Among the L. lactis strains tested,

Among the L. lactis strains tested, i.e., of both subspecies
lactis and cremoris, 11 were shown to produce putrescine
from agmatine. Such a capacity had already been
reported for some L. lactis strains [17], and putrescine-producing
L. lactis can be found in large numbers in cheeses
with high putrescine concentrations [55]. Not all the L. lactis
strains tested were able to produce putrescine, although
the capacity to produce it from agmatine has been described
as a species-level trait [17]. Traditionally, BA-producing
pathways have been thought horizontally acquired [44,
48]. The present L. lactis strains unable to synthesize
putrescine may have lost this capacity during their use in
the dairy environment. Putrescine would negatively affect
acidification and/or final flavor, and such putrescine-producing
strains would have been avoided [17]. The loss of
this capacity seems to have occurred in two ways: (1) via
the loss of the AGDI pathway genes, as shown for strains
of L. lactis subsp. cremoris, and (2) the inactivation of the
cluster by an insertion element (IS) in L. lactis subsp. lactis
strains [17]. To differentiate between putrescine and nonputrescine
producers, a specific PCR test is available [17]
in which non-putrescine-producing L. lactis subsp. cremoris
strains do not render a PCR band, while L. lactis subsp.
lactis non-putrescine-producing strains do, although the
amplification product is 1 kb larger than expected due to
the presence of an IS element. In the present work, none
of the non-putrescine-producing strains of L. lactis subsp.
cremoris was associated with any positive amplification,
while those of L. lactis subsp. lactis rendered the expected
enlarged amplicon (Fig. 1).
Variation in the efficiency of putrescine production was
observed among the producing strains of L. lactis; this
allowed their classification as ‘strong’ or ‘medium putrescine
producers’ (Table 2). Variation in the capacity to produce
putrescine from agmatine has been described before
among L. lactis subsp. cremoris strains [31]. In the present
work, however, the greatest variation was observed among
the L. lactis subsp. lactis producers (Table 2).
One of the most effective measures for reducing the
presence of BA in dairy products is the use of starter cultures
that have been properly tested and selected as non-BA
producers [22]. The present results show that both culturedependent
and culture-independent methods are appropriate
for ruling out BA-producing strains for use as starters
and adjunct cultures. The culture-independent methods
based on PCR testing detected not only BA producers but
also non-producer strains that possessed genes involved in
BA production; these pose a risk since they might be spread
by horizontal gene transfer.
There is increasing interest in the use of autochthonous
LAB strains in starter and adjunct cultures for producing
dairy products with PGI status [8, 57]. Strains intended for
use in their manufacture should be systematically monitored
for BA production capacity to avoid the accumulation
of these toxins and thus produce safer dairy products.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ระหว่างสายพันธุ์ lactis L. ที่ทดสอบ เช่น ของทั้งสองชนิดย่อยมีแสดง 11 ผลิต putrescine lactis และ cremorisจาก agmatine ความจุมาแล้วรายงาน L. lactis สายพันธุ์ [17], และ putrescine ผลิตL. lactis สามารถพบได้ในจำนวนมากในเนยแข็งมี putrescine สูงความเข้มข้น [55] Lactis L. ไม่ทั้งหมดทดสอบสายพันธุ์สามารถผลิต putrescine แม้ว่ามีการอธิบายความสามารถในการผลิตจาก agmatineเป็นสายพันธุ์ระดับการติด [17] ประเพณี BA ผลิตหลักการคิดแนวซื้อมา [4448] . ในปัจจุบัน L. lactis สายพันธุ์ไม่สามารถสังเคราะห์putrescine อาจได้สูญเสียกำลังการผลิตนี้ในระหว่างการใช้ในสิ่งแวดล้อมนม Putrescine จะส่งผลเสียต่อยู และ/หรือรสชาติสุดท้าย และเช่น putrescine ผลิตสายพันธุ์จะได้หลีกเลี่ยง [17] การสูญเสียกำลังการผลิตนี้น่าจะ เกิดขึ้นในสองวิธี: (1) ผ่านขาดทุนของ AGDI ทางเดินยีน ดังที่แสดงในสายพันธุ์L. lactis ถั่ว cremoris และ (2) ยกเลิกการเรียกของคลัสเตอร์ โดยการแทรกองค์ประกอบ (IS) ใน L. lactis ถั่ว lactisสายพันธุ์ [17] เพื่อแบ่งแยกระหว่าง putrescine และ nonputrescineผู้ผลิต ทดสอบ PCR เฉพาะจะพร้อมใช้งาน [17]ในที่ไม่ใช่ putrescine-ผลิต L. lactis ถั่ว cremorisสายพันธุ์ทำให้ PCR วง ในขณะที่ถั่ว L. lactisสายพันธุ์ไม่ใช่ putrescine-ผลิต lactis ทำ แม้ว่าการขยายผลิตภัณฑ์คือ 1 kb มีขนาดใหญ่กว่าที่คาดไว้เนื่องสถานะขององค์ประกอบของ IS ในการทำงานปัจจุบัน ไม่มีของสายพันธุ์ไม่ใช่ putrescine-ผลิตของ L. lactis ถั่วcremoris ถูกเชื่อมโยงกับการขยายบวกในขณะที่ของ L. lactis ถั่ว lactis แสดงที่คาดขยาย amplicon (Fig. 1)มีการเปลี่ยนแปลงในประสิทธิภาพการผลิต putrescineสังเกตระหว่างสายพันธุ์ producing ของ L. lactis นี้ได้จัดประเภทของพวกเขาเป็น 'แรง' หรือ ' putrescine ปานกลางผู้ผลิต (ตารางที่ 2) ความผันแปรในความสามารถในการผลิตมีการอธิบาย putrescine จาก agmatine ก่อนระหว่าง L. lactis ถั่ว cremoris สายพันธุ์ [31] ในปัจจุบันงาน อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดถูกตรวจสอบระหว่างL. lactis ถั่ว lactis ผู้ผลิต (ตารางที่ 2)หนึ่งในมาตรการที่มีประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อลดการสถานะของ BA ในนมคือ การใช้วัฒนธรรมสตาร์ทที่ได้ผ่านทดสอบ และเลือกเป็น BA ไม่ถูกต้องผู้ผลิต [22] ผลลัพธ์ปัจจุบันแสดงที่ culturedependent ทั้งสองและวัฒนธรรมอิสระวิธีเหมาะสมสำหรับปกครองออกบาผลิตสายพันธุ์เพื่อใช้เป็นอย่าและวัฒนธรรมเกียรติคุณ วิธีการไม่ขึ้นกับวัฒนธรรมตาม PCR ทดสอบพบผู้ผลิต BA ไม่เพียง แต่นอกจากนี้สายพันธุ์ไม่ใช่ผู้ผลิตที่เกี่ยวข้องกับยีนมอบBA ผลิต เหล่านี้มีความเสี่ยงเนื่องจากอาจจะกระจายโดยการถ่ายโอนยีนแนวนอนมีเพิ่มสนใจในการใช้ autochthonousห้องปฏิบัติการสายพันธุ์ใน starter และเกียรติคุณวัฒนธรรมการผลิตนม มีสถานะ PGI [8, 57] สำหรับสายพันธุ์ใช้ในการผลิตควรจะตรวจสอบอย่างเป็นระบบสำหรับ BA กำลังการผลิตเพื่อหลีกเลี่ยงการสะสมของเหล่านี้สารพิษ และทำให้นมปลอดภัยผลิต

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ท่ามกลางสายพันธุ์ L. lactis ทดสอบคือของทั้งสองชนิดย่อย
lactis และ cremoris 11 แสดงให้เห็นว่าการผลิต putrescine
จาก Agmatine กำลังการผลิตดังกล่าวได้รับการรายงานสำหรับบางสายพันธุ์ L. lactis [17] และ putrescine ผลิตลิตร lactis สามารถพบได้ในจำนวนมากในเนยแข็งที่มีความเข้มข้นสูงputrescine [55] ไม่ทั้งหมดลิตร lactis สายพันธุ์ที่ผ่านการทดสอบมีความสามารถในการผลิต putrescine แม้ว่ากำลังการผลิตได้จากAgmatine ได้รับการอธิบายเป็นลักษณะสายพันธุ์ระดับ[17] ตามเนื้อผ้า BA-การผลิตทางเดินได้รับการคิดที่ได้มาตามแนวนอน[44, 48] lactis ปัจจุบันลิตรสายพันธุ์ไม่สามารถสังเคราะห์putrescine อาจจะสูญเสียความสามารถนี้ในระหว่างการใช้งานในสภาพแวดล้อมนม putrescine ในเชิงลบจะมีผลต่อกรดและ/ หรือรสชาติสุดท้ายและ putrescine ผลิตเช่นสายพันธุ์ที่จะหลีกเลี่ยงได้[17] การสูญเสียความสามารถนี้ดูเหมือนว่าจะเกิดขึ้นในสองวิธี (1) ผ่านการสูญเสียของAGDI ยีนทางเดินที่แสดงสำหรับสายพันธุ์ของL. lactis subsp cremoris และ (2) การใช้งานของกลุ่มโดยองค์ประกอบแทรก(IS) ในแอล lactis subsp lactis สายพันธุ์ [17] ความแตกต่างระหว่าง putrescine และ nonputrescine ผลิตการทดสอบ PCR สามารถใช้ได้เฉพาะ [17] ในที่ที่ไม่ putrescine ผลิต L. lactis subsp cremoris สายพันธุ์ที่ไม่ทำให้วง PCR ในขณะที่แอล lactis subsp. lactis ที่ไม่ putrescine ผลิตสายพันธุ์ที่ทำแม้ว่าสินค้าที่ขยายเป็น1 กิโลไบต์มีขนาดใหญ่กว่าที่คาดไว้เนื่องจากการปรากฏตัวขององค์ประกอบคือ ในการทำงานในปัจจุบันที่ไม่มีของสายพันธุ์ที่ไม่ putrescine ผลิตของ L. lactis subsp. cremoris มีความสัมพันธ์กับการขยายในเชิงบวกใด ๆขณะที่แอล lactis subsp lactis แสดงผลที่คาดว่าจะamplicon ขยาย (รูปที่ 1).. การเปลี่ยนแปลงในประสิทธิภาพการผลิต putrescine เป็นข้อสังเกตในหมู่สายพันธุ์การผลิตแอลlactis; นี้ได้รับอนุญาตให้จัดหมวดหมู่ของพวกเขาเป็น 'ที่แข็งแกร่ง' หรือ 'putrescine กลางผู้ผลิต(ตารางที่ 2) การเปลี่ยนแปลงในความสามารถในการผลิตputrescine จาก Agmatine ได้รับการอธิบายก่อนในหมู่L. lactis subsp สายพันธุ์ cremoris [31] ในปัจจุบันการทำงานแต่การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดพบว่าในหมู่ลิตรlactis subsp lactis ผลิต (ตารางที่ 2). หนึ่งในมาตรการที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดเพื่อลดการปรากฏตัวของบริติชแอร์เวย์ในผลิตภัณฑ์นมคือการใช้เชื้อจุลินทรีย์เริ่มต้นที่ได้รับการทดสอบอย่างถูกต้องและเลือกเป็นไม่-BA ผลิต [22] ผลลัพธ์ที่ได้แสดงให้เห็นว่าทั้งสอง culturedependent และวิธีการเพาะเลี้ยงอิสระที่มีความเหมาะสมสำหรับการพิจารณาคดีออกสายพันธุ์ BA-การผลิตเพื่อใช้เป็น starters และวัฒนธรรมเสริม วิธีการเพาะเลี้ยงที่เป็นอิสระจากการทดสอบ PCR ตรวจพบไม่เพียง แต่ผลิตปริญญาตรี แต่ยังสายพันธุ์ที่ไม่ได้ผลิตที่มียีนที่เกี่ยวข้องกับการผลิตบริติชแอร์เวย์; เหล่านี้ก่อให้เกิดความเสี่ยงเนื่องจากพวกเขาอาจจะมีการแพร่กระจายโดยการถ่ายโอนยีนแนวนอน. มีดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นในการใช้ autochthonous สายพันธุ์ LAB ในวัฒนธรรมที่เริ่มต้นและช่วยในการผลิตผลิตภัณฑ์นมที่มีสถานะPGI [8 57] สายพันธุ์ที่มีไว้สำหรับใช้ในการผลิตของพวกเขาควรจะตรวจสอบอย่างเป็นระบบสำหรับกำลังการผลิตของบริติชแอร์เวย์เพื่อหลีกเลี่ยงการสะสมของสารพิษเหล่านี้จึงผลิตผลิตภัณฑ์นมที่ปลอดภัย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ระหว่าง L . lactis สายพันธุ์ทดสอบ เช่น ของทั้งสองชนิดย่อย
lactis cremoris และ 11 พบผลิต putrescine
จาก agmatine . เช่นความจุได้รับรายงานบาง L . lactis สายพันธุ์
[ 17 ] และ putrescine ผลิต
L . lactis สามารถพบได้ในจำนวนมากในเนยแข็ง
สูง putrescine ความเข้มข้น [ 55 ] ไม่ทั้งหมด . lactis
สายพันธุ์ทดสอบสามารถผลิต putrescine ,แม้ว่า
ความสามารถผลิตจาก agmatine ได้รับการอธิบายว่าเป็นสายพันธุ์ แต่ละระดับ
[ 17 ] ผ้าบาผลิต
ทางเดินได้รับความคิดในแนวนอนได้ [ 44
48 ] ปัจจุบัน L . lactis สายพันธุ์ไม่สามารถสังเคราะห์
putrescine อาจมีความสามารถนี้สูญหายไปในระหว่างการใช้ใน
จากสภาพแวดล้อม putrescine ลบจะมีผลต่อ
สร้างและ / หรือรสสุดท้ายและเช่น putrescine ผลิต
สายพันธุ์จะหลีกเลี่ยงได้ [ 17 ] การสูญเสีย
ความจุนี้ดูเหมือนจะเกิดขึ้นในสองวิธี : ( 1 ) ผ่าน
การสูญเสียของ agdi ทางเดินยีน แสดงเป็นสายพันธุ์
L . lactis subsp . cremoris และ ( 2 ) การยับยั้งของ
กลุ่มโดยการแทรกองค์ประกอบ ( คือ ) L . lactis subsp .
lactis สายพันธุ์ [ 17 ] ความแตกต่างระหว่าง nonputrescine
putrescine และผู้ผลิต การทดสอบ PCR ที่เฉพาะเจาะจงสามารถใช้ได้ [ 17 ]
ที่ไม่ใช่การผลิต L . lactis subsp putrescine . cremoris
สายพันธุ์ที่ไม่แสดงโดยวงดนตรี ในขณะที่ L . lactis subsp .
lactis สายพันธุ์ putrescine ผลิตไม่ทำ แม้ว่าผลิตภัณฑ์
( 1 กิโลไบต์ขนาดใหญ่กว่าที่คาดไว้เนื่องจาก
การปรากฏตัวของเป็นองค์ประกอบ ในงานปัจจุบัน ไม่มี
ของไม่ L . lactis subsp putrescine การผลิตสายพันธุ์
.ที่เกี่ยวข้องกับ cremoris บวกขยาย
ส่วน L . lactis subsp . lactis ให้คาดขยายและ

( รูปที่ 1 ) การเปลี่ยนแปลงในประสิทธิภาพของการผลิต putrescine คือ
สังเกตระหว่างการผลิตเชื้อ L . lactis ; นี้
อนุญาตหมวดหมู่ของพวกเขาเป็น ' แข็งแรง ' หรือ ' กลาง putrescine
ผู้ผลิต ( ตารางที่ 2 ) การเปลี่ยนแปลงในความสามารถที่จะผลิต
จาก agmatine putrescine ได้รับการอธิบายก่อน
ระหว่าง L . lactis subsp . cremoris สายพันธุ์ [ 31 ] ในปัจจุบัน
งาน อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือสังเกตหมู่
L . lactis subsp . lactis ผู้ผลิต ( ตารางที่ 2 ) .
หนึ่งในมาตรการที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดเพื่อลดการปรากฏตัวของ BA ในผลิตภัณฑ์นม

เริ่มต้นคือการใช้วัฒนธรรมที่ได้รับการทดสอบได้อย่างถูกต้อง และเลือกเป็นไม่บา
ผู้ผลิต [ 22 ] ผลแสดงให้เห็นว่าทั้ง culturedependent
และวัฒนธรรมวิธีการอิสระเหมาะสม
สำหรับการปกครองออกบาผลิตสายพันธุ์เพื่อใช้เป็น starters
เสริมและวัฒนธรรม วัฒนธรรมอิสระวิธีการ
ขึ้นอยู่กับการทดสอบ PCR พบว่าไม่เพียงแต่ผู้ผลิต BA แต่
ยังไม่ใช่ผู้ผลิตสายพันธุ์มียีนที่เกี่ยวข้องกับการผลิต
b ;เหล่านี้ก่อให้เกิดความเสี่ยงเนื่องจากพวกเขาอาจจะแพร่กระจายโดยการถ่ายทอดยีนในแนวราบ
.
มีดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นในการใช้ autochthonous
Lab สายพันธุ์ใน Starter และเสริมวัฒนธรรมการผลิต
นมกับ PGI สถานะ [ 8 , 9 ] สายพันธุ์ที่มีไว้สำหรับใช้ในการผลิตของพวกเขา
ควรมีระบบตรวจสอบ
สำหรับ BA การผลิตเพื่อหลีกเลี่ยงการสะสม
สารพิษเหล่านี้และทำให้การผลิตผลิตภัณฑ์นมปลอดภัย