Ruminant TFAs are often overlooked

Ruminant TFAs are often overlooked due to the abundance of literature focusing on the effects of industrially produced trans fats in different diseases. However, typically we consume 2–9% of our total fatty acid content as rTFAs (Bassett et al., 2010). Furthermore, the TRANSFAIR study estimated that as much as half of all trans fats consumed in specialty diets like the Mediterranean diet will be in the form of rTFAs (van de Vijver et al., 2000). Ruminant TFAs are found in grass grazing sheep and cattle. Therefore, sheep and cattle meats as well as dairy products (cheese, milk and butter) contain rTFAs. The major contributor within the category of rTFAs is vaccenic acid. Vaccenic acid (18:1 trans-11) constitutes 50–80% of all ruminant derived trans fats (Field et al., 2009). Conjugated linoleic acids (cLAs) complete the rest of the category. Briefly, cLAs are also found in ruminant products and are identified by two double bonds within the aliphatic chain that are separated by a single bond in between. Rumenic acid (c9t11-CLA) is an example of conjugated linoleic acids. Vaccenic acid consists of only one double bond. It is the isomer of oleic acid (18:1 trans-11) and although similar to elaidic acid, the position of the double bond in vaccenic acid (position 11 vs. position 9 in elaidic acid) plays an integral role in determining the differences between the two fatty acids. Vaccenic acid is derived from incomplete biohydrogenation of the PUFAs, linoleic acid and linolenic acid, within the gut of the ruminant animals. Specialized gut microflora known as Roseburia hominis A2-183T, Roseburia inulinivorans A2-192T and Ruminococcus obeum-like strain A2-162 produce vaccenic acid from these sources. It is therefore imperative that the differences between iTFAs and rTFAs are recognized in terms of their detrimental or positive health effects.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Ruminant TFAs จะมักจะมองข้ามเนื่องจากความอุดมสมบูรณ์ของวรรณกรรมที่เน้นผลผลิต industrially ทรานส์ไขมันในโรคต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม โดยปกติเราใช้ 2-9% ของกรดไขมันที่รวมเนื้อหาของเราเป็น rTFAs (Bassett et al., 2010) นอกจากนี้ การศึกษา TRANSFAIR ประมาณที่มากที่สุดครึ่งหนึ่งของไขมันธุรกรรมทั้งหมดที่ใช้ในอาหารพิเศษเช่นอาหารเมดิเตอร์เรเนียนจะอยู่ในรูปของ rTFAs (van de Vijver et al., 2000) Ruminant TFAs พบในหญ้า grazing แกะและวัว ดังนั้น แกะและวัวเนื้อสัตว์รวมทั้งผลิตภัณฑ์จากนม (เนยแข็ง นม และเนย) ประกอบด้วย rTFAs ผู้สนับสนุนหลักภายในประเภทของ rTFAs เป็นกรด vaccenic กรด Vaccenic (ทรานส์ 18:1-11) ถือ 50 – 80% ไขมันทรานส์ ruminant ได้รับทั้งหมด (ฟิลด์ et al., 2009) กรด linoleic กลวง (cLAs) เสร็จสมบูรณ์ส่วนเหลือของประเภท สั้น ๆ cLAs จะพบในผลิตภัณฑ์ ruminant และผูกพันคู่สองภายในห่วงโซ่ aliphatic ที่คั่น ด้วยพันธะเดี่ยวระหว่างระบุ กรด rumenic (c9t11-CLA) เป็นตัวอย่างของกรด linoleic กลวง กรด Vaccenic ประกอบด้วยพันธะคู่เดียวเท่านั้น เป็นไอโซเมอร์ของกรด oleic (ทรานส์ 18:1-11) และเช่นเดียวกับกรด elaidic แม้ว่าตำแหน่งของพันธะคู่ในกรด vaccenic (ตำแหน่ง 11 เทียบกับตำแหน่ง 9 ในกรด elaidic) เล่นบทบาทสำคัญในการกำหนดความแตกต่างระหว่างกรดไขมันสอง กรด Vaccenic มาจาก biohydrogenation สมบูรณ์ PUFAs กรด linoleic และ linolenic กรด ภายในลำไส้ของสัตว์ ruminant Microflora ไส้พิเศษที่เรียกว่า Roseburia hominis A2-183T, Roseburia inulinivorans A2-192T และ Ruminococcus ต้องใช้ obeum เหมือน A2 162 ผลิต vaccenic กรดจากแหล่งเหล่านี้ จึงเป็นความจำเป็นที่จะรู้ความแตกต่างระหว่าง iTFAs และ rTFAs ในแง่ของผลบวก หรือผลดีสุขภาพของพวกเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

TFAS สัตว์เคี้ยวเอื้องมักจะมองข้ามเนื่องจากความอุดมสมบูรณ์ของว​​รรณกรรมมุ่งเน้นไปที่ผลกระทบของอุตสาหกรรมผลิตไขมันทรานส์ในโรคที่แตกต่างกัน แต่โดยทั่วไปแล้วเรากิน 2-9% ของปริมาณกรดไขมันของเรารวม rTFAs (Bassett et al., 2010) นอกจากนี้การศึกษา TRANSFAIR คาดว่าเท่าครึ่งของไขมันทรานส์ทั้งหมดที่บริโภคในอาหารพิเศษเช่นอาหารเมดิเตอร์เรเนียนจะอยู่ในรูปแบบของ rTFAs (แวนเดอ Vijver et al., 2000) TFAS สัตว์เคี้ยวเอื้องที่พบในทุ่งเลี้ยงสัตว์หญ้าแกะและวัวควาย ดังนั้นแกะและเนื้อวัวรวมทั้งผลิตภัณฑ์นม (ชีสนมและเนย) มี rTFAs ผู้สนับสนุนที่สำคัญที่อยู่ในหมวดหมู่ของ rTFAs เป็นกรด vaccenic กรด Vaccenic (18: 1 ทรานส์ 11) ถือว่าเป็น 50-80% ของทั้งหมดที่ได้มาจากสัตว์เคี้ยวเอื้องไขมันทรานส์ (. สนาม et al, 2009) กรดไลโนเลอิกผัน (CLAS) ดำเนินการส่วนที่เหลือของหมวดหมู่ที่ สั้น ๆ , Clas ยังพบในผลิตภัณฑ์สัตว์เคี้ยวเอื้องและมีการระบุสองพันธะคู่ภายในห่วงโซ่ aliphatic ที่ถูกแยกออกจากพันธบัตรเดียวในระหว่าง กรด Rumenic (c9t11-CLA) เป็นตัวอย่างของกรดไลโนเลอิกผัน กรด Vaccenic ประกอบด้วยเพียงหนึ่งพันธะคู่ มันเป็น isomer ของกรดโอเลอิก (ที่ 18: 1 ทรานส์ 11) และถึงแม้จะคล้ายกับ elaidic กรดตำแหน่งของพันธะคู่ในกรด vaccenic (11 ตำแหน่งเทียบกับตำแหน่ง 9 กรด elaidic) มีบทบาทสำคัญในการกำหนดความแตกต่าง ระหว่างสองกรดไขมัน กรด Vaccenic มาจาก biohydrogenation ไม่สมบูรณ์ของ PUFAs กรดไลโนเลอิกและกรดไลโนเลนิภายในลำไส้ของสัตว์เคี้ยวเอื้อง จุลินทรีย์ในลำไส้เฉพาะที่รู้จักกันเป็น Roseburia hominis A2-183T, A2-192T Roseburia inulinivorans และ Ruminococcus ความเครียด obeum เหมือน A2-162 ผลิตกรด vaccenic จากแหล่งเหล่านี้ ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่แตกต่างระหว่าง iTFAs rTFAs และได้รับการยอมรับในแง่ของผลกระทบต่อสุขภาพที่เป็นอันตรายหรือบวกของพวกเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สัตว์เคี้ยวเอื้อง tfas มักจะถูกมองข้าม เนื่องจากความอุดมสมบูรณ์ของวรรณกรรมที่เน้นผลเชิงอุตสาหกรรมผลิตไขมันทรานส์ในโรคที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม โดยทั่วไปแล้ว เรากิน 2 – 9 % ของปริมาณกรดไขมันทั้งหมดของเราเป็น rtfas ( Bassett et al . , 2010 ) นอกจากนี้การ transfair การศึกษาประมาณว่า ครึ่งเท่าของไขมันทรานส์ในอาหาร เช่น บริโภคเฉพาะอาหารเมดิเตอร์เรเนียนจะอยู่ในรูปของ rtfas ( ฟาน เดอ vijver et al . , 2000 ) สัตว์เคี้ยวเอื้อง tfas จะพบในหญ้าแทะ แกะ และวัว ดังนั้น แกะและโคเนื้อ รวมทั้งผลิตภัณฑ์จากนม ( นมชีสและเนย ) ประกอบด้วย rtfas .โดยผู้สนับสนุนหลักภายในประเภทของ rtfas เป็น vaccenic กรด vaccenic acid ( 18 : 1 trans-11 ) ถือเป็น 50 – 80% ของสัตว์เคี้ยวเอื้องและไขมันทรานส์ ( สนาม et al . , 2009 ) conjugated linoleic กรด ( 1 ) สมบูรณ์ ส่วนที่เหลือของหมวดหมู่ สั้น ๆคัน นอกจากนี้ยังพบในผลิตภัณฑ์สัตว์เคี้ยวเอื้องและระบุคู่สองพันธบัตรภายในทางโซ่ที่แยกจากกันโดยพันธะเดี่ยวระหว่าง rumenic acid ( c9t11 CLA ) เป็นตัวอย่างของ conjugated linoleic กรด vaccenic กรดประกอบด้วยเพียงหนึ่งคู่ บอนด์ มันเป็นไอโซเมอร์ของกรดโอเลอิก ( 18 : 1 trans-11 ) และแม้ว่าคล้ายกับ elaidic กรดตำแหน่งของพันธะคู่ในกรด vaccenic ( ตำแหน่ง 11 กับ 9 ในตำแหน่ง elaidic acid ) มีบทบาทสําคัญในการกำหนดความแตกต่างระหว่างสองกรดไขมัน เป็นกรดที่ได้มาจาก vaccenic biohydrogenation สมบูรณ์ของกรดไขมันและกรด linoleic กรดไลโนเลนิก ภายในลำไส้ของสัตว์สัตว์เคี้ยวเอื้อง เฉพาะไส้จุลินทรีย์ที่เรียกว่า roseburia a2-183t hominis ,roseburia และ inulinivorans a2-192t ruminococcus obeum เหมือน a2-162 สายพันธุ์ผลิต vaccenic กรดจากแหล่งเหล่านี้ มันจึงจำเป็นที่แตกต่างระหว่าง itfas rtfas และได้รับการยอมรับในด้านของพวกเขาที่เป็นอันตรายหรือบวกผลสุขภาพ