Before Snow moved to New York in 19

Before Snow moved to New York in 1961, he began a long-term project that for six years would be his trademark: the Walking Woman. Martha Langford in Michael Snow: Life & Work describes this work as employing a single form that offered an infinite number of creative possibilities, the figure itself perceived variably as “a positive (a presence to be looked at) and a negative (an absence to be looked through).” [6]

Langford identifies duality as a guiding principle in Snow’s work. By combining materials and methods Snow creates hybrid objects that often defy classification. [7] A work which exemplifies Snow's testing of stylistic boundaries is his 1979 installation Flight Stop, which looks like a sculptural representation of sixty geese, but is in fact an intricate combination of fibreglass forms and photographs of a single goose. [8]

Snow's works have been in Canadian pavilion at world fairs since his famous Walking Women sculpture was exhibited at Expo 67 in Montréal. His recent bookwork BIOGRAPHIE of the Walking Woman / de la femme qui marche 1961-1967 (2004) was published in Brussels by La Lettre vole. It consists of images of the public appearances of his globally famous icon.

Anarchive2: Digital Snow describes Michael Snow as “one of the most significant artists in contemporary art and cinema of the past 50 years.” This 2002 DVD was initiated by Paris’ Centre Pompidou and was produced with the support of la foundation Daniel Langlois, Université de Paris, Heritage Canada, the Canada Council, Téléfilm Canada and Montreal’s Époxy. It is an encyclopedia of Snow's works across media, browsed in a manner inimitably and artfully created by Snow. Its 4,685 entries include film clips, sculpture, photographs, audio and musical clips, and interviews.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ก่อนหิมะย้ายไปนิวยอร์กใน 1961 เขาเริ่มโครงการระยะยาวที่หกปีจะเป็นเครื่องหมายการค้าของเขา: ผู้หญิงเดิน มาร์ธา Langford ในหิมะ Michael: ชีวิตและงานอธิบายการทำงานนี้เป็นการใช้แบบฟอร์มเดียวที่เสนอจำกัดจำนวนของโอกาสที่สร้างสรรค์ รูปตัวเองถือว่า variably เป็น "บวก (สถานะการได้มอง) และลบ (การขาดงานจะถูกมองผ่าน)" [6]Langford ระบุทวิภาวะเป็นหลักแนวทางในการทำงานของหิมะ หิมะสร้างวัตถุผสมที่มักจะไม่สามารถจัดประเภท โดยรวมวัสดุและวิธีการ [7] A ทำงานที่ exemplifies ของหิมะทดสอบขอบเขตเป็นสำนวนคือ ติดตั้ง 1979 เขาบินหยุด ซึ่งดูเหมือนการแสดงรูปของห่าน 60 แต่ในความเป็นจริง ชุดที่ซับซ้อนของ fibreglass ฟอร์มและรูปห่านเดียว [8]ผลงานของหิมะได้ในแคนาดาพาวิลเลี่ยนในงานแสดงสินค้าโลกเนื่องจากมีการจัดแสดงประติมากรรมเดินผู้หญิงของเขามีชื่อเสียงที่ 67 เอ็กซ์โปในมอนทรีออ เขา bookwork ล่า BIOGRAPHIE ของผู้หญิงเดิน / เดอลาอย่างไร femme qui marche 1961-1967 (2004) ถูกเผยแพร่ในบรัสเซลส์ โดย La Lettre vole ประกอบด้วยภาพลักษณ์สาธารณะของไอคอนที่มีชื่อเสียงทั่วโลกของเขาAnarchive2: หิมะดิจิตอลอธิบายถึง Michael หิมะเป็น "หนึ่งในศิลปินที่สำคัญในศิลปะและภาพยนตร์ของปี 50 ผ่านมา" ดีวีดีนี้ 2002 เริ่ม โดยงศูนย์ปารีส และถูกผลิต ด้วยการสนับสนุนของมูลนิธิลา Époxy Daniel Langlois, Université de ปารีส แคนาดาเฮอริเทจ สภาแคนาดา Téléfilm แคนาดา และของมอนทรีออล ได้เป็นสารานุกรมของหิมะทำงานผ่านสื่อ การเรียกดูในลักษณะ inimitably และ artfully สร้างหิมะ รายการ 4,685 รวมคลิปฟิล์ม ประติมากรรม ภาพถ่าย เพลง และดนตรี คลิ ปและสัมภาษณ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ก่อนที่หิมะจะย้ายไปนิวยอร์กในปี 1961 เขาเริ่มโครงการระยะยาวที่เป็นเวลาหกปีจะเป็นเครื่องหมายการค้าของเขา: ผู้หญิงการเดิน มาร์ธา Langford ไมเคิลหิมะ: ชีวิตและการทำงานอธิบายการทำงานนี้เช่นการใช้รูปแบบเดียวที่นำเสนอจำนวนอนันต์ของความเป็นไปได้ความคิดสร้างสรรค์รูปตัวเองรับรู้แตก "เป็นบวก (การแสดงตนที่จะมองไปที่) และลบ (ขาดไป จะมองผ่าน). "[6] Langford ระบุคู่เป็นหลักการในการทำงานของหิมะ โดยการรวมวัสดุและวิธีการสร้างวัตถุหิมะไฮบริดที่มักจะต่อต้านการจัดหมวดหมู่ [7] งานที่เป็นตัวอย่างของการทดสอบหิมะขอบเขตโวหารคือการติดตั้ง 1979 ของเขาหยุดเที่ยวบินซึ่งมีลักษณะเหมือนการแสดงประติมากรรมห่านหกสิบ แต่ในความเป็นจริงการรวมกันที่ซับซ้อนของรูปแบบไฟเบอร์กลาสและรูปถ่ายของห่านเดียว [8] งานของหิมะได้รับในศาลาแคนาดาที่งานแสดงสินค้าโลกตั้งแต่เดินที่มีชื่อเสียงของเขาผู้หญิงประติมากรรมถูกจัดแสดงที่งานเอ็กซ์โปในมอนทรีออ 67 Biographie bookwork ของเขาที่ผ่านมาของผู้หญิงเดิน / de la เด็กหญิงใครมาร์เช่ 1961-1967 (2004) ถูกตีพิมพ์ในบรัสเซลส์ลา Lettre ท้องนา มันประกอบไปด้วยภาพของปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนของไอคอนของเขามีชื่อเสียงทั่วโลก. Anarchive2: ". เป็นหนึ่งในศิลปินที่สำคัญที่สุดในงานศิลปะร่วมสมัยและภาพยนตร์ที่ผ่านมา 50 ปี" หิมะดิจิตอลอธิบายไมเคิลหิมะนี้ 2,002 ดีวีดีถูกริเริ่มโดยปารีสศูนย์ Pompidou และผลิตด้วยการสนับสนุนของมูลนิธิแดเนียลลา Langlois ที่Université de Paris, มรดกแคนาดา, แคนาดาสภา Telefilm แคนาดาและอีพ็อกซี่ทรีล มันเป็นสารานุกรมงานของหิมะทั่วสื่อเรียกดูในลักษณะ inimitably และสร้างศิลปะจากหิมะ 4685 รายการของมันรวมถึงคลิปภาพยนตร์ประติมากรรมภาพถ่ายและคลิปเสียงดนตรีและการสัมภาษณ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ก่อนหิมะย้ายไปนิวยอร์กในปี 1961 เขาได้เริ่มโครงการระยะยาวนั้น 6 ปีจะเป็นเครื่องหมายการค้าของเขา : เดินผู้หญิง มาร์ธา Langford ในไมเคิลหิมะ : ชีวิต&งานอธิบายงานนี้ใช้รูปแบบเดียวที่เสนอความเป็นไปได้นับไม่ถ้วนที่สร้างสรรค์รูปที่ตัวเองรับรู้การเปลี่ยนแปลงเป็นบวก ( การแสดงจะมอง ) และลบ ( ขาดต้องดู ) . " [ 6 ]

Langford ระบุคู่เป็นแนวทางหลักในหิมะทำงาน โดยการรวมวัสดุและวิธีการสร้างวัตถุที่มักจะท้าหิมะ ไฮบริด การจำแนกประเภท[ 7 ] ซึ่งเป็นตัวอย่างทดสอบหิมะของขอบเขตโวหารคือ 1979 ติดตั้งเครื่องหยุด ซึ่งดูเหมือนว่าการแสดงประติมากรรมหกสิบห่าน แต่ในความเป็นจริงการรวมกันที่ซับซ้อนของรูปแบบไฟเบอร์กลาส และรูปถ่ายของห่านตัวเดียว [ 8 ]

หิมะมันทำงานได้ในศาลาแคนาดาที่วิชาการโลก ตั้งแต่ที่มีชื่อเสียงของเขาเดินผู้หญิงประติมากรรมถูกจัดแสดงที่งานเอ็กซ์โป 67 มนตรี ) อัล ชีวประวัติ bookwork ล่าสุดของเดินผู้หญิง / de la Femme qui มาช 1961-1967 ของเขา ( 2004 ) ถูกตีพิมพ์ในบรัสเซลส์โดยลา lettre หนูนา . ประกอบด้วยรูปลักษณะสาธารณะของไอคอนที่มีชื่อเสียงทั่วโลกของเขา . . . . . .

anarchive2 :ไมเคิลหิมะหิมะดิจิตอลอธิบายเป็น " หนึ่งในศิลปินที่สำคัญที่สุดในงานศิลปะร่วมสมัยและภาพยนตร์ในรอบ 50 ปี " นี้ 2002 ดีวีดีได้ริเริ่มโดยศูนย์ปอมปิดูปารีส ' และถูกผลิตด้วยการสนับสนุนของมูลนิธิแดเนียล แลนโกลิส จากมหาวิทยาลัยลา , ปารีส , มรดกแคนาดาแคนาดาสภา T é l éฟิล์ม แคนาดาและหลากหลายÉซอมบี้ไร้ญาติ .เป็นสารานุกรมของหิมะจะทำงานผ่านสื่อต่างๆ ในลักษณะ inimitably artfully และสร้างโดยหิมะ รายการของ 4685 รวมถึงคลิปภาพยนตร์ , ประติมากรรม , ภาพ , เสียงและคลิป , ดนตรี และ สัมภาษณ์