Water 1. Imagine slowly pouring wat

Water
1. Imagine slowly pouring water onto a pile of sand. Some water would flow off the sides, but most would seep into spaces between the grains of sand. Similarly, much of the water that falls onto Earth's surface becomes groundwater as it seeps into spaces between soil and rock. What would happen if you poured water onto a pile of silt instead? Would the water flow through the silt faster or slower than it does through sand?
2. Materials are permeable if they allow water to pass through. Soil, such as sand, that has large particles usually has large connected spaces, called pores. This soil has high permeability because water flows easily through the pores. Soil, such as silt, that has smaller particles has smaller connected pores. This soil has a lower permeability because water cannot flow as easily through the pores.
3. The rate at which water flows through the ground depends on permeability. Water may take an hour or less to flow through one meter of soil if it has high permeability. If the soil has low permeability, water may take a year or more to flow one meter. Water flows more slowly when you pour it onto silt than when you pour it onto sand.
4. If you could cut out a giant slice of ground, you would see different layers. Just below the surface is an unsaturated zone. The word saturated means "completely filled." water flows through the pores in the unsaturated zone because the zone is not completely filled with water.
5. Below the unsaturated zone is the zone of saturation. Water completely fills the pores of this layer. Groundwater is sometimes incorrectly described as any water under Earth's surface. In fact, groundwater is water in the zone of saturation. Beneath the zone of saturation is impermeable rock with unconnected pores. Water cannot flow into or through this layer.
6. The boundary between the unsaturated zone and the of saturation is called zone the water table. The depth of the water table in an area identifies how far below the surface groundwater is. The water table may be few meters below the surface in valleys or coastal areas, but hundreds of meters below the surface in mountainous regions. During rainy seasons, the water table is usually closer to the surface.
7. Water flows down ward in response to gravity. When water strikes rock that is not permeable, it moves at an angle. Rocks that are not permeable change the direction of water flow.
8. Some groundwater is in underground lakes and rivers. The photograph on the cover of this card shows a pool in an underground cave in Yucatan, Mexico. Most groundwater is in small cracks and pores of rock. The ground stores a tremendous amount of water. To understand how much, imagine a huge box filled with water. The box is a kilometer high, a kilometer wide and a kilometer deep. That amount of water is difficult to imagine. Now consider 23 million of those boxes of water. That is about how much water is stored under Earth's surface.
9. Groundwater is always moving. Its speed depends on the soil's permeability. Groundwater always returns to the surface. In some places, such as steep slopes on mountainsides, the water table touches Earth's surface. Here the water flows onto the surface as a natural spring.
10. In places where the water table is deep below the surface, people can bring this water to the surface. An aquifer is an underground layer of permeable rock or sediment that contains pore spaces through which water flows. People dig wells into an aquifer to obtain water. In some places, the pressure in an aquifer is so high that it causes the well water to rise to the surface. This type of well is called an artesian well.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

น้ำ 1. คิดช้าเทน้ำบนกองทราย น้ำจะไหลออกด้านข้าง แต่ส่วนใหญ่จะซึมเข้าไปในช่องว่างระหว่างเม็ดทราย ในทำนองเดียวกัน มากของน้ำที่อยู่บนพื้นผิวแผ่นดินจะทรุดเป็นมัน seeps ลงในช่องว่างระหว่างดินและหิน อะไรจะเกิดขึ้นถ้าคุณเนอร์บนกองตะกอนแทน จะน้ำไหลผ่านตะกอนได้เร็ว หรือช้ากว่านั้นไม่ผ่านทราย 2. วัสดุ permeable ถ้าพวกเขาให้น้ำผ่านได้ ดิน เช่นทราย ที่มีอนุภาคขนาดใหญ่มักจะมีขนาดใหญ่เชื่อมต่อช่องว่าง เรียกว่ารูขุมขน ดินนี้มี permeability สูงเนื่องจากน้ำไหลผ่านรูขุมขนได้อย่างง่ายดาย ดิน เช่นตะกอน ที่มีอนุภาคขนาดเล็กมีขนาดเล็กเชื่อมต่อรูขุมขน ดินนี้มี permeability ต่ำเนื่องจากน้ำไม่สามารถไหลได้อย่างง่ายดายผ่านทางรูขุมขน 3.อัตราที่น้ำไหลผ่านพื้นดินขึ้นอยู่กับ permeability น้ำอาจใช้เวลาหนึ่งชั่วโมง หรือน้อยกว่าไหลผ่านหนึ่งเมตรดินมี permeability สูงได้ ถ้าดินมี permeability ต่ำ น้ำอาจใช้เวลาเป็นปีหรือมากกว่าหนึ่งเครื่องวัดไหล น้ำไหลช้าเมื่อราดลงบนตะกอนมากกว่าเมื่อคุณเทลงบนทราย 4. ถ้าคุณสามารถตัดออกจากชิ้นยักษ์ของเรา คุณจะเห็นชั้นต่าง ๆ เพียงใต้ผิวจะมีโซนในระดับที่สม คำว่าอิ่มตัวหมายถึง "ทั้งหมดเติม" น้ำไหลผ่านรูขุมขนในโซนในระดับที่สมเนื่องจากโซนไม่สมบูรณ์เต็มไป ด้วยน้ำ 5. ด้านล่างโซนในระดับที่สมเป็นโซนของความเข้ม น้ำสมบูรณ์กรอกรูขุมขนของชั้นนี้ บางครั้งถูกอธิบายน้ำบาดาลเป็นน้ำใด ๆ ภายใต้ผิวโลก ในความเป็นจริง น้ำบาดาลคือ น้ำในโซนอิ่มตัว ภายใต้โซนความเข้มเป็นการซึมผ่านของหินพร้อมกับรูขุมขน น้ำไม่ไหลเข้า หรือ ผ่านชั้นนี้ 6.เส้นขอบเขตในระดับที่สมและของความเข้มเรียกว่าโซนตารางน้ำ ระบุความลึกของตัวน้ำในพื้นที่เท่าใดใต้ผิวน้ำเป็นการ ตารางน้ำอาจไม่กี่เมตรใต้ผิวในหุบเขา หรือพื้นที่ชายฝั่งทะเล แต่หลายร้อยเมตรใต้ผิวในพื้นที่ภูเขา ในช่วงฤดูฝน ตารางน้ำคือมักจะใกล้ชิดกับพื้นผิว 7. น้ำไหลลงผู้ป่วยตอบสนองต่อแรงโน้มถ่วง เมื่อน้ำนัดหินที่ไม่ permeable มันย้ายที่มุม หินที่ไม่ permeable เปลี่ยนทิศทางของกระแสน้ำ 8. บางน้ำในแม่น้ำและทะเลสาบใต้ดินได้ ภาพบนปกของบัตรนี้แสดงสระว่ายน้ำในถ้ำใต้ดินที่ในสเปน เม็กซิโก น้ำบาดาลส่วนใหญ่เป็นรอยเล็ก ๆ และรูขุมขนของหิน พื้นดินเก็บจำนวนมหาศาลของน้ำ เข้าใจว่า จินตนาการกล่องใหญ่ที่เต็มไป ด้วยน้ำ กล่องเป็นกิโลเมตรสูง กิโลเมตรกว้าง และลึกเป็นหลัก จำนวนน้ำนั้นยากที่จะจินตนาการได้ ตอนนี้ พิจารณา 23 ล้านของกล่องเหล่านั้นของน้ำ ที่เป็นเกี่ยวกับน้ำมากจะถูกเก็บไว้ภายใต้พื้นผิวโลก 9. น้ำบาดาลมักจะมีการเคลื่อนย้าย ความเร็วขึ้นอยู่กับ permeability ของดิน น้ำบาดาลส่งกลับไปยังพื้นผิวเสมอ ในบางสถาน เช่นลาดชันบน mountainsides ตารางน้ำสัมผัสผิวโลก ที่นี่น้ำไหลบนพื้นผิวเป็นน้ำพุธรรมชาติ 10. ในตารางน้ำอยู่ลึกใต้ผิวหนัง คนสามารถนำน้ำนี้ไปยังพื้นผิว Aquifer มีชั้นใต้ดินของ permeable หินหรือตะกอนที่ประกอบด้วยช่องว่างรูที่น้ำไหลผ่านได้ คนขุดบ่อใน aquifer ที่รับน้ำ ในบางสถาน ความดันใน aquifer ได้สูงมากที่จะทำให้น้ำที่ดีจะขึ้นไปยังพื้นผิว ชนิดนี้ด้วยคือบาดาล

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

น้ำ
1 ลองนึกภาพช้าเทน้ำลงบนกองทราย น้ำบางส่วนจะไหลออกด้านข้าง แต่ส่วนใหญ่จะซึมเข้าไปในช่องว่างระหว่างเม็ดทราย ในทำนองเดียวกันมากของน้ำที่ตกอยู่บนพื้นผิวโลกจะกลายเป็นน้ำบาดาลที่ซึมลงไปในช่องว่างระหว่างดินและหิน อะไรจะเกิดขึ้นถ้าคุณเทน้ำบนกองตะกอนแทน? น้ำจะไหลผ่านตะกอนเร็วหรือช้ากว่าจะผ่านทราย?
2 วัสดุที่ดูดซึมถ้าพวกเขาให้น้ำผ่าน ดินเช่นทรายที่มีอนุภาคขนาดใหญ่มักจะมีช่องว่างที่เชื่อมต่อขนาดใหญ่ที่เรียกว่ารูขุมขน ดินนี้มีการซึมผ่านสูงเนื่องจากน้ำไหลได้อย่างง่ายดายผ่านรูขุมขน ดินเช่นตะกอนที่มีอนุภาคขนาดเล็กที่มีรูขุมขนขนาดเล็กที่เชื่อมต่อ ดินนี้มีการซึมผ่านลดลงเนื่องจากน้ำไม่สามารถไหลได้อย่างง่ายดายผ่านรูขุมขน
3 อัตราที่น้ำไหลผ่านพื้นดินขึ้นอยู่กับการซึมผ่าน น้ำอาจใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงหรือน้อยกว่าที่จะไหลผ่านหนึ่งเมตรของดินว่ามีการซึมผ่านสูง ถ้าดินมีการซึมผ่านต่ำน้ำอาจใช้เวลาเป็นปีหรือมากกว่าจะไหลหนึ่งเมตร น้ำไหลช้ามากขึ้นเมื่อคุณเทมันลงบนตะกอนกว่าเมื่อคุณเทมันลงบนทราย
4 หากคุณสามารถตัดออกเป็นชิ้นขนาดยักษ์ของพื้นดินที่คุณจะเห็นชั้นที่แตกต่างกัน เพียงด้านล่างพื้นผิวเป็นโซนไม่อิ่มตัว คำว่าอิ่มตัวหมายถึง "สมบูรณ์เต็มไป." น้ำไหลผ่านรูขุมขนในเขตไม่อิ่มตัวเพราะโซนจะไม่สมบูรณ์เต็มไปด้วยน้ำ
5 ด้านล่างนี้ไม่อิ่มตัวโซนโซนของความอิ่มตัวเป็น น้ำสมบูรณ์เติมรูขุมขนของชั้นนี้ น้ำบาดาลบางครั้งก็อธิบายไม่ถูกต้องเป็นน้ำที่อยู่ภายใต้พื้นผิวโลก ในความเป็นจริงน้ำบาดาลเป็นน้ำที่อยู่ในโซนของความอิ่มตัว ภายใต้โซนของความอิ่มตัวเป็นหินผ่านไม่ได้มีรูขุมขนไม่เกี่ยว น้ำไม่สามารถไหลเข้าหรือผ่านชั้นนี้
6 เขตแดนระหว่างโซนอิ่มตัวและไม่อิ่มตัวที่เรียกว่าโซนน้ำ ความลึกของน้ำในพื้นที่ระบุว่าไกลด้านล่างพื้นผิวดินเป็น น้ำอาจจะไม่กี่เมตรใต้พื้นผิวในหุบเขาหรือพื้นที่ชายฝั่งทะเล แต่หลายร้อยเมตรใต้พื้นผิวในบริเวณที่เป็นภูเขา ในช่วงฤดูฝนน้ำมักจะใกล้ชิดกับพื้นผิวที่
7 น้ำไหลลงมาวอร์ดในการตอบสนองต่อแรงโน้มถ่วง เมื่อน้ำกระทบหินที่ไม่ได้ดูดซึมมันเคลื่อนไปที่มุม โขดหินที่ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงการซึมผ่านทิศทางการไหลของน้ำที่
8 น้ำใต้ดินบางคนอยู่ในทะเลสาบและแม่น้ำใต้ดิน ภาพบนหน้าปกของการ์ดใบนี้แสดงให้เห็นถึงสระว่ายน้ำในถ้ำใต้ดินในยูคาทาน, เม็กซิโก ดินส่วนใหญ่อยู่ในรอยแตกขนาดเล็กและกระชับรูขุมขนของหิน พื้นดินเก็บจำนวนมากของน้ำ เพื่อให้เข้าใจวิธีการมากคิดกล่องขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยน้ำ กล่องเป็นกิโลเมตรสูงกิโลเมตรกว้างและกิโลเมตรลึก ปริมาณน้ำที่เป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการ ตอนนี้พิจารณา 23 ล้านกล่องของน้ำ ที่เกี่ยวกับเท่าไหร่น้ำจะถูกเก็บไว้ภายใต้ผิวโลก
9 น้ำบาดาลอยู่เสมอย้าย ความเร็วของมันขึ้นอยู่กับการซึมผ่านของดิน น้ำบาดาลเสมอกลับไปที่พื้นผิว ในบางสถานที่เช่นทางลาดชันในเชิงโต๊ะน้ำสัมผัสกับพื้นผิวโลก ที่นี่มีน้ำไหลลงบนพื้นผิวที่เป็นฤดูใบไม้ผลิธรรมชาติ
10 ในสถานที่ที่น้ำอยู่ลึกใต้พื้นผิวคนสามารถนำน้ำนี้ไปยังพื้นผิว น้ำแข็งเป็นชั้นใต้ดินของหินดูดซึมหรือตะกอนที่มีช่องว่างรูขุมขนโดยที่น้ำไหล คนขุดบ่อลงไปในน้ำแข็งที่จะได้รับน้ำ ในบางสถานที่ความดันในน้ำแข็งที่สูงเพื่อที่จะทำให้น้ำดีที่จะขึ้นสู่ผิวน้ำ ประเภทของดีนี้เรียกว่าบาดาล

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

น้ำ
1 จินตนาการ ค่อยๆเทน้ำบนกองทราย น้ำจะไหลออกด้านข้าง แต่ส่วนใหญ่จะได้ซึมเข้าไปในช่องว่างระหว่างเม็ดทราย เช่นเดียวกันมากของน้ำที่ตกลงมาบนผิวโลก กลายเป็นน้ำใต้ดิน มันซึมเข้าไปในช่องว่างระหว่างดินและหิน จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณเทน้ำบนกองของพวกเขาแทนจะทำให้น้ำไหลผ่านตะกอนเร็วขึ้นหรือช้าลงกว่าที่มันจะผ่านทราย
2 . ถ้าจะให้วัสดุที่ซึมน้ำผ่าน ดิน เช่น ทราย ที่มีอนุภาคขนาดใหญ่มักจะมีขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อเป็น เรียกว่า รู ดินนี้มีความสามารถสูง เพราะน้ำไหลได้อย่างง่ายดายผ่านทางรูขุมขน ดิน เช่น ตะกอนที่มีอนุภาคขนาดเล็กมีขนาดเล็กเชื่อมต่อรูขุมขนดินนี้มีการซึมผ่านต่ำ เพราะน้ำไม่สามารถไหลได้อย่างง่ายดายผ่านรู .
3 อัตราที่น้ำไหลผ่านพื้นดินขึ้นอยู่กับความสามารถ . น้ำอาจจะใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงหรือน้อยกว่า ไหลผ่านหนึ่งเมตรของดินถ้ามันมีการซึมผ่านสูง ถ้าดินมีการซึมผ่านต่ำน้ำอาจใช้เวลาเป็นปีหรือมากกว่าการไหลหนึ่งเมตรน้ำไหลช้าลงเมื่อคุณใส่มันลงบนตะกอนมากกว่าเมื่อคุณใส่มันลงในทราย .
4 ถ้าคุณไม่สามารถตัดชิ้นยักษ์ของพื้นดิน คุณจะเห็นชั้นต่าง ๆ ใต้พื้นผิว เป็นโซนที่ไม่อิ่มตัว คำว่าอิ่มตัวหมายถึง " เต็มสมบูรณ์ น้ำไหลผ่านรูในโซนที่ไม่อิ่มตัว เพราะโซนไม่ได้เต็มไปด้วยน้ำ
5ด้านล่างเป็นโซนโซนที่ไม่อิ่มตัว น้ำสมบูรณ์เต็มรูของชั้นนี้ น้ำบาดาลบางครั้งไม่ถูกต้อง อธิบายว่า น้ำใต้ผิวโลก ในความเป็นจริง น้ำใต้ดิน น้ำในโซนที่อิ่มตัว ใต้โซนอิ่มตัวคือผ่านหินที่มีรู อ้างว้าง . น้ำไม่ไหลเข้า หรือ ผ่านชั้นนี้ .
6เขตแดนระหว่างโซนที่ไม่อิ่มตัวและความอิ่มตัวของน้ำ เรียกว่า โซนโต๊ะ ความลึกของน้ำที่โต๊ะในพื้นที่ระบุว่าไกลด้านล่างพื้นผิวของน้ำคือ น้ำโต๊ะอาจจะไม่กี่เมตรใต้พื้นผิวในหุบเขา หรือพื้นที่ชายฝั่งทะเล แต่หลายร้อยเมตรใต้พื้นผิวในภูมิภาคที่เป็นภูเขา ในช่วงฤดูฝน ฤดูน้ำโต๊ะมักจะใกล้ชิดกับพื้นผิว
7 น้ำไหลลงประสบการณ์ในการตอบสนองต่อแรงโน้มถ่วง เมื่อน้ำกัดหินที่ไม่ซึม มันย้ายที่มุม หินที่ไม่เปลี่ยนทิศทางของน้ำไหลซึม .
8 มีน้ำใต้ดินอยู่ในทะเลสาบใต้ดิน และแม่น้ำ ภาพบนหน้าปกของการ์ดใบนี้แสดงให้เห็นสระน้ำในถ้ำใต้ดินในแหลมยูคาทานเม็กซิโกน้ำใต้ดินส่วนใหญ่อยู่ในรอยแตกขนาดเล็ก และรูของหิน พื้นดินร้านค้ามหาศาลของน้ำ เข้าใจมากแค่ไหน ลองนึกภาพขนาดใหญ่กล่องที่เต็มไปด้วยน้ำ กล่องเป็นกิโลเมตรสูง 1 กิโลเมตร กว้าง 1 กิโลเมตรลึก ปริมาณของน้ำ คือ ยากที่จะจินตนาการ ตอนนี้พิจารณา 23 ล้านของกล่องน้ำ ที่เกี่ยวกับน้ำเท่าใดจะถูกเก็บไว้ภายใต้ผิวโลก
9น้ำใต้ดินจะย้ายที่อยู่เสมอ ความเร็วขึ้นอยู่กับค่าการซึมผ่านของดิน น้ำใต้ดินเสมอกลับไปที่พื้นผิว ในบางสถานที่ เช่น ความลาดชันบนโต๊ะนัก น้ำสัมผัสกับผิวโลก ที่นี่น้ำไหลลงบนพื้นผิวที่เป็นสปริงธรรมชาติ
10 ในสถานที่ที่น้ำโต๊ะอยู่ลึกใต้พื้นผิว , คนเอาน้ำสู่ผิวชั้นหินอุ้มน้ำใต้ดิน เป็นชั้นของหินหรือตะกอนที่ประกอบด้วยซึมผ่านรูขุมขนเป็นผ่านที่น้ำไหล คนขุดบ่อในน้ำเพื่อให้ได้น้ำ ในบางสถานที่ในชั้นหินอุ้มน้ำมีแรงดันสูงเพื่อให้เกิดน้ำคือเพิ่มขึ้นไปยังพื้นผิว ชนิดนี้ก็เรียกว่า บ่อบาดาล