This study explores the application

This study explores the application of lean production and RFID
technology for improving the logistics efficiency in a three-tier
spare parts supply chain. This supply chain consists of a head quarter
(HQ), one central distribution center (CDC), 10 local distribution
centers (LDCs), and repair shops (RSs). HQ and CDC are responsible
for supplying spare parts to ten LDC on a daily basis, and these LDC
in turn supply spare parts to more than 400 local RS. HQ has an
Information System (IS) and each CDC, LDC, and RS has a Warehouse
Management System (WMS). There exist space for improvement
in current operations with both information flow and
material flow among the members in the studies supply chain,
and therefore this research adopts lean production and RFID to increase
the effectiveness and efficiency.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การศึกษานี้สำรวจการประยุกต์ใช้การผลิตแบบ lean และ RFIDเทคโนโลยีสำหรับการปรับปรุงประสิทธิภาพโลจิสติกส์ในสามระดับอะไหล่ซัพพลายเชน ห่วงโซ่อุปทานนี้ประกอบด้วยสี่หัว(HQ), หนึ่งกลางศูนย์ฯ (CDC), การจัดจำหน่าย 10ศูนย์ (หลวม ๆ), และร้านซ่อม (RSs) กองบัญชาการและ CDC ต้องรับผิดชอบสำหรับการจัดหาชิ้นส่วนอะไหล่ LDC สิบในแต่ละวัน และเหล่า LDCในการเปิดจัดหาอะไหล่ให้ RS ท้องถิ่นมากกว่า 400 มี HQ มีข้อมูลระบบ (IS) และแต่ละ CDC, LDC และ RS มีคลังระบบการจัดการ (WMS) มีพื้นที่สำหรับการปรับปรุงในปัจจุบันการดำเนินงานพร้อมทั้งกระแสข้อมูล และการไหลของวัสดุในหมู่สมาชิกในการศึกษาซัพพลายเชนและดังนั้น งานวิจัยนี้ใช้การผลิตแบบ lean และ RFID เพื่อเพิ่มประสิทธิผลและประสิทธิภาพ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษานี้เป็นการศึกษาการประยุกต์ใช้การผลิตและการ RFID ยัน
เทคโนโลยีสำหรับการปรับปรุงประสิทธิภาพโลจิสติกในสามชั้น
อะไหล่ห่วงโซ่อุปทาน ห่วงโซ่อุปทานนี้ประกอบด้วยสำนักงานใหญ่
(HQ) หนึ่งในศูนย์กระจายสินค้ากลาง (CDC), 10 จำหน่ายในประเทศ
ศูนย์ (LDCs) และร้านซ่อม (RSS) กองบัญชาการและ CDC มีความรับผิดชอบ
ในการจัดหาชิ้นส่วนอะไหล่ถึงสิบ LDC ในชีวิตประจำวันและ LDC เหล่านี้
ในการจัดหาอะไหล่หันไปกว่า 400 อาร์เอสในท้องถิ่น กองบัญชาการมี
ระบบสารสนเทศ (IS) และแต่ละ CDC, LDC และอาร์เอสมีคลังสินค้า
ระบบการจัดการ (WMS) จะมีช่องว่างที่มีอยู่สำหรับการปรับปรุง
ในการดำเนินงานในปัจจุบันมีทั้งการไหลของข้อมูลและ
การไหลของวัสดุในหมู่สมาชิกในห่วงโซ่การศึกษาอุปทาน
และดังนั้นงานวิจัยนี้ adopts ผลิตแบบลีนและ RFID เพื่อเพิ่ม
ประสิทธิผลและประสิทธิภาพ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การศึกษานี้เป็นการศึกษาการประยุกต์ใช้การผลิตแบบลีนและ RFIDเทคโนโลยีเพื่อการปรับปรุงประสิทธิภาพโลจิสติกส์ในสามชั้นห่วงโซ่การจัดหาชิ้นส่วนอะไหล่ ห่วงโซ่อุปทานประกอบด้วยหัวไตรมาส( HQ ) , ศูนย์กลางการกระจาย เซ็นเตอร์ ( CDC ) , 10 การกระจายท้องถิ่นศูนย์ ( ldcs ) และร้านซ่อม ( RSS ) สำนักงานใหญ่ และคณะเป็นผู้รับผิดชอบสำหรับการจัดหาอะไหล่สิบ LDC ในแต่ละวันและ LDC เหล่านี้ในการจัดหาอะไหล่เปิดมากกว่า 400 Rs HQ มีในท้องถิ่นระบบสารสนเทศ ( ) และแต่ละ CDC , LDC และ RS มีคลังสินค้าระบบการจัดการ ( WMS ) มีพื้นที่สำหรับการปรับปรุงในการดำเนินงานในปัจจุบัน มีทั้งข้อมูลการไหลและการไหลของวัสดุระหว่างสมาชิกในการศึกษาห่วงโซ่อุปทานดังนั้นงานวิจัยนี้ adopts Lean การผลิตและ RFID เพื่อเพิ่มประสิทธิผลและประสิทธิภาพ