เมื่อตรวจพบError(ด้วยวิธีParity Che

เมื่อตรวจพบError(ด้วยวิธีParity Check, CRC หรือChecksum ฯลฯ) แล้ว กระบวนการถัดไป คือการแก้ไขError นั้น(Error Correction) ซึ่งมี 3วิธี ดังนี้
•Retransmission วิธีแก้ไขError ที่ง่ายที่สุด คือเมื่อตรวจพบ อุปกรณด้านส่งจะแจ้งไปยังอุปกรณ์ด้านส่ง เพื่อร้องขอ(REQ)ให้มีการส่งข้อมูลมาใหม่ทั้งชุด
•Forward Error Correction (FEC)คือวิธีที่แก้ไข Error อัตโนมัติที่ด้านรับ ทั้งนี้โดยอาศัยกลไกของการเข้ารหัสแบบพิเศษ เรียกว่า Error Correcting Code ซึ่งมีความซับช้อนมากกว่าการตรวจจับ Error ทั่วไป และต้องการ Redundant Bits มากกว่า
•Burst Error Correction คือวิธีที่แก้ไข Burst Error โดยอาศัยการจัดเรียงข้อมูลในรูปแบบใหม่

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เมื่อตรวจพบError (เครื่อง ด้วยวิธีParity, CRC หรือChecksum ฯลฯ) แล้วกระบวนการถัดไป คือการแก้ไขError นั้น (การแก้ไขข้อผิดพลาด) ซึ่งมี 3วิธี ดังนี้•Retransmission วิธีแก้ไขError ที่ง่ายที่สุดคือเมื่อตรวจพบให้มีการส่งข้อมูลมาใหม่ทั้งชุดอุปกรณด้านส่งจะแจ้งไปยังอุปกรณ์ด้านส่งเพื่อร้องขอ (REQ)•Forward ข้อผิดพลาดการแก้ไข (FEC) คือวิธีที่แก้ไขพลาดอัตโนมัติที่ด้านรับทั้งนี้โดยอาศัยกลไกของการเข้ารหัสแบบพิเศษเรียกว่าข้อผิดพลาดแก้ไขรหัสซึ่งมีความซับช้อนมากกว่าการตรวจจับข้อผิดพลาดทั่วไปและต้องการซ้ำซ้อนบิตมากกว่า•Burst ข้อผิดพลาดการแก้ไขคือวิธีที่แก้ไขระเบิดข้อผิดพลาดโดยอาศัยการจัดเรียงข้อมูลในรูปแบบใหม่

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เมื่อตรวจพบข้อผิดพลาด (ด้วยวิธีตรวจสอบพาริตี้ซีอาร์ซีหรือ Checksum ฯลฯ ) แล้วกระบวนการถัดไปคือการแก้ไขข้อผิดพลาดนั้น (ข้อผิดพลาดแก้ไข) ซึ่งมี 3 วิธีดังนี้
• Retransmission วิธีแก้ไขข้อผิดพลาดที่ง่ายที่สุดคือเมื่อตรวจพบ
แก้ไขข้อผิดพลาด (FEC) คือวิธีที่แก้ไขข้อผิดพลาดอัตโนมัติที่ด้านรับ เรียกว่าข้อผิดพลาดการแก้ไขรหัส ข้อผิดพลาดทั่วไปและต้องการซ้ำซ้อนบิตมากกว่า
•ข้อผิดพลาด Burst แก้ไขคือวิธีที่แก้ไขข้อผิดพลาด Burst