At the height of the crisis, on Dec

At the height of the crisis, on December 4, 1997, His Majesty stated:
“All of this has made me think about how this crisis has come about. Our country is rich in natural resources and we been designated to become an economic power. How is it that we are facing this crisis? In fact, this crisis could have been detected a long time ago … but nobody was aware of it … Recently so many projects have been implemented; so many factories have been built that it was thought that Thailand would become a little tiger, and then a big tiger. People were crazy about becoming a tiger….I am telling you these things because they are the cause of the crisis…” (Royal Speech, given at Dusit Palace, on 4 December 1997)
For the corporate sector, Sufficiency Economy Philosophy suggests greater emphasis on good risk management, well thought-out business plans, sustainable investment, good corporate governance, as well as good corporate citizenship in terms of taking on corporate social responsibilities.
Concerning business practices, His Majesty has emphasized many times that:
“Any venture must be carried out with careful consideration and one must not be over-enthusiastic. … if we carry out an adequate project of a moderate size, it would perhaps not be so showy, but it would not fail, or even it failed, the loss would not be so great…” (Royal Speech, given at Dusit Palace, 4 December 1997)

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ที่ระดับความสูงของวิกฤตเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 1997 เสด็จฯ ระบุ:
"ทั้งหมดนี้ทำให้ฉันคิดเกี่ยวกับวิธีการวิกฤติการณ์ครั้งนี้ได้มาเกี่ยวกับ ประเทศของเราอุดมไปด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติและเราถูกกำหนดให้เป็นอำนาจทางเศรษฐกิจ วิธีการก็คือการที่เรากำลังเผชิญวิกฤติการณ์ครั้งนี้? ในความเป็นจริง,วิกฤติการณ์ครั้งนี้จะได้รับการตรวจพบเป็นเวลานานแล้ว ... แต่ไม่มีใครได้ตระหนักถึงมัน ... เมื่อเร็ว ๆ นี้ดังนั้นหลายโครงการที่มีการดำเนินการ; โรงงานจำนวนมากได้ถูกสร้างขึ้นที่ใคร ๆ ก็คิดว่าประเทศไทยจะกลายเป็นเสือน้อยและแล้วเสือโคร่งขนาดใหญ่ คนเป็นเสือ .... ฉันบอกคุณสิ่งเหล่านี้เพราะพวกเขาเป็นสาเหตุของวิกฤติ ... "(พระราชดำรัส,ให้ที่พระราชวังดุสิตเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 1997)
สำหรับภาคธุรกิจ, ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงชี้ให้เห็นความสำคัญมากขึ้นในการบริหารความเสี่ยงที่ดีคิดว่าดีออกแผนธุรกิจการลงทุนที่ยั่งยืน, การกำกับดูแลกิจการที่ดีเช่นเดียวกับการเป็นพลเมืองดูแลกิจการที่ดีในแง่ของการ การที่รับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร.
ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เน้นหลายครั้งว่า:
"ทุนใด ๆ จะต้องดำเนินการกับการพิจารณาอย่างรอบคอบและจะต้องไม่เกินความกระตือรือร้น ... ถ้าเราทำโครงการที่เหมาะสมขนาดที่เหมาะสมก็จะอาจจะไม่ได้หรูหรา แต่มันจะไม่ล้มเหลวหรือแม้จะล้มเหลวในการสูญเสียจะไม่ดีดังนั้น ... "(พระราชดำรัสให้ที่พระราชวังดุสิต 4 ธันวาคม 1997)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ที่วิกฤต บน 4 ธันวาคม ปี 1997 ระบุแนว:
"ทั้งหมดนี้ได้ได้ฉันคิดว่า มีวิกฤตนี้มาเกี่ยวกับ ประเทศของเราจะอุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ และเราถูกกำหนดให้เป็น อำนาจทางเศรษฐกิจ คือว่า เรากำลังเผชิญกับวิกฤตนี้ได้อย่างไร อันที่จริง วิกฤตนี้ได้พบนานมาแล้ว... แต่ไม่มีใครได้รับทราบ... เมื่อเร็ว ๆ นี้ หลายโครงการมีการดำเนิน โรงงานจำนวนมากได้ถูกสร้างที่เราเคยคิดกันว่า ประเทศไทยจะกลายเป็น เสือน้อย และเสือใหญ่ คนบ้าเกี่ยวกับการเป็น เสือ...ฉันบอกคุณสิ่งเหล่านี้เพราะเป็นสาเหตุของวิกฤติ... " (พระบรมราโชวาท ณโรงแรมดุสิตพาเลซ บน 4 1997 ธันวาคม)
สำหรับภาคธุรกิจ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเน้นการบริหารความเสี่ยงที่ดี แผนธุรกิจดี thought-out ลงทุนอย่างยั่งยืน กำกับ ตลอดจนบริษัทที่ดีในการบนขององค์กรทางสังคมความรับผิดชอบมากกว่าที่แนะนำ
เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ พระได้ย้ำหลายครั้งว่า:
"กิจการใด ๆ ต้องทำอย่างรอบคอบ และหนึ่งต้องไม่มีความกระตือรือร้นมากเกินไป ...ถ้าเราดำเนินโครงการมีเพียงพอขนาดปานกลาง อาจจะไม่ฉูดฉาดดังนั้น แต่จะไม่ล้มเหลว หรือแม้กระทั่งล้ม การสูญเสียจะไม่ดีดังนั้น... " (พระบรมราโชวาท ณพระราชวังดุสิต 4 1997 ธันวาคม)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ที่ระดับความสูงของวิกฤติเศรษฐกิจที่อยู่บนวันที่ 4 ธันวาคม 1997 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกล่าวว่า:
"ทั้งหมดนี้ได้ทำให้ผมคิดว่าเกี่ยวกับการเกิดวิกฤตินี้ได้เข้ามาเกี่ยวกับ ประเทศของเราคือที่พักที่หรูหราในทรัพยากรธรรมชาติและเราได้รับมอบหมายให้เป็นอำนาจทางเศรษฐกิจได้ วิธีการก็คือว่าเราจะหันหน้าเข้าหาวิกฤตนี้ ในความเป็นจริงแล้ววิกฤตินี้จะมีการตรวจพบเมื่อนานมาแล้ว...แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าของมัน...เมื่อไม่นานมานี้อีกหลายโครงการดังนั้นจึงมีการนำมาใช้โรงงานจำนวนมากจึงมีการสร้างขึ้นว่ามันเป็นความคิดที่ว่าประเทศไทยจะกลายเป็นเสือตัวเล็กๆแล้วเสือตัวโต ผู้คนเสียสติเกี่ยวกับการเป็นเสือที่.....ผมกำลังบอกให้คุณสิ่งเหล่านี้เพราะเขาจะทำให้เกิดวิกฤติ..."(พระราชดำรัสในพระราชวังดุสิตเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 1997 )
ของธุรกิจปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงปรัชญาชี้ให้เห็นถึงความสำคัญมากขึ้นในการบริหารความเสี่ยงที่ดีมีการวางแผนทางธุรกิจที่ดีความคิดออกจากการลงทุนอย่างยั่งยืนการกำกับดูแลกิจการที่ดีและการเป็นพลเมืองของโลกที่ดีในเรื่องของการรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร.
เกี่ยวกับแนวทางการดำเนินธุรกิจพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเน้นย้ำถึงมีจำนวนมากครั้งที่:
"บริษัทร่วมทุนใดๆจะต้องเป็นการดำเนินการโดยได้รับการพิจารณาอย่างรอบคอบและต้องไม่มีมากกว่า - กระตือรือร้น ...หากเราออกจากโครงการที่เหมาะสมของขนาดกลางที่จะอาจจะไม่ใช่เป็นหมากผู้หมากเมียแล้วแต่ก็จะไม่เกิดความล้มเหลวหรือแม้แต่จะล้มเหลวการสูญเสียที่จะไม่ได้เป็นอย่างมาก...."(พระราชดำรัสที่พระราชวังดุสิต 4 ธันวาคม 1997 )