอิทธิพลยาวนานในอุตสาหกรรมโดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ของการสื่อสาร ความสำคัญที่เพิ่มขึ้นถูกวางลงบนใช้ถ้อยคำมาตรฐานในการควบคุมการจราจรทางอากาศ (ATC) การสื่อสารโดยทั้งสองตัวควบคุมและนักบินเหมือนกันซึ่งจะช่วยลดโอกาสในการเข้าใจผิด ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้คำว่า "สนามบิน" ถูกลบออกจากการใช้งานทั่วไปและเป็นที่พูดโดยเฉพาะ ATC จริงเมื่อล้างเครื่องบินที่จะปิด. [161]

เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงอื่น ๆ [แก้ไข]
1920- 1930 [แก้ไข]
24 เมษายน 1923 ฟอก F.III H-NAbs ออก Lympne สำหรับร็อตเตอร์และอัมสเตอร์ดัม เครื่องบินที่ไม่เคยได้ยินจากเขาอีก มันได้รับการสันนิษฐานว่ามีความล้มเหลวลงไปในทะเลฆ่านักบินและผู้โดยสารทั้งสอง. [162]
ที่ 25 มิถุนายน 1925 ฟอก F.III H-NABM หลงต้นไม้และตรวจค้นที่ Locquignol, ฝรั่งเศสในขณะที่บินต่ำเกินไปในการมองเห็นไม่ดีฆ่าทุกคน สี่บนกระดาน.
9 กรกฏาคม 1926 ฟอก F.VII H- ป.ป.ช. ตกอยู่ในหมอกหนาใกล้ Wolverthem เบลเยียมฆ่านักบินทั้งสอง.
ที่ 22 สิงหาคม 1927 ฟอก F.VIII H-NADU ตกใกล้ Sevenoaks อังกฤษ หนึ่งในลูกเรือถูกฆ่าตาย [163].
14 กรกฏาคม 1928 ฟอก F.III H-NABR ตรวจค้นที่ Waalhaven หลังจากที่โจมตีเสากระโดงเรือหลายหลังจากที่สนามบิน; ผู้โดยสารคนหนึ่งจมน้ำเมื่อลำตัวจม.
ที่ 20 ธันวาคม 1934 KLM ดักลาส DC-2 PH-AJU "Uiver" ตรวจค้นที่ Rutbah เวลส์อิรักฆ่าผู้โดยสารทั้งหมด เครื่องบินที่มีส่วนร่วมในการแข่งขันแม็คโรเบิร์ตแอร์ในเดือนตุลาคมปี 1934 และได้รับรางวัลส่วนแฮนดิแค มันอยู่ในการบินครั้งแรกหลังจากที่กลับจากการแข่งขันและเป็นเส้นทางที่จะไปเนเธอร์แลนด์อินเดียตะวันออกแบกอีเมลคริสต์มาสเมื่อมันตก. [164]
ที่ 6 เมษายน 1935 KLM ฟอก F.XII PH-แอฟ "Leeuwerik" หลงภูเขา 15 กม. (9 ไมล์) จากบรีโลน, ฝรั่งเศสในขณะที่บินต่ำเกินไปฆ่าทั้งเจ็ดบนกระดาน.
14 กรกฏาคม 1935 KLM ฟอก F.XXII PH-AJQ "Kwikstaart" ชนและเผานอกสนามบิน Schiphol หลังจากที่ทั้งสองเครื่องยนต์ด้านซ้ายล้มเหลวเนื่องจาก ข้อบกพร่องในระบบน้ำมันเชื้อเพลิงฆ่าสี่ผู้โดยสารและลูกเรือสอง สิบสี่ผู้โดยสารรอดชีวิต. [10]
20 กรกฏาคม 1935 KLM ดักลาส DC-2 PH-AKG "กาย" ตกใกล้ซานดิโอผ่านใกล้ Pian San Giacomo ฆ่าทั้งสามและลูกเรือทั้งหมด 10 ผู้โดยสาร. [10]
เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 1936 , KLM ดักลาส DC-2 PH-AKL "Lijster" ชนเข้าบ้านหลังจากการออกจากสนามบินใน Croydon, ลอนดอน อุบัติเหตุที่ฆ่า 15 จาก 17 คนบนเรือเครื่องบิน.
ที่ 3 เมษายน 1937 KLM ดักลาส DC-3 PH-ALP "Pluvier" ถูกส่งมอบให้กับ KLM เมื่อมันหลงภูเขาหัวล้าน, Arizona, ฆ่าทั้งแปดในคณะกรรมการ. [165 ]
28 กรกฏาคม 1937 KLM ดักลาส DC-2 PH-อาล์ฟ "นกกระเรียน" ตกอยู่ในทุ่งใกล้ Beert เบลเยียม ความผิดพลาดที่เกิดจากไฟในเที่ยวบินและฆ่าทั้ง 15 บนกระดาน. [166]
ที่ 6 ตุลาคม 1937 KLM ดักลาส DC-3 PH-ALS "Specht" ฟาดเอาออกจากถลาง Betoetoe สนามบินฆ่าลูกเรือสาม ผู้โดยสารคนหนึ่ง; นักบินและผู้โดยสารเจ็ดรอดชีวิต. [167]
เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 1938, KLM ดักลาส DC-3 PH-ARY "IJsvogel" หลงพื้นดินและตกใกล้สนามบิน Schiphol ไม่ทราบสาเหตุการฆ่าหกของ 19 บนกระดาน. [168]
เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 1938, KLM ฮีดรุ่น 14 ซูเปอร์อีเลค PH-APE "Ekster" ฟาดเอาออกจากสนามบิน Schiphol เพราะความล้มเหลวของเครื่องยนต์ในขณะที่การฝึกบินฆ่าลูกเรือสี่. [169]
10 มิถุนายน 1939 KLM Koolhoven FK43 "Krekel" จนตรอกและตรวจค้นที่ Vlissingen ฆ่าทั้งสามบนกระดาน.
1940 [แก้ไข]
เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 1941, KNILM ดักลาส DC-3 PK-ALN "Nandoe" (เดิม KLM PH-ALN) ถูกทำลายบนพื้นดินญี่ปุ่น นักสู้ที่เมดานสุมาตราเหนือ, ดัตช์อีสต์อินดีฆ่าลูกเรือและผู้โดยสาร.
วันที่ 1 มิถุนายน 1943 KLM ดักลาส DC-3 PH-Ali "ไอบิส" ซึ่งได้หลบหนีการยึดครองดัตช์และปฏิบัติงานภายใต้สัญญาเช่าให้กับบีโอเอซีปฏิบัติการ บีโอเอซีเที่ยวบิน 777 ถูกยิงโดยแปดเยอรมัน Junkers จู 88 นักสู้เหนืออ่าวบิสเคย์ในขณะที่กำหนดเส้นทางลิสบอน-Bristol ทั้งหมด 13 ผู้โดยสาร