ชื่อสามัญ : Turmeric,Curcumaชื่อวิทยาศาสตร์ : Curcuma Longa Linnวงศ์ : การแปล - ชื่อสามัญ : Turmeric,Curcumaชื่อวิทยาศาสตร์ : Curcuma Longa Linnวงศ์ : ไทย วิธีการพูด

ชื่อสามัญ : Turmeric,Curcumaชื่อวิท

ชื่อสามัญ : Turmeric,Curcuma

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Curcuma Longa Linn

วงศ์ : ZINGIBERACEAE

ชื่ออื่น : ขมิ้นหัว,ขมิ้นแกง,ขมิ้นหยวก (เชียงใหม่) ขมิ้น (กลาง) หมิ้น,ขี้มิ้น (ภาคใต้) สะยอ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) ตา ยอ (กะเหรี่ยง-กำแพงเพชร)


ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์

เหง้าขมิ้นมีสารประกอบที่สำคัญ เป็นน้ำมันหอมระเหย "เอสเซนเซียล" และในเหง้ายังมีสารสีเหลืองส้มที่ทำให้ขมิ้นได้ชื่อว่า Curcumin จากการทดลองพบว่าขมิ้นสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา ลดอาการอักเสบ มีฤทธิ์ในการขับน้ำได้ดี น้ำมันหอมระเหยในขมิ้นมีสรรพคุณรักษาปวดท้องเสียด ท้องอืด แน่นจุกเสียด ขมิ้นไม่มีพิษเฉียบพลัน มีความปลอดภัยสูง

ลักษณะทั่วไป

ต้น: เป็นพรรณไม้ล้มลุก มีเหง้าอยู่ใต้ดินมากเป็นพรรณไม้เดียวกันกับว่านหรือขิง มีลำต้นสูงประมาณ 50-70 ซม. เนื้อในจะมีสีเหลืองอมส้ม และมีกลิ่นหอม

ใบ: เป็นใบเดี่ยวขนาดใหญ่ รูปหอกแกมขนานกัน กว้างประมาณ 8-10 ซม. และยาวประมาณ 30-40 ซม. ก้านใบยาวราวประมาณ 8-15 ซม. เป็นก้านใบแคบ ๆ มีร่องแผ่ครีออกเล็กน้อย หน้าแล้งใบนั้นจะแห้งเหลือเหง้าใต้ดินอยู่ ห้ามรดน้ำเพราะ ถ้าแฉะไปเหง้าก็จะเน่า แต่ถ้าฤดูฝน ฝนตกก็จะแทงต้นใหม่และออกดอก

ดอก: จะออกเป็นช่อใหญ่สวย ก้านช่อนั้นจะยาวพุ่งออกมาจากใต้ดิน ก้านช่อดอกมียาวประมาณ 5-8 ซม. ส่วนใบประดับสีเขียวอ่อน ๆ หรือ สีขาว ตรงปลายช่อดอกจะมีสีชมพูอ่อน จะจัดเรียงซ้อนกันอย่างระเบียบ ใบประดับ 1 ใบ จะมีดอกอยู่ 2 ดอก ใบประดับย่อยนั้นรูปขอบจะขนานยาว 3-3.5 ซม. กลีบรองกลีบดอกจะเชื่อมติดกันเป็นรูปท่อ มีขน กลีบดอกจะมีสีขาว ตรงโคนเชื่อมติดกันเป็นท่อยาว ปลายของมันจะแยกเป็น 3 ส่วน

เกสร: เกสรตัวผู้มีลักษณะคล้ายกลีบดอก มีขน ส่วนอับเรณูจะอยู่ใกล้ ๆ ปลาย ท่อเกสรตัวเมีย และ ยาว ยอดเกสรตัวเมียเป็นรูปปากแตร เกลี้ยง

รังไข่: จะมีอยู่ 3 ช่อง แต่ละช่องนั้น จะมีไข่อ่อนอยู่ 2 ใบ

การขยายพันธุ์ :

ก่อนที่จะปลูกควรทำการด้ายหญ้า เพื่อเป็นการกำจัดวัชพืชและทำการไถพรวนดิน มีความลึกประมาณ 20-30 ซม. แล้วปล่อยไว่นานหนึ่งอาทิตย์ ให้ดินแห้งเป็นการทำลายพวกแมลงและราบางชนิด หลังจากนั้นก็ทำการยกร่องให้สูงประมาณ 25 ซม. กว้าง 45-50 ซม. ท่อนพันธุ์ที่คัดปลูกควรจะมีอายุ 11-12 เดือน แล้วตัดเป็นท่อน ๆ โดยให้มีตาประมาณท่อนละ 1-2 ตา ก่อนที่จะลงมือปลูกควรแช่ท่อนพันธุ์ด้วยน้ำยาไดโฟลาแทน (Difolatan) เพื่อเป็นการป้องกันโรครากเน่า ควรใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักในร่องก่อนที่จะปลูก ควรจะปลูกต้นฤดูฝนราวพฤษภาคม ถ้าปลูกช้าฝนจะตกหนัก จะทำให้ขมิ้นที่ปลูกไว้เน่าตายได้ ระยะของการปลูก 900 ตารางเซนติเมตร หรือ 1225 ตารางเซนติเมตร ขุดหลุมลึกราว 6-8 เซนิเมตร หลังการปลูกได้ เจ็ดเดือน ขมิ้นจะเริ่มออกใบสีเหลือง แสดงว่าหัวของขมิ้นนั้นเริ่มแก่แล้ว ปล่อยทิ้งไว้ในแปลงจนกระทั่งมีอายุ 9-10 เดือนจึงทำการขุดได้

ส่วนที่ใช้ :

เหง้าที่แก่จัด ใช้ทั้งสดและแห้ง เหง้าแห้งนิยมปนเป็นผง

สรรพคุณ

มีการศึกษาพบว่า หากให้รับประทานขมิ้นพร้อมกับ อาหารจะช่วยป้องกันมะเร็งในลำไส้ และยังทำลาย ไวรัสที่ปนเปื้อนมากับอาหารได้ การกินอาหารที่ใส่ขมิ้น จึงน่าจะเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ นอกจากจะ ใช้ แต่งกลิ่นสีให้อาหารเท่านั้น
เนื่องจากเหง้าขมิ้นมีสารที่ยับยั้งการหลั่งของกรด จึงใช้ในการรักษาแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ แก้ท้องอืด ท้องเฟื้อ และยังช่วยเจริญอาหารด้วยขมิ้นยังมีผลดีต่อผิวหนัง คือ ช่วยรักษาโรคผิวหนัง แก้อาการผื่นคัน รักษากลากเกลื้อน รักษาแผลสด ระงับเชื้อ รักษาพิษโลหิตและเสมหะ ทั้งนี้ยังใช้ขับระดูสำหรับสตรีที่มีกลิ่นเหม็น และมีเลือดจับกันเป็นก้อนสีดำ จะช่วยละลายให้เลือดแตกเป็นลิ่ม ๆ ออกมา แก้บิดเป็นมูกเลือด แก้น้ำดีพิการ ช่วยขับลมให้ผายออกมาทางทวารหนัก หรือ ให้เรอออกมาทางปาก ฝนขมิ้นแล้วหยอดตา แก้อาการตาแดง ตาเปียกแฉะ มีขี้ตาเป็นประจำในฤดูแล้ง นอกจากแก้โรคแผลในลำไส ้และกระเพาะแล้วยังแก้ธาตุพิการ ท้องร่วงด้วย ถ้าหากมีอาการของไข้หวัด ขมิ้นก็สามารถใช้ดมแก้หวัด ขับเสมหะในลำคอ ผสมสมุนไพรอย่างอื่น ๆ เป็นยาคุมธาตุ แถมยังแก้อาการฟกช้ำดำเขียวตามร่างกาย ด้วยการเอาหัวสด ๆ มาตำพอกบรรเทาอาการอักเสบและเคล็ดขัดยอกไว้ด้วย นอกจากนี้ขมิ้นยังมีฤทธิ์ต้านวัณโรค แก้อาการไม่สบาย ลดไข้ รักษาไข้ผอมเหลือง บรรเทาอาการวิงเวียน ดมแก้หวัด ระงับอาการชัก รักษาฟัน แก้หญิงที่ตกโลหิต รักษาอาการโลหิตออกทางทวารหนักและเบา



เหง้า ใช้รักษาแผลในลำไส้ เจริญอาหาร ขับลม คล้ายกล้ามเนื้อเรียบในลำไส้ที่เกร็งตัว บรรเทาอาการวิงเวียน ไม่สบายมีฤทธิ์ต้านวัณโรค ระงับเชื้อ รักษาโรคผิวหนัง แก้หวัด ผื่นคัน เป็นยาบำรุง รักษากลากเกลื้อน ระงับอาการชัก ขับปัสสาวะ ลดไข้ ฆ่าเชื้อพยาธิ ป้องกันโรคหนองใน อาการฟกช้ำ รักษาแผลสด แก้ท้องขึ้น บรรเทาอาการท้องขึ้น ทำให้ผายลม รักษาไข้ผอมเหลือง ไข้ท้องมาน รักษาพิษ เสมหะและโลหิต ใช้เป็นยาขัดฟัน รักษาแผลในกระเพาะอาหาร รักษาฟัน แก้หญิงที่ตกโลหิต รักษาโลหิตออกทางทวารหนักและโลหิต นอกจากจะใช้เดี่ยวๆ แล้วขมิ้นยังเป็นส่วยผสมของตำรับยาสมุนไพร รักษารคต่าง ๆ คือ เหง้าจะมีส่วนผสมของน้ำมันมะพร้าว ใช้เป็นยาสมานแผลสดและแผลถลอก หรือใช้ผสมกับยานวดเพื่อเพื่อคลายเส้นยาคุมธาตุ รักษาเคล็ดขัดยอก รักษาชันนะตุในเด็ก บรรเทาอาการปวดฟัน และเหงือกบวม รักษาเคล็ดขัดยอก หรือน้ำกัดเท้า ส่วนในเหง้าขมิ้นนั้นจะมีสารสีเหลืองซึ่งเราเรียกว่า curcumin และ resin นอกจากนี้ยังมีน้ำมันระเหยประมาณ 5% ซึ่งประกอบด้วย borneol,camphene, zingerene,l.4cineol,sabinene และ phellandrene สารที่อยู่ภายใน หัวขมิ้นเป็นเครื่องบ่งชี้ถึงการทดสอบกรดบอริก ที่มีในผงชูรสปลอก ใบ ใช้ผสมกับยานวดเพื่อคลายเส้น ใช้ผสมเป็นยาอายุวัฒนะ รักษามะเร็ง ริดสีดวงทวารปวดมวนรักษาซาง และฝีดาษ และชักอาการไข้ รักษาผมที่หงอก ผมร่วง ผมคัน รักษามุตกิด ท้องอืด ท้องเฟ้อ รักษาแผลโรคผิวหนังผื่นคันบำรุงผิว รักษาอาการท้องเดิน ปวดท้อง ธาตุพิการ อุจจาระเป็นมูกโลหิต ลดอาการบวม รักษาไข้ปวดหัวตัวร้อน สารพัดไข้ ปวดศีรษะ รักษากาฬ รักษาพิษสำแลง-ของแสลง รักษาฝี บิดตานทรวง ถ่ายท้อง ท้องเดิน ท้องร่วง ลดการขับปัสสาวะ รักษามูกโลหิต โลหิตเน่า ขับน้ำคาวปลา รักษาตานขโมย แมงเตียนกินรากผม เหา รังแค กษัย บำรุงโลหิต เจริญอาหาร ผสมกับยาต้มห้ามโลหิตจากทวารทั้ง 9 หรืออาเจียนเป็นโลหิต ผสมยารักษาเกี่ยวกับโรคกระเพาะอา
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
ชื่อสามัญ: ขมิ้น ขมิ้นชื่อวิทยาศาสตร์: ขมิ้นชัน Linnวงศ์: วงศ์ขิงชื่ออื่น: ขมิ้นหัว ขมิ้นแกง ขมิ้นหยวก (เชียงใหม่) ขมิ้น (กลาง) หมิ้น ขี้มิ้น (ภาคใต้) สะยอ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) ตายอ (กะเหรี่ยง-กำแพงเพชร)ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ เหง้าขมิ้นมีสารประกอบที่สำคัญเป็นน้ำมันหอมระเหย "เอสเซนเซียล" และในเหง้ายังมีสารสีเหลืองส้มที่ทำให้ขมิ้นได้ชื่อว่าเคอร์จากการทดลองพบว่าขมิ้นสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียเชื้อราลดอาการอักเสบมีฤทธิ์ในการขับน้ำได้ดีน้ำมันหอมระเหยในขมิ้นมีสรรพคุณรักษาปวดท้องเสียดท้องอืดแน่นจุกเสียดขมิ้นไม่มีพิษเฉียบพลันมีความปลอดภัยสูงลักษณะทั่วไปต้น: 90X120X60 ซม.เป็นพรรณไม้ล้มลุกมีเหง้าอยู่ใต้ดินมากเป็นพรรณไม้เดียวกันกับว่านหรือขิงมีลำต้นสูงประมาณ 50-70 เนื้อในจะมีสีเหลืองอมส้มและมีกลิ่นหอมใบ: 90X120X60 ซม.เป็นใบเดี่ยวขนาดใหญ่รูปหอกแกมขนานกันกว้างประมาณ 8-10 90X120X60 และยาวประมาณ 30-40 ซม. 90X120X60 ก้านใบยาวราวประมาณ 8-15 ซม. เป็นก้านใบแคบๆ มีร่องแผ่ครีออกเล็กน้อยหน้าแล้งใบนั้นจะแห้งเหลือเหง้าใต้ดินอยู่ห้ามรดน้ำเพราะถ้าแฉะไปเหง้าก็จะเน่าแต่ถ้าฤดูฝนฝนตกก็จะแทงต้นใหม่และออกดอกดอก: 90X120X60 ซม.จะออกเป็นช่อใหญ่สวยก้านช่อนั้นจะยาวพุ่งออกมาจากใต้ดินก้านช่อดอกมียาวประมาณ 5-8 ส่วนใบประดับสีเขียวอ่อนๆ หรือสีขาวตรงปลายช่อดอกจะมีสีชมพูอ่อนจะจัดเรียงซ้อนกันอย่างระเบียบใบประดับ 1 ใบจะมีดอกอยู่ 2 ดอกใบประดับย่อยนั้นรูปขอบจะขนานยาว 3-3.5 90X120X60 ซม. กลีบรองกลีบดอกจะเชื่อมติดกันเป็นรูปท่อมีขนกลีบดอกจะมีสีขาวตรงโคนเชื่อมติดกันเป็นท่อยาวปลายของมันจะแยกเป็น 3 ส่วนเกสร: เกสรตัวผู้มีลักษณะคล้ายกลีบดอกมีขนส่วนอับเรณูจะอยู่ใกล้ๆ ปลายท่อเกสรตัวเมียและยาวยอดเกสรตัวเมียเป็นรูปปากแตรเกลี้ยงรังไข่: จะมีอยู่ 3 ช่องแต่ละช่องนั้นจะมีไข่อ่อนอยู่ 2 ใบการขยายพันธุ์:ก่อนที่จะปลูกควรทำการด้ายหญ้าเพื่อเป็นการกำจัดวัชพืชและทำการไถพรวนดินมีความลึกประมาณ 20-30 90X120X60 ซม. แล้วปล่อยไว่นานหนึ่งอาทิตย์ให้ดินแห้งเป็นการทำลายพวกแมลงและราบางชนิดหลังจากนั้นก็ทำการยกร่องให้สูงประมาณ 25 90X120X60 ซม. 90X120X60 ซม.กว้าง 45-50 ท่อนพันธุ์ที่คัดปลูกควรจะมีอายุ 11-12 เดือนแล้วตัดเป็นท่อนๆ โดยให้มีตาประมาณท่อนละ 1-2 ตาก่อนที่จะลงมือปลูกควรแช่ท่อนพันธุ์ด้วยน้ำยาไดโฟลาแทน (Difolatan) เพื่อเป็นการป้องกันโรครากเน่าควรใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักในร่องก่อนที่จะปลูกควรจะปลูกต้นฤดูฝนราวพฤษภาคมถ้าปลูกช้าฝนจะตกหนักจะทำให้ขมิ้นที่ปลูกไว้เน่าตายได้ระยะของการปลูก 900 ตารางเซนติเมตรหรือ 1225 ตารางเซนติเมตรขุดหลุมลึกราว 6-8 เซนิเมตรหลังการปลูกได้เจ็ดเดือนขมิ้นจะเริ่มออกใบสีเหลืองแสดงว่าหัวของขมิ้นนั้นเริ่มแก่แล้วปล่อยทิ้งไว้ในแปลงจนกระทั่งมีอายุ 9-10 เดือนจึงทำการขุดได้ส่วนที่ใช้:เหง้าที่แก่จัดใช้ทั้งสดและแห้งเหง้าแห้งนิยมปนเป็นผงสรรพคุณ มีการศึกษาพบว่าหากให้รับประทานขมิ้นพร้อมกับอาหารจะช่วยป้องกันมะเร็งในลำไส้และยังทำลายไวรัสที่ปนเปื้อนมากับอาหารได้การกินอาหารที่ใส่ขมิ้นจึงน่าจะเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพนอกจากจะใช้แต่งกลิ่นสีให้อาหารเท่านั้นเนื่องจากเหง้าขมิ้นมีสารที่ยับยั้งการหลั่งของกรดจึงใช้ในการรักษาแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้แก้ท้องอืดท้องเฟื้อและยังช่วยเจริญอาหารด้วยขมิ้นยังมีผลดีต่อผิวหนังคือช่วยรักษาโรคผิวหนังแก้อาการผื่นคันรักษากลากเกลื้อนรักษาแผลสดระงับเชื้อรักษาพิษโลหิตและเสมหะทั้งนี้ยังใช้ขับระดูสำหรับสตรีที่มีกลิ่นเหม็นและมีเลือดจับกันเป็นก้อนสีดำจะช่วยละลายให้เลือดแตกเป็นลิ่มๆ ออกมาแก้บิดเป็นมูกเลือดแก้น้ำดีพิการช่วยขับลมให้ผายออกมาทางทวารหนักหรือให้เรอออกมาทางปากฝนขมิ้นแล้วหยอดตาแก้อาการตาแดงตาเปียกแฉะมีขี้ตาเป็นประจำในฤดูแล้งนอกจากแก้โรคแผลในลำไส้และกระเพาะแล้วยังแก้ธาตุพิการท้องร่วงด้วยถ้าหากมีอาการของไข้หวัดขมิ้นก็สามารถใช้ดมแก้หวัดขับเสมหะในลำคอผสมสมุนไพรอย่างอื่นๆ เป็นยาคุมธาตุแถมยังแก้อาการฟกช้ำดำเขียวตามร่างกายด้วยการเอาหัวสดๆ มาตำพอกบรรเทาอาการอักเสบและเคล็ดขัดยอกไว้ด้วยนอกจากนี้ขมิ้นยังมีฤทธิ์ต้านวัณโรคแก้อาการไม่สบายลดไข้รักษาไข้ผอมเหลืองบรรเทาอาการวิงเวียนดมแก้หวัดระงับอาการชักรักษาฟันแก้หญิงที่ตกโลหิตรักษาอาการโลหิตออกทางทวารหนักและเบาเหง้าใช้รักษาแผลในลำไส้เจริญอาหารขับลมคล้ายกล้ามเนื้อเรียบในลำไส้ที่เกร็งตัวบรรเทาอาการวิงเวียนไม่สบายมีฤทธิ์ต้านวัณโรคระงับเชื้อรักษาโรคผิวหนังแก้หวัดผื่นคันเป็นยาบำรุงรักษากลากเกลื้อนระงับอาการชักขับปัสสาวะลดไข้ฆ่าเชื้อพยาธิป้องกันโรคหนองในอาการฟกช้ำรักษาแผลสดแก้ท้องขึ้นบรรเทาอาการท้องขึ้นทำให้ผายลมรักษาไข้ผอมเหลืองไข้ท้องมานรักษาพิษเสมหะและโลหิตใช้เป็นยาขัดฟันรักษาแผลในกระเพาะอาหารรักษาฟันแก้หญิงที่ตกโลหิตรักษาโลหิตออกทางทวารหนักและโลหิตนอกจากจะใช้เดี่ยว ๆ แล้วขมิ้นยังเป็นส่วยผสมของตำรับยาสมุนไพรรักษารคต่างๆ คือเหง้าจะมีส่วนผสมของน้ำมันมะพร้าวใช้เป็นยาสมานแผลสดและแผลถลอกหรือใช้ผสมกับยานวดเพื่อเพื่อคลายเส้นยาคุมธาตุรักษาเคล็ดขัดยอกรักษาชันนะตุในเด็กบรรเทาอาการปวดฟันและเหงือกบวมรักษาเคล็ดขัดยอกหรือน้ำกัดเท้าส่วนในเหง้าขมิ้นนั้นจะมีสารสีเหลืองซึ่งเราเรียกว่าเคอร์คูมินและเรซินนอกจากนี้ยังมีน้ำมันระเหยประมาณ 5% ซึ่งประกอบด้วยพิมเสน camphene, zingerene,l.4cineol,sabinene และ phellandrene สารที่อยู่ภายในหัวขมิ้นเป็นเครื่องบ่งชี้ถึงการทดสอบกรดบอริกที่มีในผงชูรสปลอกใบใช้ผสมกับยานวดเพื่อคลายเส้นใช้ผสมเป็นยาอายุวัฒนะรักษามะเร็งริดสีดวงทวารปวดมวนรักษาซางและฝีดาษและชักอาการไข้รักษาผมที่หงอกผมร่วงผมคันรักษามุตกิดท้องอืดท้องเฟ้อรักษาแผลโรคผิวหนังผื่นคันบำรุงผิวรักษาอาการท้องเดินปวดท้องธาตุพิการอุจจาระเป็นมูกโลหิตลดอาการบวมรักษาไข้ปวดหัวตัวร้อนสารพัดไข้ปวดศีรษะรักษากาฬรักษาพิษสำแลงของแสลงรักษาฝีบิดตานทรวงถ่ายท้องท้องเดินท้องร่วงลดการขับปัสสาวะรักษามูกโลหิตโลหิตเน่าขับน้ำคาวปลารักษาตานขโมยแมงเตียนกินรากผมเหารังแคกษัยบำรุงโลหิตเจริญอาหารผสมกับยาต้มห้ามโลหิตจากทวารทั้ง 9 หรืออาเจียนเป็นโลหิตผสมยารักษาเกี่ยวกับโรคกระเพาะอา
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
ชื่อสามัญ: ขมิ้นขมิ้นชื่อวิทยาศาสตร์: ขมิ้นชันวงศ์: Zingiberaceae ชื่ออื่น: ขมิ้นหัว, ขมิ้นแกง, ขมิ้นหยวก (เชียงใหม่) ขมิ้น (กลาง) หมิ้น, ขี้มิ้น (ภาคใต้) สะยอ (กะเหรี่ยง - แม่ฮ่องสอน) ตายอ เป็นน้ำมันหอมระเหย "เอสเซนเซียล" ขมิ้นชัน เชื้อราลดอาการอักเสบมีฤทธิ์ในการ ขับน้ำได้ดี จุกแน่นท้องอืดเสียดขมิ้นไม่มีพิษเฉียบพลันมีความสามารถปลอดภัยสูงสุดสูงลักษณะทั่วไปการคุณต้น: เป็นพรรณไม้ล้มลุก มีลำต้นสูงประมาณ 50-70 ซม ในห้างหุ้นส่วนจำกัดจะเนื้อมีสีเหลืองอมคุณส้มและมีกลิ่นหอมตั้งขึ้นคุณใบ: เป็นใบเดี่ยวขนาดใหญ่รูปหอกแกม ขนานกันกว้างประมาณ 8-10 ซม และยาวประมาณ 30-40 ซม ก้านใบยาวราวประมาณ 8-15 ซม เป็นก้านใบแคบ ๆ มีร่องแผ่ ครีออกเล็กน้อย รดน้ำเพราะห้ามถ้าแฉะไปเหง้าก็จะเน่า แต่ถ้าคุณฝนฤดูคุณฝนตกก็จะแทงคุณต้นใหม่และออกดอกคุณดอก: จะออกเป็นช่อใหญ่สวย ก้านช่อดอกมียาวประมาณ 5-8 ซม ส่วนใบประดับสีเขียวอ่อน ๆ หรือ สีขาวตรงปลายช่อดอกจะมีสีชมพูอ่อนจะจัดเรียงซ้อนกันอย่างระเบียบใบประดับ 1 ใบจะมีดอกอยู่ 2 ดอกใบประดับย่อยนั้นรูปขอบจะ ขนานยาว 3-3.5 ซม มีขนกลีบดอกจะมีสีขาว ตรงโคนเชื่อมติดกันเป็นท่อยาวปลายของมันจะแยกเป็น 3 ส่วนเกสร: เกสรตัวผู้มีลักษณะคล้ายกลีบดอกมี ขนส่วนอับเรณูจะอยู่ใกล้ ๆ ปลายท่อเกสรตัวเมียและยาวยอดเกสร เป็นรูปตัวเมียปากแตรเกลี้ยงรังไข่: จะมีอยู่ 3 ช่องแต่ละช่องนั้นจะมีไข่อ่อน อยู่ 2 คุณใบหัวเรื่อง: การขยายออกพันธุ์: ก่อนที่จะปลูกควรทำการด้ายหญ้า มีความลึกประมาณ 20-30 ซม แล้วปล่อยไว่นานหนึ่งอาทิตย์ 25 ซม กว้าง 45-50 ซม ท่อนพันธุ์ที่คัดปลูกควรจะมีอายุ 11-12 เดือนแล้วตัดเป็นท่อน ๆ โดยให้ มีตาประมาณท่อนละ 1-2 ตา (Difolatan) เพื่อเป็นการป้องกันโรครากเน่า ควรจะปลูกต้นฤดูฝนราวพฤษภาคม ถ้าปลูกช้าฝนจะตกหนักจะทำให้ขมิ้นที่ปลูกไว้เน่าตายได้ระยะของการปลูก 900 ตารางเซนติเมตรหรือ 1,225 ตารางเซนติเมตรขุดหลุมลึกราว 6-8 เซนิเมตรหลังการปลูกได้เจ็ด เดือน ขมิ้นจะเริ่มออกใบสีเหลือง ปล่อยทิ้งไว้ในแปลงจนกระทั่งมีอายุ 9-10 จึงทำการเดือนระเบียนขุดได้ส่วนที่ใช้: เหง้าที่แก่จัดใช้ทั้งสดและ แห้ง หากให้รับประทานขมิ้นพร้อมกับอาหารจะ ช่วยป้องกันมะเร็งในลำไส้และยังทำลายไวรัสที่ปนเปื้อนมากับอาหารได้การกินอาหารที่ใส่ขมิ้นจึงน่าจะเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพนอกจากจะใช้ แก้ท้องอืดท้องเฟื้อ คือช่วยรักษาโรคผิวหนังแก้อาการผื่น คันรักษากลากเกลื้อนรักษาแผลสดระงับเชื้อรักษาพิษโลหิตและเสมหะ และมีเลือดจับกันเป็นก้อนสี ดำจะช่วยละลายให้เลือดแตกเป็นลิ่ม ๆ ออกมาแก้บิดเป็นมูกเลือดแก้น้ำดีพิการช่วยขับลมให้ผายออกมาทางทวารหนักหรือให้เรอออกมาทางปากฝนขมิ้นแล้วหยอดตา แก้อาการตาแดงตาเปียกแฉะมีขี้ ตาเป็นประจำในฤดูแล้งนอกจากแก้โรคแผลในลำไส้และกระเพาะแล้วยังแก้ธาตุพิการท้องร่วงด้วยถ้าหากมีอาการของไข้หวัดขมิ้นก็สามารถใช้ดมแก้หวัดขับเสมหะในลำคอผสม สมุนไพรอย่างอื่น ๆ เป็นยาคุมธาตุ ด้วยการเอาหัวสด ๆ แก้อาการไม่สบายลดไข้รักษาไข้ ผอมเหลืองบรรเทาอาการวิงเวียนดมแก้หวัดระงับอาการชักรักษาฟันแก้หญิงที่ตกโลหิต ใช้รักษาแผลในลำไส้เจริญอาหารขับลม บรรเทาอาการวิงเวียนไม่สบายมีฤทธิ์ต้าน วัณโรคระงับเชื้อรักษาโรคผิวหนังแก้หวัดผื่นคันเป็นยาบำรุงรักษากลากเกลื้อนระงับอาการชักขับปัสสาวะลดไข้ฆ่าเชื้อพยาธิป้องกันโรคหนองในอาการฟกช้ำรักษาแผลสดแก้ท้องขึ้นบรรเทาอาการท้องขึ้นทำให้ผายลม รักษาไข้ผอมเหลืองไข้ท้องมานรักษาพิษ เสมหะและโลหิตใช้เป็นยาขัดฟันรักษาแผลในกระเพาะอาหารรักษาฟันแก้หญิงที่ตกโลหิตรักษาโลหิตออกทางทวารหนักและโลหิตนอกจากจะใช้เดี่ยว ๆ รักษารคต่าง ๆ คือเหง้าจะ มีส่วนผสมของน้ำมันมะพร้าวใช้เป็นยาสมานแผลสดและแผลถลอก รักษาเคล็ดขัดยอกรักษาชันนะตุในเด็กบรรเทา อาการปวดฟันและเหงือกบวมรักษาเคล็ดขัดยอกหรือน้ำกัดเท้า ขมิ้นชันและเรซินนอกจากนี้ยังมีน้ำมันระเหยประมาณ 5% ซึ่งประกอบด้วยพิมเสน, camphene, zingerene, l.4cineol, sabinene และ phellandrene สารที่อยู่ภายใน ที่มีในผงชูรสปลอกใบใช้ผสม กับยานวดเพื่อคลายเส้นใช้ผสมเป็นยาอายุวัฒนะรักษามะเร็งริดสีดวงทวารปวดมวนรักษาซางและฝีดาษและชักอาการไข้รักษาผมที่หงอกผมร่วงผมคันรักษามุตกิดท้องอืดท้องเฟ้อรักษาแผลโรคผิวหนังผื่นคัน บำรุงผิวรักษาอาการท้องเดินปวดท้องธาตุ พิการอุจจาระเป็นมูกโลหิตลดอาการบวมรักษาไข้ปวดหัวตัวร้อนสารพัดไข้ปวดศีรษะรักษากาฬรักษาพิษสำแลง - ของแสลงรักษาฝีบิดตานทรวง ถ่ายท้องท้องเดินท้องร่วงลดการขับปัสสาวะรักษามูก โลหิตโลหิตเน่าขับน้ำคาวปลารักษาตานขโมยแมง เตียนกินรากผมเหารังแคกษัยบำรุงโลหิตเจริญอาหารผสมกับยาต้มห้ามโลหิตจากทวารทั้ง 9 หรืออาเจียนเป็นโลหิตผสมยารักษาเกี่ยว กับโรคกระเพาะอา







































การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
ชื่อสามัญ : ขมิ้น , ขมิ้นชันชื่อวิทยาศาสตร์ : ขมิ้นชัน ลินน์วงศ์ : พืชวงศ์ขิงชื่ออื่น : ขมิ้นหัวขมิ้นแกงขมิ้นหยวก , , ( เชียงใหม่ ) ขมิ้น ( กลางหมิ้นขี้มิ้น ) , ( ภาคใต้ ) สะยอ ( กะเหรี่ยง - แม่ฮ่องสอน ) ตายอ ( กะเหรี่ยง - กำแพงเพชร )ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เหง้าขมิ้นมีสารประกอบที่สำคัญเป็นน้ำมันหอมระเหย " เอสเซนเซียล " และในเหง้ายังมีสารสีเหลืองส้มที่ทำให้ขมิ้นได้ชื่อว่าขมิ้นชันจากการทดลองพบว่าขมิ้นสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียเชื้อราลดอาการอักเสบมีฤทธิ์ในการขับน้ำได้ดีน้ำมันหอมระเหยในขมิ้นมีสรรพคุณรักษาปวดท้องเสีย จะท้องอืดแน่นจุกเสียดขมิ้นไม่มีพิษเฉียบพลันมีความปลอดภัยสูงลักษณะทั่วไปต้น : เป็นพรรณไม้ล้มลุกมีเหง้าอยู่ใต้ดินมากเป็นพรรณไม้เดียวกันกับว่านหรือขิงมีลำต้นสูงประมาณ 50-70 ซม . เนื้อในจะมีสีเหลืองอมส้มและมีกลิ่นหอมใบ : เป็นใบเดี่ยวขนาดใหญ่รูปหอกแกมขนานกันกว้างประมาณ 8-10 ซม . และยาวประมาณ 30-40 ซม . ก้านใบยาวราวประมาณ 8-15 ซม . เป็นก้านใบแคบจะมีร่องแผ่ครีออกเล็กน้อยหน้าแล้งใบนั้นจะแห้งเหลือเหง้าใต้ดินอยู่ห้ามรดน้ำเพราะถ้าแฉะไปเหง้าก็จะเน่าแต่ถ้าฤดูฝนฝนตกก็จะแทงต้นใหม่และออกดอกดอก : จะออกเป็นช่อใหญ่สวยก้านช่อนั้นจะยาวพุ่งออกมาจากใต้ดินก้านช่อดอกมียาวประมาณ 5-8 ซม . ไม่มีส่วนใบประดับสีเขียวอ่อนค็อคสีขาวตรงปลายช่อดอกจะมีสีชมพูอ่อนจะจัดเรียงซ้อนกันอย่างระเบียบใบประดับ 1 ใบจะมีดอกอยู่ 2 ดอกใบประดับย่อยนั้นรูปขอบจะขนานยาว 3-3.5 ซม . กลีบรองกลีบดอกจะเชื่อมติดกันเป็นรูปท่อมีขนกลีบดอกจะมีสีขาวตรงโคนเชื่อมติดกันเป็นท่อยาวปลายของมันจะแยกเป็น 3 ส่วนเกสร : เกสรตัวผู้มีลักษณะคล้ายกลีบดอกมีขนส่วนอับเรณูจะอยู่ใกล้จะปลายท่อเกสรตัวเมียและยาวยอดเกสรตัวเมียเป็นรูปปากแตรเกลี้ยงรังไข่ : จะมีอยู่ 3 ช่องแต่ละช่องนั้นจะมีไข่อ่อนอยู่ 2 ใบการขยายพันธุ์ :ก่อนที่จะปลูกควรทำการด้ายหญ้าเพื่อเป็นการกำจัดวัชพืชและทำการไถพรวนดินมีความลึกประมาณ 20-30 ซม . แล้วปล่อยไว่นานหนึ่งอาทิตย์ให้ดินแห้งเป็นการทำลายพวกแมลงและราบางชนิดหลังจากนั้นก็ทำการยกร่องให้สูงประมาณ 25 ซม . กว้าง 45-50 ซม . ท่อนพันธุ์ที่คัดปลูกควรจ
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: