The Coleman report, published 12 ye

The Coleman report, published 12 years after the Brown decision, confirmed that widespread school segregation in the United States created inequality of educational opportunity. This study examines whether racial and socioeconomic segregation, which is on the rise in the United States, is still contributing to the achievement differences among students. The study used data from the National Education Longitudinal Survey of 1988 to estimate multilevel models of achievement growth between Grades 8 and 12 in mathematics, science, reading, and history for a sample of 14,217 students attending a representative sample of 913 U.S. high schools. The study found that the average socioeconomic level of students' schools had as much impact on their achievement growth as their own socioeconomic status, net of other background factors. Moreover, school socioeconomic status had as much impact on advantaged as on disadvantaged students, and almost as much impact on Whites as on Blacks, raising questions about the likely impact of widespread integration. The impact of socioeconomic composition was explained by four school characteristics: teacher expectations, the amount of homework that students do, the number of rigorous courses that students take, and students' feelings about safety. The results suggest that schools serving mostly lower-income students tend to be organized and operated differently than those serving more-affluent students, transcending other school-level differences such as public or private, large or small. This article then addresses the question of whether such school characteristics can be changed by policies to reform schools and funding systems versus policies to desegregate schools.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

รายงานโคล์ เผยแพร่ 12 ปีหลังจากตัดสินใจสีน้ำตาล ยืนยันว่า การแบ่งแยกโรงเรียนอย่างแพร่หลายในสหรัฐอเมริกาที่สร้างความไม่เท่าเทียมกันของโอกาสทางการศึกษา การศึกษานี้ตรวจสอบว่าประชากร และเชื้อชาติแบ่งแยก ซึ่งเป็นที่ขึ้นในสหรัฐอเมริกา จะยังคงสนับสนุนความแตกต่างของผลสัมฤทธิ์ระหว่างเรียน การศึกษาใช้ข้อมูลจากการสำรวจระยะยาวการศึกษาแห่งชาติของปี 1988 ในการประเมินความสำเร็จการเจริญเติบโตระหว่างเกรด 8 และ 12 ในคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ การอ่าน และประวัติสำหรับตัวอย่างของนักเรียน 14,217 ตัวอย่างตัวแทนของโรงเรียนสูงสหรัฐฯ 913 ร่วมรุ่นหลายระดับ การศึกษาพบว่า ระดับประชากรเฉลี่ยของนักเรียนโรงเรียนมีผลกระทบมากที่สุดในการเจริญเติบโตของพวกเขาสำเร็จเป็นสถานะของตนเองประชากร สุทธิของปัจจัยพื้นหลังอื่น ๆ นอกจากนี้ โรงเรียนสถานะประชากรมีมากผลกระทบพิจารณาเป็นพิเศษตามนักเรียนผู้ด้อยโอกาส และเกือบเป็นผลกระทบในขาวเป็นดำ เพิ่มคำถามเกี่ยวกับผลกระทบแนวโน้มรวมอย่างแพร่หลายใน ผลกระทบขององค์ประกอบประชากรถูกอธิบาย โดยลักษณะโรงเรียนสี่: ความคาดหวังของครู จำนวนที่นักเรียนทำการบ้าน จำนวนของหลักสูตรอย่างเข้มงวดซึ่งนักเรียนจะ และความรู้สึกของนักเรียนเกี่ยวกับความปลอดภัย ผลการแนะนำโรงเรียนให้นักเรียนส่วนใหญ่ต่ำกว่ารายได้มีแนวโน้มที่ จะจัดระเบียบ และดำเนินแตกต่างกว่าผู้บริการนักเรียนเพิ่มเติมมั่งมี transcending ความแตกต่างระดับโรงเรียนอื่น ๆ เช่นสาธารณะ หรือส่วนตัว ขนาดใหญ่ หรือเล็ก บทความนี้แล้วอยู่คำถามที่ว่าโรงเรียนลักษณะดังกล่าวอาจเปลี่ยนแปลงนโยบายการปฏิรูปโรงเรียนและระบบการจัดหาเงินทุนและนโยบาย desegregate โรงเรียน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

รายงานโคลแมนตีพิมพ์ 12 ปีหลังจากที่การตัดสินใจของบราวน์ยืนยันว่าโรงเรียนแยกกันอย่างแพร่หลายในประเทศสหรัฐอเมริกาสร้างความไม่เสมอภาคในโอกาสทางการศึกษา การศึกษาครั้งนี้จะตรวจสอบว่าการแยกทางเชื้อชาติและทางสังคมและเศรษฐกิจซึ่งเป็นที่ขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกายังคงเป็นที่เอื้อต่อความแตกต่างของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน การศึกษาที่ใช้ข้อมูลจากการสำรวจการศึกษาแห่งชาติระยะยาวของ 1988 ในการประเมินรูปแบบหลายระดับของการเติบโตของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างเกรด 8 และ 12 ในวิชาคณิตศาสตร์วิทยาศาสตร์การอ่านและประวัติศาสตร์สำหรับตัวอย่าง 14,217 นักเรียนเข้าร่วมตัวอย่างที่เป็นตัวแทนของสหรัฐ 913 โรงเรียนมัธยม การศึกษาพบว่าระดับทางสังคมและเศรษฐกิจเฉลี่ยของโรงเรียนนักเรียนมีผลกระทบมากในการเจริญเติบโตของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของพวกเขาเป็นสถานะทางเศรษฐกิจและสังคมของตัวเองสุทธิของปัจจัยพื้นฐานอื่น ๆ นอกจากนี้สถานะทางเศรษฐกิจและสังคมโรงเรียนมีผลกระทบมากในพิจารณาเป็นพิเศษเช่นเดียวกับนักเรียนที่ด้อยโอกาสและเกือบจะเป็นผลกระทบมากในคนผิวขาวเป็นคนผิวดำในยกคำถามเกี่ยวกับผลกระทบต่อแนวโน้มของการรวมกลุ่มกันอย่างแพร่หลาย ผลกระทบขององค์ประกอบทางสังคมและเศรษฐกิจที่ได้รับการอธิบายโดยสี่ลักษณะโรงเรียน: ความคาดหวังของครูจำนวนการบ้านที่นักเรียนทำจำนวนของหลักสูตรอย่างเข้มงวดว่านักเรียนใช้เวลาและความรู้สึกของนักเรียนเกี่ยวกับความปลอดภัย ผลการชี้ให้เห็นว่าโรงเรียนที่ให้บริการส่วนใหญ่เป็นนักเรียนมีรายได้ต่ำมีแนวโน้มที่จะได้รับการจัดและดำเนินการที่แตกต่างจากผู้ให้บริการนักเรียนที่ร่ำรวยมากขึ้น, เก็บกดความแตกต่างโรงเรียนระดับอื่น ๆ เช่นภาครัฐหรือเอกชนที่มีขนาดใหญ่หรือเล็ก บทความนี้อยู่แล้วคำถามที่ว่าลักษณะโรงเรียนดังกล่าวสามารถเปลี่ยนแปลงได้โดยนโยบายเพื่อการปฏิรูปโรงเรียนและระบบการระดมทุนเมื่อเทียบกับนโยบายที่จะอนุญาตโรงเรียน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

รายงาน โคลแมน ตีพิมพ์ 12 ปีหลังจากการตัดสินใจ บราวน์ ยืนยันว่า การแยกโรงเรียนอย่างกว้างขวางในสหรัฐอเมริกาสร้างความเหลื่อมล้ำของโอกาสทางการศึกษา การศึกษานี้ตรวจสอบว่าทางเชื้อชาติและสังคมแยก ซึ่งมีขึ้นในสหรัฐอเมริกา ยังให้เกิดความแตกต่างระหว่างผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนการศึกษาครั้งนี้ใช้ข้อมูลจากการศึกษาแห่งชาติตามยาว ( 1988 ) แบบหลายระดับของการเจริญเติบโตของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเกรด 8 และ 12 ในคณิตศาสตร์วิทยาศาสตร์การอ่านและประวัติศาสตร์สำหรับตัวอย่างของ 14217 เรียนตัวอย่างที่เป็นตัวแทนของ 913 สหรัฐอเมริกาสูงโรงเรียนผลการศึกษาพบว่า ระดับค่าเฉลี่ยของโรงเรียนและนักเรียนได้รับผลกระทบมากต่อการเจริญเติบโตและความก้าวหน้าเป็นสถานภาพเศรษฐกิจและสังคม ของตนเอง , สุทธิขององค์ประกอบพื้นหลังอื่น ๆ นอกจากนี้ สถานภาพเศรษฐกิจสังคมโรงเรียนได้รับผลกระทบมาก advantaged ในนักเรียนด้อยโอกาส และเกือบเท่าต่อขาวกับคนดำเพิ่มคำถามเกี่ยวกับผลกระทบมีแนวโน้มของการรวมกลุ่มที่แพร่หลาย ผลกระทบของสภาพเศรษฐกิจ สังคม องค์ประกอบก็สามารถอธิบายได้ด้วยสี่โรงเรียนลักษณะ : ความคาดหวังของอาจารย์ การบ้านที่นักเรียนทำ จำนวนของหลักสูตรที่เข้มงวดนักเรียนนักศึกษาใช้เวลาและความรู้สึกเกี่ยวกับความปลอดภัยพบว่าโรงเรียนที่ให้บริการส่วนใหญ่ที่ลดลงรายได้นักเรียนมีแนวโน้มที่จะจัดและดำเนินการที่แตกต่างจากผู้ที่ให้บริการนักเรียนร่ํารวย , transcending ความแตกต่างระดับโรงเรียนอื่น เช่น รัฐหรือเอกชนขนาดเล็ก หรือขนาดใหญ่บทความนี้ แล้วถามว่าโรงเรียนที่อยู่ในลักษณะดังกล่าวสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามนโยบายการปฏิรูปโรงเรียนและระบบทุนและนโยบายย่อยของโรงเรียน