Let anything happen outside, but do

Let anything happen outside, but do not react.

Observe the truth as it is. But when we don't know the technique of observing ourselves - the technique of self-realisation, the technique of truth realisation - then we can't work out our own salvation.

For example, you may try to divert your attention. You are very miserable and you can't change the other person or the outside situation, so you try to divert your mind. You go to the cinema or a theatre, or worse, to a bar or gambling casino, to divert your attention.

For a while you may feel that your misery is gone. This is an illusion: You have not come out of your misery; it is still there. You have merely diverted your attention, and the misery has gone deep inside. Time and time again it will erupt and overpower you. You have not come out of your misery.

There is another way of diverting your mind, this in the name of religion. You go to a temple, a mosque, a gurudwara, or a pagoda, to chant or pray. Your mind will be diverted, and you may feel quite happy. But again, this is an escape. You are not facing your problem. This was not the dharma of ancient India.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ปล่อยให้อะไรเกิดขึ้นภายนอก แต่ทำไม่ตอบสนอง

สังเกตความจริงก็ แต่เมื่อเราไม่รู้เทคนิคของการสังเกตตนเอง -เทคนิคของปัญหาด้วยตัวเอง เทคนิคของปัญหาจริง - แล้วเราไม่สามารถทำงานหาความรอดของเราเองได้

เช่น คุณอาจพยายามสำราญความสนใจของคุณได้ คุณอนาถมาก และคุณไม่สามารถเปลี่ยนแปลงบุคคลอื่นหรือสถานการณ์ภายนอก ดังนั้น คุณพยายามที่จะสำราญใจ คุณไปโรงภาพยนตร์ หรือโรงละคร หรือแย่ ลง บาร์หรือคาสิโนเล่นพนัน การสำราญความสนใจของคุณได้

สำหรับในขณะที่คุณอาจรู้สึกว่าความทุกข์ยากของคุณหายไปได้ นี้เป็นภาพลวงตาเป็น: คุณไม่ได้มาจากความทุกข์ยากของคุณ จึงยังคงมีอยู่ คุณมีเพียงเบี่ยงเบนความสนใจของคุณ และความทุกข์ยากที่ได้ไปลึก อีกครั้งมันจะลุกเป็นไฟ และเอาชนะคุณ คุณไม่ได้มาจากความทุกข์ยากของคุณ

มีอีกวิธีในการโอนใจ ในศาสนานี้ คุณไปวัด แหล่ง gurudwara หรือเป็น เจดีย์ การสวดมนต์อธิษฐาน จะเบี่ยงเบนจิตใจของคุณ และคุณอาจรู้สึกมีความสุขมาก แต่อีก จึงหนี คุณกำลังเผชิญกับปัญหาของคุณไม่ นี่ไม่ใช่ธรรมของอินเดียโบราณ.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ปล่อยให้อะไรเกิดขึ้นข้างนอก แต่ไม่ตอบสนองสังเกตความจริงที่เป็น แต่เมื่อเราไม่ได้รู้เทคนิคในการสังเกตตัวเอง - เทคนิคการตระหนักรู้ในตนเองเทคนิคของการก่อให้เกิดความจริง - แล้วเราไม่สามารถทำงานออกความรอดของเราเองตัวอย่างเช่นคุณอาจพยายามที่จะเบี่ยงเบนความสนใจของคุณ คุณมีความสุขมากและคุณไม่สามารถเปลี่ยนคนอื่นหรือสถานการณ์ภายนอกเพื่อให้คุณพยายามที่จะเบี่ยงเบนความสนใจความคิดของคุณ คุณไปดูหนังหรือละครหรือเลวบาร์หรือเล่นการพนันคาสิโนที่จะเบี่ยงเบนความสนใจของคุณสำหรับในขณะที่คุณอาจจะรู้สึกว่าความทุกข์ยากของคุณจะหายไป นี้เป็นภาพลวงตา: คุณยังไม่ได้ออกมาจากความทุกข์ยากของคุณมามันก็ยังคงมี คุณได้หันเหความสนใจเพียงความสนใจของคุณและความทุกข์ยากได้หายไปในส่วนลึกของ เวลาและเวลาอีกครั้งก็จะปะทุและเอาชนะคุณ ท่านยังไม่ได้ออกมาจากความทุกข์ยากของคุณมีวิธีการชักจูงใจของคุณนี้ในชื่อของศาสนาอื่น คุณไปที่วัด, มัสยิด, ทวาราหรือพระเจดีย์เพื่อสวดมนต์หรือสวดมนต์ ใจของคุณจะได้รับการหันเหความสนใจและคุณอาจจะรู้สึกว่ามีความสุขมาก แต่อีกครั้งนี้เป็นที่หลบหนี คุณยังไม่ได้เผชิญปัญหาของคุณ นี้ไม่ได้ธรรมะของอินเดียโบราณ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ให้อะไรเกิดขึ้นข้างนอก แต่ไม่ตอบสนอง

สังเกตความจริงตามที่มันเป็น แต่เมื่อเราไม่รู้เทคนิคการสังเกตตนเอง - เทคนิคของการตระหนักรู้ในตนเอง เทคนิค ความจริงแล้วเราไม่สามารถทำงานเพื่อความรอดของเราเอง

ตัวอย่างเช่นคุณอาจพยายามที่จะหันเหความสนใจของคุณ คุณจะทุกข์มาก และคุณไม่สามารถเปลี่ยนคนอื่นหรือสถานการณ์ภายนอกดังนั้นเธอจึงพยายามเบี่ยงเบนความคิดของคุณ คุณไปที่โรงหนังหรือโรงภาพยนตร์ หรือแย่ลง ไปที่บาร์หรือการพนันคาสิโน , เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของคุณ .

สำหรับในขณะที่คุณอาจรู้สึกว่า ความทุกข์ของคุณจะหายไป นี่คือภาพลวงตา : คุณไม่ได้ออกมาจากความทุกข์ มันยังคงมี คุณมีเพียงเบี่ยงเบนความสนใจของคุณ และความทุกข์ยากที่ได้ไปลึกเข้าไปข้างใน เวลาและเวลาอีกครั้งที่มันจะระเบิดและเอาชนะคุณคุณไม่ได้ออกมาจากความทุกข์ .

มีอีกวิธีหนึ่งของการเบี่ยงเบนความคิดของคุณนี้ในชื่อของศาสนา คุณไปที่ วัด มัสยิด ในคุรุดวารา หรือเจดีย์ สวดหรืออธิษฐาน จิตใจของคุณจะถูกเบี่ยงเบนและคุณอาจจะรู้สึกมีความสุขมาก แต่อีกครั้งนี้คือการหนี คุณจะไม่ต้องเผชิญปัญหาของคุณ นี่ไม่ใช่ธรรมะของอินเดียโบราณ